แบงก์ชาติญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายการเงินตามคาดในการประชุมวันนี้ BOJ ญี่ปุ่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น นโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ยนโยบาย อินโฟเควสท์
ธนาคารกลางญี่ปุ่น มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ตามคาด โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รวมทั้งคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีไว้ที่ราวระดับ 0%
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า คณะกรรมการ BOJ จะลงมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของนายคาซูโอะ อุเอดะ ในฐานะผู้ว่าการ BOJ คนใหม่ โดยมติการประชุมในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการ BOJ จำเป็นต้องใช้เวลานานขึ้นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
หลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินระยะเวลา 2 วันในวันนี้ คณะกรรมการ BOJ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหาร จะเพิ่มขึ้น 1.6% ในปีงบประมาณ 2568 นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของนายอุเอดะในช่วงเวลาต่อไปของวันนี้ เพื่อประเมินวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของ BOJ ส่วนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เลือกตั้ง'66: ปชช.ยื่นขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2.3 ล้านคน กทม.สูงสุด : อินโฟเควสท์จากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66 และลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตและนอกเขตเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.66 โดยเปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงทะเบียนขอใช้สิทธิระหว่างวันที่ 25 มี.ค. -9 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น ข้อมูลจากสำนักงาน กกต. ระบุว่า มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมทั้งสิ้น 2,350,969 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 52,287,045 คน โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตและนอกเขตมากที่สุด 8 แสนกว่าคน มีหน่วยเลือกตั้งกลางล่วงหน้านอกเขต ทั้งหมด 74 หน่วย และพบว่าหน่วยเลือกตั้งกลางที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมากสุดมีดังนี้ 1. มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก ) รวม 5.2 หมื่นคน 2. รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน รวม 4 หมื่นกว่าคน 3. อาคารและเต้นท์บริเวณสำนักงานเขตห้วยขวาง […]
อ่านเพิ่มเติม »
เอ็มไอเอชผลักดันธุรกิจสมาร์ทซิตี้และรถไฟฟ้าต่อเนื่องในตลาดเอเชีย : อินโฟเควสท์เอ็มไอเอช คอนซอร์เทียม ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยหงไห่ เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือฟ็อกซ์คอนน์ และมีสมาชิกกว่า 2,600 รายใน 14 กลุ่มทำงาน มุ่งมั่นกับการสร้างซัพพลายเชนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความครอบคลุม รวมทั้งโครงการสร้างสมาร์ทซิตี้ให้กับผู้ให้บริการด้านโมบิลิตี้และผู้ให้บริการยานพาหนะทั่วโลก เอ็มไอเอช เตรียมผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและสมาร์ทโมบิลิตี้ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป โดยจะมีการเปิดตัวต้นแบบจากโปรเจกต์ เอ็กซ์ รวมถึงโครงการริเริ่มใหม่ ๆ ในภาคสมาร์ทซิตี้ที่งานเจแปน โมบิลิตี้ โชว์ ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเอ็มไอเอชมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการสมาร์ทซิตี้ ไปจนถึงรถแบบแยกส่วนที่ปรับแต่งได้ และยินดีจับมือเป็นพันธมิตรทั่วโลก เพื่อนำเสนอตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับธุรกิจที่มองหาโซลูชันรถยนต์ไฟฟ้าและโมบิลิตี้อัจฉริยะ แจ็ค เฉิง ซีอีโอของเอ็มไอเอช คอนซอร์เทียม กล่าวว่า เอ็มไอเอชมีแผนเปิดตัวโปรเจกต์ทดสอบความเป็นไปได้ (POC) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทยและญี่ปุ่นด้วย โดยใช้แนวทางแบบ B2Bและใช้ “โปรเจกต์ เอ็กซ์” เป็นรากฐานในการคิดค้นผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มไอเอช นอกจากนี้ เอ็มไอเอชยังได้ประกาศความตั้งใจในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ๆ รวมถึงรถตุ๊กตุ๊กและรถเพื่อการพาณิชย์ ทั้งมินิแวน รถบรรทุกขนาด 3.5ตัน และ 5 ตัน เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เอ็มไอเอชได้เปิดตัวโปรเจกต์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
In Focus: ความขัดแย้งซูดาน การสู้รบของ 2 ขั้วอำนาจทหาร หวั่นบานปลายสู่สงครามตัวแทน : อินโฟเควสท์การปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหารหลักของประเทศทำให้ซูดานตกอยู่ภายใต้ความโกลาหล ผู้บริสุทธิ์ถูกคร่าชีวิตไปหลายร้อยราย หลายสิบเมืองถูกทำลาย โรงพยาบาลแต่ละแห่งเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บ ประชาชนหลายล้านชีวิตล้านต้องตกอยู่ภายใต้ฝันร้าย ท่ามกลางดงกระสุนจากรถถังและกระบอกปืนที่ดังสนั่นหวั่นไหวไม่จบสิ้น โดยนานาชาติเร่งอพยพพลเมืองของตนออกจากประเทศ หรือพาไปหลบยังที่ปลอดภัย ในขณะที่ชาวซูดานต้องติดอยู่ใจกลางความรุนแรงที่ไม่มีทางหลบหนี และทั้งสองฝ่ายที่สู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตายก็หาได้ใส่ใจชีวิตพลเมืองไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทั่วโลกหันไปมองประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาแห่งนี้ด้วยความหวาดหวั่นและความใคร่รู้ มีการตั้งคำถามมากมาย ตั้งแต่ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครปะทะกับใคร ไปจนถึงเป้าหมายของการสู้รบครั้งนี้ ซึ่ง In Focus ประจำสัปดาห์นี้ จะพาเราไปร่วมหาคำตอบกัน * ใครสู้รบกับใคร การสู้รบดังกล่าวคือการปะทะกันของ 2 ขั้วอำนาจทางทหารของซูดาน ฝ่ายแรกคือ กองทัพซูดาน นำโดยนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน (Abdel Fattah al-Burhan) และกองกำลังกึ่งทหารฝ่ายสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว หรือ กลุ่มติดอาวุธอาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces – RSF) นำโดย นายพลโมฮาเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล (General Mohamed Hamdan Dagalo) * Rapid Support Forces – RSF […]
