เตือน!ภาคใต้ตอนล่างรับมือฝนตกระลอกใหม่ สทนช ภาคใต้ น้ำท่วม อินโฟเควสท์
นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปัตตานีและการบริหารจัดการน้ำเขื่อนบางลาง จ.ปัตตานีและยะลา พร้อมระบุว่า กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ พบว่า นับตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงปีใหม่จะไม่มีฝนตกหนักเหมือนกับในช่วงวันที่ 18-19 ธ.ค.
สำหรับช่วงต้นปีหน้าระหว่างวันที่ 2-3 ม.ค.66 สถานการณ์ฝนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างจะกลับมาอีกครั้ง แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีตกหนักในบางแห่ง ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือฝนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างจึงต้องเร่งพร่องน้ำเขื่อนบางลาง จ.ยะลา โดยตั้งแต่วันที่ 27-29 ธ.ค.65 จะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน จากเดิมเมื่อช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค.65 ระบายน้ำอยู่ที่ 2 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้จากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา เขื่อนบางลางได้ทำหน้าที่หน่วงน้ำไม่ให้ไปซ้ำเติมพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม สามารถช่วยลดมวลน้ำจากปริมาณฝนที่ตกหนักที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีได้ และบรรเทาความรุนแรงผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลาและจ.ปัตตานี โดยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่ประสบอุทกภัย ได้กำชับให้หน่วยงานภายใต้ กอนช.
ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้หารือท้องถิ่นและหน่วยงานในพื้นที่ในการเตรียมเสนอแผนงาน/โครงการ อาทิ การศึกษาการตัดยอดน้ำบริเวณเหนือเขื่อนปัตตานีเพื่อผันน้ำลงสู่ทะเลโดยไม่ให้ไหลเข้าผ่านตัวเมืองปัตตานี และการทบทวนตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ สิ่งก่อสร้างต่างๆ หรือจุดที่ส่งผลต่อการไหลของน้ำ เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ให้สามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เตือน 25-26 ธ.ค.ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นลมแรงและคลื่นสูง 2-3 เมตร : อินโฟเควสท์นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ฉบับที่ 5 (363/2565) (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2565)ว่า ในช่วงวันที่ 25-26 ธันวาคม 2565 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและห่างฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-26 ธันวาคม 2565 จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เลขาฯยูเอ็นห่วงชาวอัฟกานิสถานหลังกลุ่มตาลีบันสั่งห้ามผู้หญิงทำงานให้ NGO : อินโฟเควสท์นายอันโตนิโอ กูเตเรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็นรู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งกับรายงานที่ว่า กลุ่มตาลีบันได้สั่งห้ามผู้หญิงในอัฟกานิสถานทำงานให้กับองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรหรือเอ็นจีโอของประเทศและนานาชาติ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของเลขาฯยูเอ็น กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า เลขาฯได้เน้นย้ำถึงสิทธิของผู้หญิงทั้งหมดที่ได้มีส่วนร่วมในการทำงาน เพื่อที่จะมีส่วนร่วมในการส่งต่อสิ่งที่ดีงาม การตัดสินใจของกลุ่มตาลีบันจะบั่นทอนการทำงานขององค์กรต่าง ๆ มากมายทั่วทั้งประเทศในการที่จะช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กๆ ยูเอ็นและพันธมิตรซึ่งรวมถึงองค์กรเอ็นจีโอได้ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวอัฟกานิสถานกว่า 28 ล้านรายที่ต้องพึ่งพาการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อความอยู่รอด การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องสามารถเข้าถึงกลุ่มพนักงานด้านการช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงพนักงานหญิง ได้อย่างเต็มที่ ปลอดภัย และปราศจากอุปสรรคขัดขวาง แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า รายงานเรื่องคำสั่งห้ามผู้หญิงทำงานกับชุมชนสากล เพื่อช่วยชีวิตและช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ จะทำให้เกิดความลำบากแก่ประชาชนชาวอัฟกานิสถาน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
โปรแรงส์!! รับปีใหม่ 7 สายการบินในประเทศ ลดค่าตั๋ว 20% : อินโฟเควสท์นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินประเทศไทย ประกอบไปด้วย สายการบิน 7 สาย ได้หารือร่วมกันเพื่อจัดโปรโมชั่นพิเศษพร้อมกันเป็นครั้งแรกในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยลดค่าบัตรโดยสารทุกสายการบิน สูงสุด 20% หลังจากทุกสายการบินได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐในการส่งเสริมมาตรการการท่องเที่ยว รวมทั้งการลดภาระต้นทุนจากการอนุมัติขยายมาตรการ “ลดภาษีสรรพสามิตฯ” “ในช่วงต้นเดือนมกราคม 66 ทั้ง 7 สายการบินจะทยอยจัดโปรโมชั่นบินราคาประหยัด สำหรับเส้นทางภายในประเทศ เป็นของขวัญสำหรับประชาชนทุกคน ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นการเดินทาง และใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคเป็นอย่างดี” นายพุฒิพงศ์ กล่าว 7 สายการบิน ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, สายการบินไทยสไมล์, สายการบินนกแอร์, สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'คุโรดะ' ยัน BOJ ขยายกรอบบอนด์ยีลด์ไม่ใช่ส่งสัญญาณถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน : อินโฟเควสท์นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยืนยันในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) ในวันนี้ว่า การที่ BOJ ตัดสินใจขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่การเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy) “ภายใต้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control Policy) นั้น BOJ จะคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการปรับขึ้นค่าจ้าง ผมยืนยันว่าการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไม่ใชการส่งสัญญาณเตรียมตัวถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างแน่นอน” นายคุโรดะกล่าว ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25% ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า BOJ อาจจะส่งสัญญาณใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินและเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ทั้งนี้ นายคุโรดะกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงกลไกลตลาด หลังจากความผันผวนในตลาดการเงินปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายคุโรดะยังกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ BOJ จะหารือกันเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน เมื่อพิจารณาจากการที่ BOJ […]
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐเท็กซัสหนาว! หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน : อินโฟเควสท์กระทรวงพลังงานสหรัฐได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานในรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์พายุหิมะที่พัดถล่ม และความหวั่นเกรงว่า ฐจะไม่มีไฟฟ้าใช้งานภายในรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า องค์การไฟฟ้าแห่งเท็กซัส ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการด้านโรงไฟฟ้าของรัฐที่มีผู้ใช้บริการถึง 90% ในรัฐได้ร้องขอให้ทางโรงไฟฟ้าสามารถปล่อยมลพิษทางอากาศได้สูงเกินเพดานที่กำหนดไว้ เพื่อที่จะเพิ่มกำลังการผลิต ในขณะที่ความต้องการด้านพลังงานในพื้นที่สูงเป็นประวัติการณ์ กระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า หน่วยที่ผลิตไฟฟ้า 11,000 เมกะวัตต์จากพลังงานถ่านหินและก๊าซ รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าปริมาณ 4,000 เมกะวัตต์จากพลังงานลม และ 1,700 เมกะวัตต์จากพลังงานแสงอาทิตย์จะต้องปรับลดปริมาณการผลิตลง เนื่องจากพายุหิมะพัดถล่ม ในขณะที่หน่วยผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ในสังกัดขององค์การไฟฟ้าแห่งเท็กซัสยังสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าต่อไปได้โดยปราศจากปัญหา แต่หน่วยผลิตขนาดเล็กต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินการ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและลดปริมาณการใช้ก๊าซลง สื่อในสหรัฐรายงานว่า การผลิตไฟฟ้าในบางส่วนถูกปิดลง ในขณะที่ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยอ้างเจ้าหน้าที่ขององค์การไฟฟ้าฯว่าได้ประเมินและคาดการณ์ความต้องการด้านพลังงานในพื้นที่ต่ำเกินไป อย่างไรก็ดี องค์การไฟฟ้าฯระบุเมื่อวานนี้ว่า โรงไฟฟ้าของรัฐสามารถต้านทานอุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างมากได้พื้นที่ส่วนใหญ่ และคาดว่าจะสามารถรับมือกับความต้องการด้านพลังงานได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
บิ๊กป้อมเตรียมประชุม กนช.ปลายเดือนนี้เร่งหาแหล่งน้ำใหม่เสริมแหล่งเดิม : อินโฟเควสท์พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)เตรียมจัดประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาขับเคลื่อนโครงการด้านทรัพยากรน้ำหาแหล่งน้ำใหม่ๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนต่อไป พลเอกประวิตร ได้มีการขับเคลื่อนภารกิจด้านทรัพยากรน้ำภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เชื่อมโยงกับแผนแม่บทลุ่มน้ำ แผนจังหวัดและแผนชุมชน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญการสร้างความเข้มแข็งการบริหารจัดการน้ำของชุมชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำของตัวเอง แต่รัฐบาลให้ความสำคัญในการอนุมัติงบประมาณให้กับแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้าน พัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน พัฒนาน้ำบาดาล เพื่อการเกษตร สร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาทรัพยากรน้ำจากพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับจากการลงพื้นที่และกล่าวขอบคุณรัฐบาล ตลอดระยะเวลาที่กำกับดูแลงานด้านน้ำกว่า 44 ครั้ง ใน 42 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ภาคกลาง 8 จังหวัด ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ภาคตะวันตก 2 จังหวัด และภาคใต้ 9 จังหวัด […]
อ่านเพิ่มเติม »