ESSO ดีดขึ้น 4% เทคนิคหนุนทดสอบแนวต้าน-จีนเปิดประเทศดันค่าการกลั่นน้ำมัน JET เอสโซ่ ปั๊มเอสโซ่ หุ้นไทย อินโฟเควสท์
ESSO ดีดขึ้น 4.00% หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มารที่ 13.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 411.09 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.48 น.จากราคาเปิด 12.70 บาท ราคาสูงสุด 13.20 บาท ราคาต่ำสุด 12.40 บาท
บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์แนะเก็งกำไรหุ้นบมจ.เอสโซ่ โดยทางเทคนิค ราคาหุ้น ESSO สามารถยืนเหนือ 12.50 บาทได้แล้ว มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 13.00 บาท ESSO เป็นหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ยังได้แรงหนุนจากแผนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการของจีนตั้งแต่ 8 ม.ค.2566 ซึ่งจะหนุนความต้องการเดินทางเร่งตัวขึ้น เป็นบวกต่อค่าการกลั่นน้ำมันอากาศยานที่จะหนุนให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยทรงตัวในระดับสูงระดับ 9-10 เหรียญ/บาร์เรล ต่อเนื่องถึงปีหน้า
นอกจากนี้ ในแง่ของผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของกลุ่มโรงกลั่นคาดฟื้นตัว QoQ จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว และขาดทุนสต็อกน้ามันดิบ รวมถึงต้นทุน Crude Premium ที่ลดลง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ BANPU ที่ A+ แนวโน้ม Stable : อินโฟเควสท์บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บมจ. บ้านปู (BANPU) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมถ่านหินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดจนการมีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอนจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า รวมถึงความก้าวหน้าของการเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานที่สะอาดยิ่งขึ้นภายใต้กลยุทธ์ “Greener, Smarter” (“การดำเนินธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด”) ของบริษัท ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความผันผวนของราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนแนวโน้มราคาถ่านหินที่จะลดลงในช่วง 3 ปีข้างหน้าจากการที่ประเทศจีนจะชะลอการนำเข้าถ่านหินและความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต – เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมผลิตถ่านหินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตถ่านหินชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยบริษัทมีเหมืองถ่านหินที่ดำเนินการอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และจีน ณ เดือนกันยายน 2565 บริษัทมีปริมาณสำรองถ่านหินที่เหมืองในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียรวมทั้งสิ้นจำนวน 535 ล้านตัน โดยปริมาณสำรองถ่านหินที่เหมืองอินโดนีเซียมีปริมาณการผลิตนานประมาณ 17 ปีและที่เหมืองออสเตรเลียนานเกินกว่า 25 ปี ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมียอดขายถ่านหินจากเหมืองอินโดนีเซียและออสเตรเลียรวมทั้งจากกิจการค้าถ่านหินอื่น ๆ ที่ประมาณ 30 ล้านตันในปี 2565 บริษัทมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย โดยในช่วง […]
อ่านเพิ่มเติม »
มองบวก! อู๊ดด้า ไม่โกรธสื่อตั้งฉายา ช่วยโปรโมทประกันรายได้ : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลให้ฉายา “ประกันไรได้” ว่า ทุกปีรัฐมนตรีก็จะมีฉายา สำหรับตนฉายาที่ได้ก็ดี ตนไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตนเป็นนักการเมืองในระบบประชาธิปไตย จึงไม่มีปัญหากับการรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และรู้สึกชินแล้ว เพราะหากเทียบกับสมัยก่อนถือว่าเบามาก นายจุรินทร์ มองว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ช่วยประชาสัมพันธ์นโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าทำได้ไวทำได้จริง ประสบผลสำเร็จ เห็นผลงานเป็นรูปธรรม ต้องขอบคุณสื่ออีกครั้งที่ช่วยประชาสัมพันธ์ ส่วนราคาสินค้าเกษตรอย่างอื่นก็ถือว่ามีราคาที่ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะผลไม้ปีหน้าราคาจะดีขึ้นอีก ส่วนที่นักวิชาการมองว่าการตั้งฉายาให้กับรัฐมนตรีของสื่อมวลชนเป็นการ Bully เอาปมด้อยมาพูด และจะเป็นจริงอย่างที่สะท้อนออกมาหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า ใน 1 ปี ก็ให้โอกาสสื่อมวลชนสักครั้งจะได้มีความสุข ไม่มีปัญหาอะไร หากจะมองว่าเป็นกระจกก็สามารถมองได้ เป็นกระจกบานนึง เพราะประเทศมีกระจกหลายบาน พร้อมย้ำว่า ไม่โกรธ ไม่มีปัญหาอะไรกับฉายาที่สื่อมวลชนตั้งให้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เวียดนามเล็งยืดหยุ่นนโยบายการเงินเพื่อรักษาเงินเฟ้อที่ระดับ 4.5% ปีหน้า : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ประกาศในวันนี้ว่า ธนาคารกลางจะดำเนินนโยบายการเงินให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับ 4.5% ในปีหน้า แถลงการณ์ของ SBV ระบุว่า ธนาคารกลางมีเป้าหมายที่จะรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าระบบธนาคารมีความปลอดภัย พร้อมระบุว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในเวียดนามเพิ่มขึ้น 12.87% ณ วันที่ 21 ธ.