อุตฯรถยนต์ไฟฟ้าของ EU อาจเจอต้นทุนภาษีหลังเบร็กซิตสูงถึง 4.3 พันล้านยูโร Brexit ผู้ผลิตรถยนต์ ภาษี รถยนต์ไฟฟ้า ศุลกากร สหภาพยุโรป อินโฟเควสท์
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป ระบุในวันนี้ ว่า กฎเกณฑ์ต่าง ๆ หลังเบร็กซิต ที่บังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปจัดหาชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจากอังกฤษหรือสหภาพยุโรป มากขึ้นนั้น อาจทำให้ต้นทุนด้านภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสูงถึง 4.3 พันล้านยูโร และอาจจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตด้วย
ACEA ได้เรียกร้องในวันนี้ให้เลื่อนการบังคับใช้กฎนี้ออกไปเป็นเวลา 3 ปี โดยให้เหตุผลว่าต้องใช้เวลาในการผลิตแบตเตอรี่ในยุโรป ซึ่งในขณะนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ยังคงต้องพึ่งพาเซลล์แบตเตอรี่และวัสดุต่าง ๆ ที่นำเข้าจากเอเชีย
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
จนท.ระดับสูง EU เรียกร้องประเทศสมาชิกแบนหัวเว่ย-แซดทีอี จากเครือข่าย 5G : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป () เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกแบนบริษัทโทรคมนาคมของจีน เช่น หัวเว่ย และ แซดทีอี จากเครือข่าย 5G ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับจีน นายเธียร์รี เบรตัน หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า เขาต้องการให้ประเทศสมาชิก EU ถอดซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หัวเว่ย และแซดทีอี ออกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ รายงานระบุว่า เมื่อเดือนม.ค. 2563 EU ได้นำ “เครื่องมือความปลอดภัยทางไซเบอร์ 5G” มาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุความเสี่ยงในการยอมรับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน 5G บางราย ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่หลายประเทศรวมถึงอังกฤษกำลังจะตัดสินใจแบนหัวเว่ย เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย นายเบรตันระบุว่า “เราจะเดินหน้าทำงานต่อไปด้วยความมุ่งมั่นร่วมกับประเทศสมาชิกที่ยังตามหลังในประเด็นนี้ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม ขณะนี้ผมทำได้เพียงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งการตัดสินใจเพื่อแบนซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงสูงจากเครือข่าย 5G ของพวกเขา ผมได้เตือนผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการกับปัญหานี้” นายเบรตันเสริมว่า จนถึงปัจจุบัน มีเพียง 10 ประเทศใน EU เท่านั้นที่จำกัดหรือแบนหัวเว่ยจากเครือข่าย 5G ของตน “ในส่วนของเรา EC […]
อ่านเพิ่มเติม »
'See You in My 19th Life' ซีรีส์เรื่องใหม่ ออกอากาศตอนแรกน่าดูมาก'See You in My 19th Life' ซีรีส์เรื่องใหม่ ออกอากาศตอนแรกน่าดูมาก SeeYouInMy19thLife SeeYouInMy19thLifeEp1 ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ ชินฮเยซอน ShinHyeSun อันโบฮยอน AhnBoHyun TNN TNNThailand TNNช่อง16 TNNONLINE
อ่านเพิ่มเติม »
ส.ว.ออสเตรเลียลาออกจากพรรคเสรีนิยม หลังถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ : อินโฟเควสท์สำนักงานของวุฒิสมาชิกออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า นายเดวิด แวน วุฒิสมาชิกจากพรรคเสรีนิยม ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของออสเตรเลีย ประกาศลาออกจากพรรคแต่จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภา หลังถูกกล่าวหาว่าประพฤติผิดทางเพศ รายงานระบุว่า ข้อกล่าวหาต่อนายเดวิด แวน มีขึ้นหลังจากการสอบสวนในปี 2564 เกี่ยวกับวัฒนธรรมรัฐสภาของออสเตรเลีย ซึ่งพบว่า 1 ใน 3 ของคนที่ทำงานเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ อย่างไรก็ดี โฆษกประจำสำนักงานของวุฒิสมาชิกระบุว่า นายฟานจะยังคงอยู่ในรัฐสภาในฐานะวุฒิสมาชิกอิสระ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 มิ.