VGI แจงกำไร Q1 งวดปี 65/66 โตกว่า 150% รายได้รวมทะลุ 1 พันลบ.ทุกธุรกิจฟื้น VGI ผลประกอบการ วีจีไอ หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วีจีไอ กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 65/66 เติบโตแข็งแกร่ง ด้วยรายได้จากการให้บริการและการขาย 1,042 ล้านบาท เติบโต 74.9% เมื่อเมียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท เติบโตถึง 153.5% ปัจจัยหลักมาจากการควบรวมผลการดำเนินงานของบริษัท แฟนสลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด และการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดของทุกหน่วยธุรกิจ
ไตรมาสแรกของงวดปี 65/66 ของ VGI เริ่มต้นได้อย่างสดใส โดยบริษัทมีรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านเพิ่มขึ้น 8.8% YoY คิดเป็น 411 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ได้รับอานิสงส์จากจำนวนผู้โดยสารบน BTS ที่เพิ่มขึ้น และแรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวตามมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง อีกทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดีจากแบรนด์และนักการตลาดที่ให้ความสนใจในแพ็คเกจสื่อประเภท Street View ช่วยส่งให้ทำยอดขายได้มากขึ้น
ด้านธุรกิจบริการชำระเงิน สามารถผลักดันการสร้างรายได้เพิ่มสูงถึง 19.5% YoY หรือคิดเป็นมูลค่า 260 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนหลักจากรายได้จากการใช้จ่ายผ่านบัตรแรบบิท และการขายบัตรแรบบิท อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลอดจนรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้กลุ่มแรบบิท ซึ่งปัจจุบันบัตรแรบบิทมีจำนวน 15.3 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 6.7% YoY ส่วน Rabbit LINE Pay มียอดผู้ใช้บริการกว่า 9.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.
สำหรับธุรกิจการจัดจำหน่าย สามารถทำรายได้อยู่ที่ 370 ล้านบาท ซึ่งมาจากการรวมผลการดำเนินงานของ Fanslink แบบเต็มไตรมาสที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือน ส.ค.64 ที่ผ่านมา โดยรวมแล้วทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทสามารถกลับมาบันทึกกำไรได้เป็นผลสำเร็จอีกครั้ง แม้ในช่วงครึ่งแรกของปี 65 จะมีผลกระทบเชิงลบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามธนาคารแห่งประเทศไทย ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ 3.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
WP แจง Q2/65 ผลงานโตรับราคา-ปริมาณขาย LPG พุ่ง พร้อมคาด H2/65 ยังโตต่อ : อินโฟเควสท์นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.65) ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 42.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.39 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 75.36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 3,482 ล้านบาท, รายได้อื่นๆ เท่ากับ 48 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.7% ของปีก่อนหน้า เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคครัวเรือนมีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจนตามการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจรวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้ก๊าซทดแทนมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 165 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังทยอยรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 20 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ …
อ่านเพิ่มเติม »
SABUY ทุ่ม 1.8 พันลบ.เข้าถือหุ้นใน AS พร้อมขาย PTECH แลกเข้าซื้อที่ดิน TSR : อินโฟเควสท์บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 15/2565 มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญใน บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) จำนวนไม่เกิน 73,720,904 หุ้น หรือคิดเป็น 15.70% ของหุ้นทั้งหมดใน AS และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ AS ครั้งที่ 2 (AS-W2) จำนวนไม่เกิน 33,837,554 หน่วย จากนายปราโมทย์ สุดจิตพร และนางสาวเสาวลักษณ์ จิตสัมฤทธิ์ (กลุ่มผ้ถือหุ้นเดิมของ AS) โดยหุ้นสามัญที่บริษัทจะได้รับจากการเข้าทำรายการนี้ในกรณีที่มีการใช้สิทธิตาม AS-W2 และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ AS ซึ่งจัดสรรให้แก่คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของ AS และบริษัทย่อยของ AS (AS-WB) เต็มจำนวน จะคิดเป็น 21.00% (ได้แก่ 14.39% สำหรับหุ้น AS และ 6.61% สำหรับการใช้สิทธิตาม AS-W2) ของหุ้นทั้งหมดใน …
อ่านเพิ่มเติม »
HENG มั่นใจพอร์ตปี 65 โตเข้าเป้า 25-30% จ่อลุยสินเชื่อดิจิทัลคาดเริ่ม พ.ย.นี้ : อินโฟเควสท์นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อปี 65 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 25-30% โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/65 ที่ผ่านมาบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อแล้ว 10,527.2 ล้านบาท หรือเติบโต 14.7% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้บริษัทเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และยังสามารถเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองเป็นมากกว่า 5,100 ราย ที่ให้คำแนะนำลูกค้าเข้ามาใช้บริการสินเชื่อของบริษัทได้ ด้านสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านระบบดิจิทัล (Digital Personal Loan) บริษัทยังคงเดินหน้าที่จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนในเดือน พ.ย. นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3.1% ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 3.9% โดยบริษัทมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถเร่งรัดติดตามหนี้ได้ พร้อมเพิ่มความสามารถควบคุมและบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีแผนการที่จะขายหนี้ออกไปบางส่วนด้วย พร้อมกันนี้บริษัทได้คงเป้าหมายค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ที่ 170-180% ในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจยังไม่มีความมั่นคง และ ไม่มีความแน่นอนในปัจจุบัน …
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลมั่นใจ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบหนี้สาธารณะ คาดสิ้นปี 65 อยู่ที่ 61.5% ต่อจีดีพี : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จาก 0.25% เป็น 0.75% ต่อปี มีเป้าหมายเพื่อให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและสอดคล้องกับสภาวะเงินเฟ้อ โดยรัฐบาลได้ให้ธนาคารของรัฐตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพิจารณาออกมาตรการดูแลลูกหนี้ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและผู้ประกอบการ ส่วนเรื่องต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามมา ยังไม่มีประเด็นที่ต้องกังวล เพราะสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มีการจัดการความเสี่ยงเรื่องการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และแผนการบริหารต้นทุนกู้เงินไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยย่อมทำให้ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมา สบน.มีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงอยู่แล้ว จึงไม่มีประเด็นที่ต้องกังวล โดยได้ดำเนินการเปลี่ยนการกู้เงินระยะสั้นที่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Float Rate) มาเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fix Rate) มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 82% ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้นไม่มี เพราะรัฐบาลมีหนี้ต่างประเทศแค่ 1.8% และได้ทำการปิดความเสี่ยงไปหมดแล้ว ขณะที่ปีงบประมาณ 2566 แผนการบริหารจัดการต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล จะเน้นกู้เงินผ่านการออกพันธบัตรระยะยาวจากปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 45% ปรับเพิ่มเป็น 48% การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะอยู่เท่าเดิมที่ 25% ขณะที่การออกตั๋วเงินคลังและการกู้เงินระยะสั้นจากตลาดจะลดลงมาอยู่ที่ 14% จากเดิมที่ 18% ทั้งนี้ …
อ่านเพิ่มเติม »