เลือกตั้ง'66: ปชช.ยื่นขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2.3 ล้านคน กทม.สูงสุด กกต กทม กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการการเลือกตั้ง เลือกตั้ง เลือกตั้งล่วงหน้า อินโฟเควสท์
จากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66 และลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตและนอกเขตเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.66 โดยเปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงทะเบียนขอใช้สิทธิระหว่างวันที่ 25 มี.ค. -9 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น ข้อมูลจากสำนักงาน กกต. ระบุว่า มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมทั้งสิ้น 2,350,969 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 52,287,045 คน
โดยกรุงเทพมหานคร มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตและนอกเขตมากที่สุด 8 แสนกว่าคน มีหน่วยเลือกตั้งกลางล่วงหน้านอกเขต ทั้งหมด 74 หน่วย และพบว่าหน่วยเลือกตั้งกลางที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมากสุดมีดังนี้2. รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน รวม 4 หมื่นกว่าคน5. ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ดินแดง รวม 2.53 หมื่นคน8.บริเวณอาคารลานจอดรถ ชั้น G เซ็นทรัลพระราม 2 รวม 2.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เลือกตั้ง'66: สศค.ห่วงนโยบายประชานิยมใช้เงินเกินงบ หากกู้เพิ่มต้องจำเป็นจริง : อินโฟเควสท์นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ออกนโยบายหาเสียงและมีการใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากว่า มาตรการต่าง ๆ คงไม่สามารถดำเนินการภายใต้งบประมาณปี 2566 ได้ทัน และหากมีความต้องการใช้งบประมาณ ก็จะเหลือช่องว่างให้ใช้ได้อยู่อีกไม่มาก เช่น งบกลางกรณีฉุกเฉิน ซึ่งมีอยู่ 9.24 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปีงบประมาณ 2567 อยู่ที่ 9.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในความเห็นของกระทรวงการคลัง ยังสามารถนำมาใช้ แต่ที่ผ่านมา การใช้งบส่วนนี้ จะใช้กับภัยพิบัติ หรือความเสียหายที่ไม่อาจคาดเดาได้เท่านั้น รวมถึงความจำเป็นของการใช้งบในอนาคตอีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ สิ่งแรกคือการทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จากการหารือกับสำนักงบประมาณ ตามแผนการคลังระยะปานกลางที่ใช้ในปี 2566-2570 มีการกำหนดงบรายจ่ายประจำปี 2567 ไว้ที่ 3.35 ล้านล้านบาท ซึ่งมีการกำหนดสัดส่วนใช้จ่ายงบประจำ งบลงทุนไว้หมดแล้ว เท่าที่ติดตามข่าวนโยบายพรรคการเมือง มีหลายโครงการ ใช้งบประมาณอยู่หลายแสนล้านบาท ค่อนข้างจะเกินจากรายจ่ายที่กำหนดเอาไว้ ดังนั้นจะต้องดูว่ารัฐบาลที่เข้ามาใหม่ เมื่อมีการแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร จะต้องดูว่าจะใช้งบประมาณจากแหล่งใด ต้องมีการปรับแผนการคลังหรือไม่ นายพรชัย […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: ผู้ว่าฯ ธปท. ห่วงนโยบายประชานิยมทำหนี้พุ่ง แนะช่วยตรงกลุ่มเป้าหมาย-สร้างศักยภาพระยะยาว : อินโฟเควสท์นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเห็นในภาพรวมต่อนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ว่า สิ่งที่ ธปท. คำนึงถึงคือ การทำนโยบายจะต้องไม่กระทบเสถียรภาพใน 4 ด้านสำคัญ คือ เสถียรภาพด้านราคา, เสถียรภาพค่าเงิน, เสถียรภาพการคลัง และเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน รวมทั้งควรเป็นนโยบายที่ตรงจุดและเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ไม่เหวี่ยงแห เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงตามมาจากการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นๆ ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีความจำเป็นน้อยลง ความสำคัญของการทำนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองขณะนี้ โจทย์ใหญ่คงไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น แต่ต้องช่วยสร้างศักยภาพการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจในระยะยาว เช่น การมีนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเอื้อต่อการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตได้อย่างยั่งยืนมากกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น “ตอนนี้โจทย์ไม่น่าจะอยู่ที่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ความสำคัญคือ อย่าไปทำอะไรที่บั่นทอนเสถียรภาพ และที่น่าจะสำคัญกว่าการกระตุ้นระยะสั้นคือ การสร้างศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว เรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยเอื้อเศรษฐกิจในอนาคต ช่วยให้เติบโตในโลกใหม่ได้อย่างยั่งยืน มากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น” ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าว พร้อมระบุว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่ผ่านมาในหลายยุคหลายสมัยนั้น ในท้ายสุดแล้วก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงระยะสั้นๆ แถมบางนโยบายยังทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น หนี้สูงขึ้น ดังนั้น การออกนโยบายจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน มองผลที่จะเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ตลอดจนค่าเสียโอกาสในการนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปใช้ให้เกิดความคุ้มค่าด้วย “นโยบายประชานิยม เช่น การดูแลประชาชนตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยชรา ซึ่งเป็นนโยบายที่ทุกคนได้รับประโยชน์นั้น […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: ปชป. ชูนโยบายกระตุ้นศก.