ย.) นายปีเตอร์ ดัตตัน หัวหน้าพรรคเสรีนิยมได้ขอให้นายแวนลาออกจากพรรค หลังนางลิเดีย ธอร์ป วุฒิสมาชิกอิสระ ได้ใช้เอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา โดยกล่าวว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศในระหว่างการดำรงตำแหน่งในรัฐสภาสมัยก่อน ซึ่งนายแวนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทันที ขณะเดียวกัน นางอแมนดา สโตกเกอร์ อดีตวุฒิสมาชิกพรรคเสรีนิยมระบุในแถลงการณ์ว่า นายแวนได้สัมผัสเธอในลักษณะที่ไม่เหมาะสมในงานปาร์ตี้ในปี 2563 ด้วยการบีบบั้นท้ายของเธอ 2 ครั้ง นอกจากนี้ นายดัตตันแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า มีผู้มาร้องเรียนรายที่ 3 ต่อตัวนายแวน โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไทย-กัมพูชาร่วมมือระบบธนาคารให้บริการชำระสินค้าด้วยระบบ QR Code ส่งเสริมท่องเที่ยว-การค้า : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงความร่วมมือระหว่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ธนาคารกลางกัมพูชา (National Bank of Cambodia) ในโครงการบริการชำระสินค้าด้วยระบบคิวอาร์โค้ด (Interoperable QR Code) โดยสามารถใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระได้ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ให้สามารถเข้าถึงระบบการบริการทางการเงินที่หลากหลาย กระตุ้นการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนของทั้ง 2ประเทศ โดยปัจจุบันเริ่มใช้โครงการระยะที่ 2 แล้ว ส่งผลให้ชาวไทยสามารถชำระเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดที่กัมพูชาได้เช่นกัน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ธนาคารกลางของทั้ง 2 ประเทศ ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาระบบการจ่ายเงินด้วยคิวอาร์โค้ดตั้งแต่ปี 2561 เพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการค้าพรมแดน รองรับปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยโครงการความร่วมมือกันดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการระยะแรก ในปี 2563 ซึ่งในระยะแรกได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนกัมพูชา สามารถใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพื่อซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าปลีกของประเทศไทย ด้วยการชำระผ่านคิวอาร์โค้ดของแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือได้ โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนตามจริงของเวลา ณ ที่จ่าย ส่วนการดำเนินโครงการในระยะที่ 2 อำนวยความสะดวกให้ประชาชนไทยที่ซื้อสินค้าในกัมพูชา สามารถชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านคิวอาร์โค้ดบนแอปพลิเคชันธนาคาร […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ปูติน' โต้แย้งประเด็นสำคัญในแผนสันติภาพยูเครนของผู้นำแอฟริกา : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (17 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินผู้นำรัสเซีย ได้โต้แย้งประเด็นสำคัญจากแผนสันติภาพยูเครนของคณะผู้เจรจาสันติภาพจากแอฟริกาที่ต้องการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในสงครามในยูเครน โดยระบุว่า ข้อเสนอหลายข้อชี้นำไปในทางที่ผิด รายงานระบุว่า บรรดาผู้นำจากแอฟริกากำลังแสวงหาข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการสร้างความเชื่อมั่น แม้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีโต้กลับเพื่อขับไล่กองกำลังทหารรัสเซียออกจากพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกของยูเครนที่พวกเขายึดครองอยู่ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ (16 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้กล่าวหลังจากพบกับคณะผู้เจรจาสันติภาพจากแอฟริกา ณ กรุงเคียฟ ว่า ยูเครนจะเจรจาสันติภาพกับรัสเซียได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียยอมถอนกำลังทหารรัสเซียออกจากดินแดนที่ยึดครองทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่รัสเซียระบุว่า ไม่สามารถเจรจาได้ ปธน.