ค. จากช่วงปลายปี 2564 ทั้งนี้ SBV มีกำหนดจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจและแนวโน้มในปี 2566 ในเช้าวันนี้ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการผลิตและการส่งออกที่แข็งแกร่ง รวมถึงการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง ในช่วงต้นเดือนนี้ SBV ได้ขยายเพดานการเติบโตด้านสินเชื่อของระบบธนาคาร จากเดิมที่กำหนดไว้ในปีนี้ที่ 14% เป็น 1.5-2.0% ภายหลังเกิดวิกฤติสินเชื่อในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน ทั้งนี้ การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ 8% ในปีนี้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ทางการเวียดนามกำหนดไว้ที่ 4% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ยอดชาวฮ่องกงค้นหาเที่ยวบินไปจีนพุ่งสูง หลังยกเลิกกักตัวนทท.ต่างชาติ : อินโฟเควสท์ประชาชนในฮ่องกงตอบสนองต่อข่าวจีนเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางขาเข้าในต้นปีหน้าอย่างฉับไว โดยพากันแห่ค้นหาเที่ยวบินไปยังเมืองต่าง ๆ ของจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตทันที ยอดการค้นหาเที่ยวบินขาออกจากฮ่องกงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่บนเว็บไซต์ทริปดอตคอม (Trip.com) และซีทริป (Ctrip) ซึ่งเป็นสองแบรนด์ในเครือบริษัททริปดอตคอม กรุ๊ป จำกัด (Trip.com Group Ltd) พุ่งทะยานขึ้นถึงราว 521% ในช่วงค่ำวันจันทร์ (26 ธ.ค.) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา จุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับแรกได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองหางโจว เมืองเฉิงตู และเมืองหนานจิง หรือนานกิง โดยยอดการค้นหาเที่ยวบินไปเซี่ยงไฮ้พุ่งขึ้น 1,039% ส่วนยอดค้นหาเที่ยวบินไปกรุงปักกิ่งพุ่งขึ้น 718% ขณะที่การค้าหาสำหรับเมืองหางโจวเพิ่มขึ้น 662% เมืองเฉิงตูเพิ่มขึ้น 399% และเมืองหนางจิงเพิ่มขึ้น 411% คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวานนี้ว่า จีนจะยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 โดยต่อไปผู้ที่จะเดินทางเข้าจีนเพียงแค่ต้องแสดงผลตรวจ PCR ก่อนขึ้นเครื่องจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเท่านั้น หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวต่างพุ่งทะยานขึ้น […]
อ่านเพิ่มเติม »
เตือน!ภาคใต้ตอนล่างรับมือฝนตกระลอกใหม่ : อินโฟเควสท์นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปัตตานีและการบริหารจัดการน้ำเขื่อนบางลาง จ.ปัตตานีและยะลา พร้อมระบุว่า กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ (ONE MAP) จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า นับตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงปีใหม่จะไม่มีฝนตกหนักเหมือนกับในช่วงวันที่ 18-19 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับช่วงต้นปีหน้าระหว่างวันที่ 2-3 ม.ค.66 สถานการณ์ฝนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างจะกลับมาอีกครั้ง แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีตกหนักในบางแห่ง ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือฝนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างจึงต้องเร่งพร่องน้ำเขื่อนบางลาง จ.ยะลา โดยตั้งแต่วันที่ 27-29 ธ.ค.65 จะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 8 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ต่อวัน จากเดิมเมื่อช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค.65 ระบายน้ำอยู่ที่ 2 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน โดยเขื่อนปัตตานีจะทำหน้าที่รับน้ำต่อจากเขื่อนบางลาง เพื่อควบคุมและบริหารจัดการน้ำไม่ให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณหน้าเขื่อนปัตตานีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณช่วงท้ายเขื่อนปัตตานีถึงตัวเมืองปัตตานีเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้จากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา เขื่อนบางลางได้ทำหน้าที่หน่วงน้ำไม่ให้ไปซ้ำเติมพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม สามารถช่วยลดมวลน้ำจากปริมาณฝนที่ตกหนักที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีได้ และบรรเทาความรุนแรงผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลาและจ.ปัตตานี โดยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ […]
อ่านเพิ่มเติม »