อ่านเพิ่มเติม »
ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ : อินโฟเควสท์ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะกรอบกลาง 133 เยนในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียว หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนเม.ย. ที่อ่อนแอ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 133.57-133.60 เยน เทียบกับ 133.66-133.76 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 134.14-134.17 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17:00 น. ของเมื่อวานนี้ ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.0975-0979 ดอลลาร์ และ 146.59-146.68 เยน เทียบกับ 1.0970-1.0980 ดอลลาร์ และ 146.70-146.80 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.1032-1.1033 ดอลลาร์ และ 148.00-148.04 เยนที่ตลาดโตเกียวในช่วงเย็นวานนี้ ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 104.0 ในเดือนมี.ค. โดยมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจลดลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ทำให้นักลงทุนยิ่งวิตกว่าอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐในอนาคตอันใกล้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
'เยลเลน' จี้คองเกรสเร่งเพิ่มเพดานหนี้ เตือนอาจทำเศรษฐกิจเผชิญหายนะ : อินโฟเควสท์นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลและนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับหายนะ และจะยิ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า นางเยลเลนกล่าวในการประชุมกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคาร (25 เม.ย.) ว่า การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลให้เกิดการสูญเสียตำแหน่งงาน อีกทั้งผลักดันให้ภาคครัวเรือนต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง เงินกู้ซื้อรถยนต์ และบัตรเครดิตในอัตราที่สูงขึ้น ทั้งนี้ นางเยลเลนระบุว่า สภาคองเกรสมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการเพิ่มหรือระงับเพดานหนี้ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ และเตือนว่าการผิดนัดชำระหนี้จะขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลให้เกิดหายนะทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมพุ่งขึ้นเป็นเวลานาน และสร้างความเสียหายต่อการลงทุนในอนาคต หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ ภาคธุรกิจของสหรัฐจะเผชิญกับภาวะตลาดสินเชื่อที่ถดถอยลง และรัฐบาลอาจจะไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนให้กับครอบครัวของเหล่าทหารและผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพาเงินประกันสังคม ด้วยเหตุนี้ สภาคองเกรสจำเป็นต้องลงมติปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ และควรเร่งดำเนินการโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ควรรอจนนาทีสุดท้าย” นางเยลเลนกล่าว ทั้งนี้ เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ ทางด้านสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) เตือนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ นอกเสียจากว่ากระทรวงจะสามารถตกลงกับสภาคองเกรสเพื่ออนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
รัสเซียโวย UN ไม่แก้ไขปัญหาส่งออกธัญพืช โทษชาติตะวันตกขัดขวาง : อินโฟเควสท์นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) ว่า รัสเซียแทบไม่เห็นผลลัพธ์จากข้อตกลงกับองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่มุ่งช่วยเหลือการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซีย และโบ้ยความผิดให้กับชาติตะวันตกที่ทำให้เกิดการหยุดชะงัก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียส่งสัญญาณว่าหากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ขัดขวางการส่งออกสินค้าเหล่านั้น รัสเซียจะไม่เห็นด้วยกับการขยายข้อตกลงที่อนุญาตให้ส่งออกธัญพืชในช่วงสงครามอย่างปลอดภัยจากท่าเรือทะเลดำของยูเครน ซึ่งขยายไปเกินกว่าวันที่ 18 พ.ค. นายลาฟรอฟแถลงต่อสื่อมวลชนที่สำนักงาน UN ในนิวยอร์ก โดยกล่าวยกย่องการทำงานของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN และนายมาร์ติน กริฟฟิธส์ เลขาธิการใหญ่ด้านกิจการมนุษยธรรมของ UN ในการพยายามบรรลุข้อตกลงกับประเทศที่ประกาศคว่ำบาตรอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายต่อสหพันธรัฐรัสเซีย “แต่แทบไม่เห็นผลลัพธ์ใด ๆ สิ้น” ทั้งนี้ รัสเซียลงนามข้อตกลงการส่งออกธัญพืชระยะเวลา 3 ปีเมื่อเดือนก.ค. 2565 ซึ่ง UN เห็นชอบที่จะช่วยแก้ไขอุปสรรคที่ขัดขวางการส่งออกปุ๋ยและธัญพืชของรัสเซีย แม้ว่าการส่งออกเหล่านี้จะไม่อยู่ในมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกหลังการรุกรานยูเครน รัสเซียระบุว่า ข้อจำกัดด้านการชำระเงิน การขนส่ง และการประกันภัยเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งทางเรือ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »