HENG มั่นใจพอร์ตปี 65 โตเข้าเป้า 25-30% จ่อลุยสินเชื่อดิจิทัลคาดเริ่ม พ.ย.นี้ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

HENG มั่นใจพอร์ตปี 65 โตเข้าเป้า 25-30% จ่อลุยสินเชื่อดิจิทัลคาดเริ่ม พ.ย.นี้ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 60 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 27%
  • Publisher: 68%

HENG มั่นใจพอร์ตปี 65 โตเข้าเป้า 25-30% จ่อลุยสินเชื่อดิจิทัลคาดเริ่ม พ.ย.นี้ HENG หุ้นไทย เฮงลิสซิ่งแอนด์แคปปิตอล อินโฟเควสท์

นางสุธารทิพย์ พิสิฐบัณฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อปี 65 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 25-30% โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/65 ที่ผ่านมาบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อแล้ว 10,527.2 ล้านบาท หรือเติบโต 14.

ด้านสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านระบบดิจิทัล บริษัทยังคงเดินหน้าที่จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนในเดือน พ.ย. นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3.1% ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 3.9% โดยบริษัทมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถเร่งรัดติดตามหนี้ได้ พร้อมเพิ่มความสามารถควบคุมและบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีแผนการที่จะขายหนี้ออกไปบางส่วนด้วย

พร้อมกันนี้บริษัทได้คงเป้าหมายค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ที่ 170-180% ในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจยังไม่มีความมั่นคง และ ไม่มีความแน่นอนในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเสี่ยงของโรคอุบัติใหม่ และความเสี่ยงอื่นๆที่จะเกิดขึ้น “เราต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแข่งขันในปัจจุบันค่อนข้างรุนแรงมาก แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าในธุรกิจที่มีศักยภาพการแข่งขันถือเป็นเรื่องปกติ ผู้เล่นรายใหม่ๆคือกลุ่มแบงก์ต่างๆที่มีการดึงตัวพนักงานเข้าไป แต่อย่างไรก็ตามเราเองก็อยู่ในเวทีนี้มานานแต่เราต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น และดูแลจัดการตลอดเวลาเพื่อที่จะให้เราสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายใหม่และทำให้เราอยู่ในตลาดได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง”

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ตร.ยันนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัย มีผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์ตร.ยันนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัย มีผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ในฐานะโฆษกบช.น. เปิดเผยว่า พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย บังคับเฉพาะรถที่นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน โดยผู้โดยสารทั้งแถวตอนหน้า (ผู้ขับขี่) – แถวตอนหลัง(ผู้โดยสาร) ทุกที่นั่งต้องรัดเข็มขัดนิรภัย มีผล 5 กันยายน โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ – ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์ – ผู้โดยสาร ที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์ ส่วนผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้โดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด ส่วนกรณีรถยนต์เก่าไม่มีเข็มขัดนิรภัย มีข้อยกเว้น คือ รถยนต์ที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2531 ที่ไม่สามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยได้ หากจดทะเบียนก่อนวันดังกล่าว ไม่ถือมีความผิด รวมถึงรถกระบะที่มีการจดทะเบียนก่อนปี 2537 จะยังไม่มีผลบังคับใช้ ส่วนรถกระบะที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ก็ต้องมีข้อกำหนดพิจารณาอีกขั้นตอนหนึ่ง …
อ่านเพิ่มเติม »

นายกฯ พอใจผลงานส่งออกยางพารา H1/65 ครองแชมป์โลก : อินโฟเควสท์นายกฯ พอใจผลงานส่งออกยางพารา H1/65 ครองแชมป์โลก : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้แนวทาง “เกษตรผลิต พาณิย์ตลาด” ของรัฐบาล ทำให้ยอดการส่งออกยางพาราครึ่งปีแรกปี 2565 ของไทย ครองตำแหน่งผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลก โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานว่า ช่วง ม.ค.-มิ.ย. ปีนี้ มีปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยาง 2.19 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 2.4 แสนล้านบาท จีนนำเข้ายางไทยเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 49% ของการส่งออกทั้งหมด รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย 10% สหรัฐอเมริกา 7% ญี่ปุ่น 6% เกาหลีใต้ 4% น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจต่อเกษตรกรชาวสวนยาง ในแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคายาง และพอใจผลงานกระทรวงเกษตรฯ ที่สามารถผลักดันให้ประเทศไทยครองแชมป์ส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งหมายถึงรายได้ที่จะมาสู่เกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ นายกฯได้เน้นย้ำเรื่องการใช้นวัตกรรมพัฒนาสินค้ายางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่า และเจาะตลาดประเทศใหม่ๆ สำหรับการดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา กระทรวงเกษตรฯ และกยท. มีโครงการชะลอการขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง มีสถาบันฯเข้าร่วมโครงการ 207 …
อ่านเพิ่มเติม »

รัฐบาลมั่นใจ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบหนี้สาธารณะ คาดสิ้นปี 65 อยู่ที่ 61.5% ต่อจีดีพี : อินโฟเควสท์รัฐบาลมั่นใจ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบหนี้สาธารณะ คาดสิ้นปี 65 อยู่ที่ 61.5% ต่อจีดีพี : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จาก 0.25% เป็น 0.75% ต่อปี มีเป้าหมายเพื่อให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและสอดคล้องกับสภาวะเงินเฟ้อ โดยรัฐบาลได้ให้ธนาคารของรัฐตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพิจารณาออกมาตรการดูแลลูกหนี้ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและผู้ประกอบการ ส่วนเรื่องต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามมา ยังไม่มีประเด็นที่ต้องกังวล เพราะสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มีการจัดการความเสี่ยงเรื่องการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และแผนการบริหารต้นทุนกู้เงินไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยย่อมทำให้ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมา สบน.มีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงอยู่แล้ว จึงไม่มีประเด็นที่ต้องกังวล โดยได้ดำเนินการเปลี่ยนการกู้เงินระยะสั้นที่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Float Rate) มาเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fix Rate) มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 82% ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้นไม่มี เพราะรัฐบาลมีหนี้ต่างประเทศแค่ 1.8% และได้ทำการปิดความเสี่ยงไปหมดแล้ว ขณะที่ปีงบประมาณ 2566 แผนการบริหารจัดการต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล จะเน้นกู้เงินผ่านการออกพันธบัตรระยะยาวจากปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 45% ปรับเพิ่มเป็น 48% การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะอยู่เท่าเดิมที่ 25% ขณะที่การออกตั๋วเงินคลังและการกู้เงินระยะสั้นจากตลาดจะลดลงมาอยู่ที่ 14% จากเดิมที่ 18% ทั้งนี้ …
อ่านเพิ่มเติม »

เงินบาทเปิด 35.36 คาดกรอบวันนี้ 35.20-35.40 จับตาตัวเลข GDP Q2/65 ไทย : อินโฟเควสท์เงินบาทเปิด 35.36 คาดกรอบวันนี้ 35.20-35.40 จับตาตัวเลข GDP Q2/65 ไทย : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.36 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวันพฤหัสบดีที่ระดับ 35.21 บาท/ดอลลาร์ ถึงแม้ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ จะย่อลงจากเดือนที่แล้ว แต่สมาชิกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนยังคงหนักแน่นในการขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.20 – 35.40 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/65 นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประเด็นเรื่องไต้หวัน THAI BAHT FIX 3M (11 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.57077% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.75378% ปัจจัยสำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.22 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันพฤหัสบดีที่ระดับ 132.63 …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-26 17:25:50