TGE เปิดพอร์ตรอลงทุนไบโอแมส-ไบโอแก๊ส-โซลาร์-พลังลม ทั้ง M&A-รับบริหาร : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

TGE เปิดพอร์ตรอลงทุนไบโอแมส-ไบโอแก๊ส-โซลาร์-พลังลม ทั้ง M&A-รับบริหาร : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 41 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 20%
  • Publisher: 68%

TGE เปิดพอร์ตรอลงทุนไบโอแมส-ไบโอแก๊ส-โซลาร์-พลังลม ทั้ง M&A-รับบริหาร TGE ท่าฉางกรีนเอ็นเนอร์ยี่ หุ้นไทย อินโฟเควสท์

บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ ศึกษาลงทุนโครงการพลังงานไฟฟ้าจากไบโอแมสและไบโอแก๊ส ทั้งการเข้าซื้อกิจการ และการรับจ้างบริหารโครงการ นอกจากนี้ยังเตรียมเข้าลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนใหม่ๆ อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม หลังจากเจรจาความร่วมมือเบื้องต้นกับพันธมิตรทางธุรกิจไว้แล้ว

นายศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TGE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 100 เมกะวัตต์ภายในปี 70 และ เพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ในปี 75 โดยมองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีการเติบโตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สำหรับแผนงานในปี 66 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีอยู่ ซึ่งรับรู้รายได้แล้ว 3 โครงการ รวม 29.7 เมกะวัตต์ ในขณะเดียวกันยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่เข้าประมูลและทำสัญญาเข้าบริหารโครงการแล้ว 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 31.9 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ได้ในปี 67-68

บริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่เตรียมเข้าประมูลอย่างต่อเนื่องในปี 66 คือ จังหวัดชัยนาท จังหวัดปราจีนบุรี และ จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ในระยะต่อไปยังเตรียมเข้าประมูลเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 2 โครงการ

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

แบงก์นอกไม่สะเทือน! เก็บภาษีขายหุ้น ยันมองศก.ภาพรวมมากกว่า : อินโฟเควสท์แบงก์นอกไม่สะเทือน! เก็บภาษีขายหุ้น ยันมองศก.ภาพรวมมากกว่า : อินโฟเควสท์นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า การเก็บภาษีหุ้นในปี 66 มองว่าไม่กระทบต่อ Fund Flow ที่จะยังมีทิศทางไหลสู่ตลาดทุนในประเทศปีหน้า เพราะในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติเรื่องการเก็บภาษีซื้อขายในการลงทุนที่ตลาดหุ้นต่างประเทศมีการเก็บภาษีขายหุ้นอยู่แล้ว ทำให้ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติมีความคุ้นเคย แต่ในภาพรวมมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศไทยจะมองในภาพรวมของประเทศมากกว่า เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจ นโยบายของรัฐบาล ค่าเงิน เป็นต้น ที่จะเป็นปัจจัยส่งผลต่อ Fund Flow ที่เข้ามา โดยในส่วนของตลาดหุ้นในปีหน้า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยตามมุมมองของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทย จะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจประเทศได้ และถ้ามีนโยบายการเมืองจากรัฐบาลชุดใหม่ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างดี และสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจ มีการจูงใจการลงทุนเข้ามา รวมทั้งมุมมองค่าเงินบาทในปีหน้าที่ยังมองแข็งค่าขึ้น จะส่งผลบวกต่อ Fund Flow ที่ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าได้ “รัฐบาลได้เริ่มหันมาที่การดูแลวินัยการคลังมากขึ้น หลังจากในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีการใช้จ่ายเงินไปมาก ทำให้ต้องกลับมาดูในเรื่องความสมดุลของงบดุล ทำให้เรื่องการเก็บภาษีจึงเป็นสิ่งแรกๆที่เข้ามาในการบาลานซ์งบดุลของรัฐ แต่สำหรับนักลงทุนต่างชาติจะมอง Big Picture มากกว่าในการลงทุน ทำให้การเก็บภาษีหุ้นไม่กระทบต่อ Fund Flow มาก ถ้าเศรษฐกิจไทยดี และเขามีมุมมองบวก ต่างชาติก็พร้อมเข้ามาลงทุน” นายทิม กล่าว สำหรับในปี 65 …
อ่านเพิ่มเติม »