ปูตินได้เริ่มเจรจาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากับตัวแทนจากเซเนกัล อียิปต์ แซมเบีย ยูกันดา สาธารณรัฐคองโก คอโมโรส และแอฟริกาใต้ในพระราชวังใกล้กับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัสเซียที่มีต่อทวีปแอฟริกา แต่หลังจากประธานาธิบดีโคโมโรส เซเนกัล และแอฟริกาใต้ นำเสนอแผนการได้ไม่นาน ปธน.ปูตินได้กล่าวแทรก พร้อมโต้แย้งข้อสันนิษฐานของแผนดังกล่าว ซึ่งระบุถึงการยอมรับพรมแดนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปธน.ปูตินย้ำจุดยืนว่า ยูเครนและชาติพันธมิตรตะวันตกเป็นผู้เริ่มต้นความขัดแย้งมานานก่อนที่รัสเซียจะส่งกองกำลังติดอาวุธบุกโจมตีเมื่อเดือนก.พ. ปีที่ผ่าน นอกจากนี้ ปธน.ปูตินเสริมว่า ชาติตะวันตก ซึ่งไม่ใช่รัสเซีย มีส่วนรับผิดชอบต่อราคาอาหารโลกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อต้นปี ซึ่งส่งผลกระทบเป็นพิเศษต่อแอฟริกา ปธน.ปูตินระบุว่า การส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านท่าเรือทางทะเลดำที่รัสเซียอนุญาตในช่วงปีที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยบรรเทาความยากลำบากของแอฟริกาจากวิกฤตราคาอาหาร […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิชาการคาดรัฐบาลใหม่อาจมีงบปี 67 ไม่พอสนองรัฐสวัสดิการ แนะทยอยทำช่วงปี 68-70 : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คาดรัฐบาลใหม่ปรับงบประมาณปี 2567 สนองรัฐสวัสดิการได้แค่ 2 แสนล้านบาท โดยต้องไปปรับลดงบประมาณในส่วนที่สามารถพอปรับลดได้ในกระทรวงและส่วนราชการต่างๆ ขาดอีกอย่างน้อย 4.5 แสนล้านบาท หากต้องการจัดสรรให้ครบถ้วนตามนโยบายรัฐสวัสดิการที่หาเสียงเอาไว้ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินประมาณ 6.5 แสนล้านบาท ต้องปรับลดงบกลางฉุกเฉินลงมาอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ปรับลดงบหมวดป้องกันประเทศและหมวดความสงบภายในประเทศ อีก 30% จะได้เม็ดเงินอีกประมาณ 1.06 แสนล้านบาท (46.5 พันล้านบาท + 59.568 พันล้านบาท) ในการดูแลสวัสดิการประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอตามนโยบายรัฐสวัสดิการ จึงควรทยอยจัดสวัสดิการให้ตามลำดับความจำเป็นในปีต่อๆไป โดยหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม หรือ เพิ่มภาษีใหม่ แต่เน้นเก็บภาษีที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นปรับปรุงประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจให้สามารถส่งเงินเข้ารัฐได้มากขึ้นหากไม่สามารถปรับลดในส่วนที่เกี่ยวกับหมวดป้องกันประเทศ หรืองบกลางฉุกเฉินหากต้องการทำให้เป้าหมายการดูแลสวัสดิการประชาชนบรรลุตามที่หาเสียงเอาไว้ก็อาจใช้วิธีขยายวงเงินงบประมาณจาก 3.35 ล้านล้านบาท เป็น 3.45-3.8 ล้านล้านบาท ด้วยเพิ่มการขาดดุลงบประมาณและก่อหนี้มาชดเชย สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพียังคงต่ำกว่าเพดาน 70% หรือ เพิ่มรายได้และเก็บภาษีให้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในกรอบงบประมาณปี 67 ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท หากเร่งทำนโยบายรัฐสวัสดิการปี 67 ต้องขยายฐานภาษีและเพิ่มอัตราภาษีหรือก่อหนี้สาธารณะเพิ่มอย่างแน่นอนการก่อหนี้สาธารณะแม้นยังอยู่ภายในเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี 70%แต่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงวิกฤติฐานะการคลังในอนาคตได้ และ นอกจากนี้เมื่อรัฐบาลเพิ่มรายจ่ายสาธารณะมากเกินพอดีอาจทำให้การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของภาคเอกชนลดลงก็ได้เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยแท้จริงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนของเอกชนสูงขึ้น จนก่อให้เกิดการชะลอการลงทุนโดยรวมได้ผ่านการลงทุนของเอกชนทางด้านทุนด้านสวัสดิการสังคมและโครงสร้างพื้นฐานอาจลดลงได้ […]
อ่านเพิ่มเติม »