ไม่ก่อหนี้เพิ่ม-ลดเหลื่อมล้ำ เชื่อมคนกลุ่มบนสนับสนุนคนกลุ่มล่าง : อินโฟเควสท์ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กรุงศรีอยุธยา นำทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงวาระประเทศไทย ครั้งที่ 3 “ปชป.ชูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ” ว่า พรรคชูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโดยไม่เพิ่มหนี้สาธารณะ และจะไม่มีการแจกเงินสุดโต่ง ไม่ใช้วิธีการรีดภาษีผู้มีรายได้น้อย ไม่มีการหักลดงบประมาณ ซึ่งจากนโยบายสร้างคน สร้างเงิน สร้างชาติ เราใช้วงเงิน 1 ล้านล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณที่สามารถจัดสรรได้จากจุดต่างๆ โดยมีเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 5% และเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เติบโตช้า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ลดราคาพลังงานที่สูงขึ้น ปัญหาหนี้สินครัวเรือน และผลกระทบจากโควิดที่ผ่านมา ทั้งนี้ การกระตุ้นด้วยเงิน 1 ล้านล้านบาท เราเน้นควบคู่กับการปรับโครงสร้างภาษี ตลาดเงิน ตลาดทุน เพื่อจะได้กระจายรายได้เข้าสู่ฐานราก เพื่อช่วยลดความเลื่อมล้ำทางสังคมได้ ซึ่งที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองมุ่งเน้นการใส่เงินเข้าไปในระบบอย่างเดียว แต่ควรสร้างกลไกเพื่อจัดหาแหล่งเงินทุน สิ่งที่ต้องดำเนินการทันที คือ เชื่อมความเลื่อมล้ำทางสังคม สิ่งที่เราอยากทำ คือ อยากให้ผู้มีรายได้สูง หรือมีรายได้ปานกลาง มีจำนวนมากขึ้น เมื่อมีจำนวนมากขึ้นก็จะเป็นเม็ดเงินในการนำมาใช้ดูแลกลุ่มฐานรากข้างล่าง ม.ร.ว. ศศิพฤนท์ กล่าวว่า แนวทางที่จะดำเนินการคือ การทำให้บริษัทหลักทรัพย์พันกว่าแห่งหาวิธีให้จ่ายภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่านี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: กกต.ขอความร่วมมือเจ้าของกิจการให้ลูกจ้างไปเลือกตั้ง โดยไม่นับเป็นวันลา : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอความร่วมมือผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้าง อำนวยความสะดวกในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยอนุญาตให้ลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบกิจการ เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค. 66 ที่เลือกตั้งกลางที่ได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิไว้ หรือเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66 ที่เลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีชื่ออยู่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติให้บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และมาตรา 142 พ.ร.ป ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. บัญญัติให้ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้าง ผู้ใดขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยว หรือไม่ให้ความสะดวกพอสมควรต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้าง แล้วแต่กรณี หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ออกประกาศขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการ ให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: เสรีรวมไทย จ่อเอาผิดกกต.ยกชุด หลังพบใช้สิทธิเลือกตั้งนอกปท.ผิดปกติเพียบ : อินโฟเควสท์นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟสบุ๊ก เรียกร้องความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร หลังพบความผิดปกติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 1. การยกเลิกการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ในหลายประเทศ ทั้ง ๆ ที่เป็นวิธีการที่สุดประหยัด และสะดวกแก่ผู้มาใช้สิทธิออกเสียง 2. การกำหนดระยะเวลาที่เร่งรัดประชาชน แต่กลับดำเนินการด้วยความล่าช้า เช่น กำหนดให้ส่งบัตรถึงสถานทูตในสิ้นเดือนแต่จนถึงขณะนี้ ในบางประเทศ การส่งบัตรทางไปรษณีย์ยังไม่ถึงมือประชาชน 3. ความสับสนในการจัดพิมพ์เอกสาร เช่น การลงรูปผู้สมัครรับเลือกตั้ง กทม. เขต 11 สลับกัน 4. ความสับสนในการจัดส่งเอกสาร เช่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ จ. อำนาจเจริญ เขต 2 ได้รับบัตรเลือกตั้งที่ จ. นนทบุรี เขต 4 ด้วยพร้อมกัน กลายเป็น 2 สิทธิ พรรคเสรีรวมไทย ปรารถนาจะเห็นการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส จึงขอเรียกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้ 1. […]
อ่านเพิ่มเติม »