สแตนชาร์ด มองท่องเที่ยว-เลือกตั้งหนุน GDP ไทยปี 66 โตโดดเด่น : อินโฟเควสท์สแตนชาร์ด มองท่องเที่ยว-เลือกตั้งหนุน GDP ไทยปี 66 โตโดดเด่น : อินโฟเควสท์นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจไทยปี 66 ฟื้นตัวต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยคาดการณ์ตัวเลข GDP ไทยในปี 66 เติบโต 4.5% จากปัจจัยการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวต่อเนื่อง ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้าได้อย่างมีนัยสำคัญ และมีสัดส่วนต่อ GDP ที่มากถึง 15% ของ GDP ทั้งหมด ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศได้ค่อนข้างมาก ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะเติบโตโดดเด่นกว่าในปีนี้และดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า “ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่ปีหน้าการท่องเที่ยวและการเลือกตั้ง จะทำให้เศรษฐกิจไทยเป็นบวกโดดเด่นได้อย่างดี” นายทิม กล่าว อย่างไรก็ตามอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยบ้างในเรื่องการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในบางประเทศ แต่มองว่าการท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยชดเชยในส่วนของผลกระทบจากภายนอก และล่าสุดจีนได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายการควบคุมโควิด-19 ลงแล้ว ทำให้ปีหน้ามีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเริ่มทยอยเดินทางออกมานอกประเทศได้ และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวในปีหน้าไว้ที่ 15-20 ล้านคน “Recession ของเศรษฐกิจในประเทศหลัก และกระทบมาถึงเศรษฐกิจโลก เราไม่ได้ Bias ว่าจะเป็นการ Recession …
อ่านเพิ่มเติม »

ชาวจีนส่วนใหญ่อาจต้องติดเชื้อโควิด หลังรัฐเริ่มคลายซีโร่โควิด : อินโฟเควสท์ชาวจีนส่วนใหญ่อาจต้องติดเชื้อโควิด หลังรัฐเริ่มคลายซีโร่โควิด : อินโฟเควสท์นายเฟิง จื่อเจี้ยน อดีตรองหัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของจีนเตือนว่า ในท้ายที่สุดแล้วประชากรส่วนใหญ่ของจีนอาจต้องติดเชื้อโควิด-19 หลังจีนเริ่มเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ไปสู่การอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนสูงขึ้น นายเฟิงคาดการณ์ว่า ประชาชนชาวจีนราว 80-90% อาจต้องติดเชื้อโควิด-19 ในท้ายที่สุด พร้อมทั้งยังได้ระบุในการประชุมออนไลน์ซึ่งจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยซิงหวา (Tsinghua University) ในกรุงปักกิ่งว่า “การติดเชื้ออย่างน้อย 1 ครั้ง อาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยไม่คำนึงว่าจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการรับมือกับโรคโควิด-19 อย่างไร” ทั้งนี้ นายเฟิงรับหน้าที่ให้คำปรึกษากับหน่วยงานป้องกันและควบคุมร่วมของจีนเกี่ยวกับวิธีจัดการกับโรคระบาด โดยเขาเป็น 1 ใน 8 ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมหารือกับนางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเธอได้ยกเลิกการระบุถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์เชิงรุก (dynamic zero COVID) และให้คำมั่นว่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแนวทางการรับมือกับโรคโควิด-19 ในจีน นายเฟิงคาดว่า ชาวจีนประมาณ 60% อาจติดเชื้อในระลอกแรกก่อนที่แนวโน้มการติดเชื้อจะชะลอลง เมื่อเทียบกับรายงานการวิเคราะห์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แห่งสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อเดือนเม.ย.ระบุว่า ประชาชนสหรัฐราว 58% ติดเชื้อโควิดภายในเดือนก.พ.ปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 33.5% ในเดือนธ.ค. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …
อ่านเพิ่มเติม »

ไม่ได้โม้! เพื่อไทย มั่นใจค่าแรงขั้นต่ำ 600 ทำได้ ไม่ขายฝัน : อินโฟเควสท์ไม่ได้โม้! เพื่อไทย มั่นใจค่าแรงขั้นต่ำ 600 ทำได้ ไม่ขายฝัน : อินโฟเควสท์นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทในปี 2570 คนที่รู้จริงจะสนับสนุนกับเรื่องนี้ โดยเมื่อปี 2555 พรรคเพื่อไทย เคยผลักดันให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท และอัตราเงินเดือนค่าตอบแทนทั้งระบบอย่างเป็นผลสำเร็จด้วยดี (แม้เพิ่งจะเผชิญกับมหาอุทกภัยครั้งใหญ่) ไม่มีกิจการที่ไม่สามารถอยู่รอด หรือปรับตัวไม่ได้จากนโยบายนี้ ในทางกลับกัน ผู้ประกอบการต่างเติบโต และจ้างงานเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงาน ลดจาก 0.7% เหลือ 0.6% ในปีถัดไป “การดูแลผู้ประกอบการให้ขายสินค้าและบริการได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นตลาดภายในประเทศ หรือตลาดส่งออก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ดี ซึ่งเพื่อไทยจะทำ และทำสำเร็จมาแล้ว เราจะทำให้ผู้ประกอบการเข้มแข็ง ลดภาระที่ไม่จำเป็นลง และสามารถจ่ายค่าจ้างค่าตอบแทนที่สูง (ขึ้น) และสูงขึ้นให้กับคนที่ทำงานให้ท่านได้อย่างไม่ลำบากยากเย็น” ด้านนายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านยกเครื่องเศรษฐกิจ ยืนยันว่า พรรคมีความสามารถบริหารเศรษฐกิจให้เติบโต อย่างมีวินัยการเงินการคลัง พิสูจน์ผลงานมาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย หรือรัฐบาลพรรคเพื่อไทย …
อ่านเพิ่มเติม »

5 ทริค ไม่โดนโกงช้อปออนไลน์!! : อินโฟเควสท์5 ทริค ไม่โดนโกงช้อปออนไลน์!! : อินโฟเควสท์สมาคมธนาคารไทย ระบุว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และผูกบัญชีธนาคารเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ประสบปัญหาการทำรายการโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง สมาคมฯ ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าของสถาบันการเงินทุกแห่ง และเร่งดำเนินการติดตามตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประสานกับบริษัทผู้ให้บริการดังกล่าวในการตรวจสอบธุรกรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ สมาคมธนาคารไทย โดยชมรมป้องกันการทุจริตและศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) แนะแนวทางควรปฏิบัติ ดังนี้ หากต้องการผูกบัญชีธนาคารเพื่อใช้ซื้อสินค้า ลูกค้าควรกำหนดวงเงินใช้งานเท่าที่จำเป็น โดยผูกกับบัญชีที่มีจำนวนเงินไม่สูงมาก หรือในวงเงินที่รับความเสี่ยงได้ ยกเลิกการผูกบัญชีธนาคารกับร้านค้าออนไลน์ หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานแล้ว ตั้งค่าแจ้งเตือน เพื่อรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ทันท่วงที ไม่เปิดเผยรหัสผ่าน PIN หรือข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น ศึกษาทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน รวมถึงมาตรการความปลอดภัยของแพลตฟอร์มก่อนตกลงทำธุรกรรมใดๆ ส่วนกรณีที่สงสัยว่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ควรปฏิบัติดังนี้ เปลี่ยนรหัสผ่านของระบบบัญชีออนไลน์นั้น ติดต่อธนาคาร หรือผู้ให้บริการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของบัญชีหรือธุรกรรมโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอให้ประชาชนผู้ใช้บริการ ศึกษาวิธีการรักษาข้อมูลตนเองให้ปลอดภัย เพื่อป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่มาหลากหลายรูปแบบ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

มาอีกแบงก์! KTB ขึ้นดอกเบี้ยกู้รายใหญ่-รายย่อย, เงินฝาก มีผลพรุ่งนี้ : อินโฟเควสท์มาอีกแบงก์! KTB ขึ้นดอกเบี้ยกู้รายใหญ่-รายย่อย, เงินฝาก มีผลพรุ่งนี้ : อินโฟเควสท์นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ของปี 65 รวม 0.75% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 1.25% ท่ามกลางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาว ธนาคารกรุงไทย ตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้าทุกกลุ่ม และได้พิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนคนไทย พร้อมประคับประคองดูแลลูกค้ารายย่อยให้ปรับตัวได้อย่างราบรื่น โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี เป็น 5.75% ต่อปี และ 6.32% ต่อปี ตามลำดับ ขณะเดียวกัน ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) เพียง 0.15% ต่อปี อยู่ที่ระดับ 6.37% ต่อปี ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุด 0.50% ต่อปี เพื่อเพิ่มรายได้กับผู้ฝากเงิน …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-25 05:18:37