ยสท. เตรียมให้เช่าที่ดินกว่า 2 พันไร่ ทดแทนรายได้หลังยอดขายบุหรี่วูบ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ยสท. เตรียมให้เช่าที่ดินกว่า 2 พันไร่ ทดแทนรายได้หลังยอดขายบุหรี่วูบ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 54 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 25%
  • Publisher: 68%

นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ผิดกฎหมาย บุหรี่หนีภาษี บุหรี่ปลอม การแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมบุหรี่ต่างชาติ และจำนวนผู้สูบบุหรี่ที่น้อยลงตามนโยบายรัฐและกระแสโลก ทำให้ ยสท.ได้รับผลกระทบจากยอดจำหน่ายที่ลดลง ยสท. จึงได้มีการนำทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์มาจัดหาประโยชน์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน ยสท. มีแปลงที่ดินจำนวน 150 แปลงที่เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ในเขตพื้นที่ 15 จังหวัด รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 6,003 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ มหาสารคาม เพชรบูรณ์ สุโขทัย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด หนองคาย นครพนม และบึงกาฬ นายภูมิจิตต์ กล่าวว่า คณะกรรมการ ยสท. (บอร์ด) มีมติให้นำอสังหาริมทรัพย์ที่เหลือจากการใช้ประโยชน์ตามภารกิจหลัก และมีศักยภาพนำมาจัดหาประโยชน์สร้างรายได้ โดยนำมาให้เช่ากว่า 2,000 […]

นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ผิดกฎหมาย บุหรี่หนีภาษี บุหรี่ปลอม การแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมบุหรี่ต่างชาติ และจำนวนผู้สูบบุหรี่ที่น้อยลงตามนโยบายรัฐและกระแสโลก ทำให้ ยสท.ได้รับผลกระทบจากยอดจำหน่ายที่ลดลง ยสท. จึงได้มีการนำทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์มาจัดหาประโยชน์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน ยสท. มีแปลงที่ดินจำนวน 150 แปลงที่เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ในเขตพื้นที่ 15 จังหวัด รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 6,003 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ มหาสารคาม เพชรบูรณ์ สุโขทัย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด หนองคาย นครพนม และบึงกาฬ

นายภูมิจิตต์ กล่าวว่า คณะกรรมการ ยสท. มีมติให้นำอสังหาริมทรัพย์ที่เหลือจากการใช้ประโยชน์ตามภารกิจหลัก และมีศักยภาพนำมาจัดหาประโยชน์สร้างรายได้ โดยนำมาให้เช่ากว่า 2,000 ไร่ จากทั้งหมด 6,003 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ศักยภาพอสังหาริมทรัพย์ของ ยสท.

พร้อมกันนี้ ยสท. กำลังพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการแสดงผลข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ด้วยโปรแกรมภูมิสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ของ ยสท. โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบฐานข้อมูลด้านภาษี ประกันภัย ข้อมูลแปลงที่ดิน ข้อมูลทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนผังระบบและจัดการข้อมูลแยกส่วน แยกประเภทตามผู้ใช้งาน คาดว่าจะสามารถใช้งานระบบได้เต็มรูปแบบภายในเดือนเมษายน 2566 รวมทั้งจัดทำหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของ ยสท.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

กนอ.ไฟเขียวนิคมฯ ปิ่นทองลงทุนส่วนขยายเพิ่ม 2.5 พันล้านกนอ.ไฟเขียวนิคมฯ ปิ่นทองลงทุนส่วนขยายเพิ่ม 2.5 พันล้านกนอ. อนุมัติลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 5) ส่วนขยาย จังหวัดชลบุรี พื้นที่กว่า 1 พันไร่ เม็ดลงทุนกว่า 2.5 พันล้านบาท สอดรับนโยบายพัฒนาพื้นที่ EEC ของรัฐบาล คาดเปิดดำเนินการได้ไตรมาส 4 ปี 2567
อ่านเพิ่มเติม »

ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาเพิกถอนโฉนดที่ดินเกือบ 2 พันไร่ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาเพิกถอนโฉนดที่ดินเกือบ 2 พันไร่ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาเพิกถอนโฉนดที่ดินเกือบ 2 พันไร่ via MatichonOnline
อ่านเพิ่มเติม »

'เชฟรอน' ตัดใจขายทรัพย์สินให้บริษัทแคนาดา พร้อมเก็บกระเป๋าออกจากเมียนมา : อินโฟเควสท์'เชฟรอน' ตัดใจขายทรัพย์สินให้บริษัทแคนาดา พร้อมเก็บกระเป๋าออกจากเมียนมา : อินโฟเควสท์เชฟรอน คอร์ป บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) ว่า บริษัทได้ตกลงที่จะขายทรัพย์สินในเมียนมาให้กับบริษัทเอ็มทีไอ (MTI) ของแคนาดา ซึ่งเป็นข้อตกลงที่จะทำให้เชฟรอนสามารถถอนตัวออกจากเมียนมา ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น 1 ปี หลังจากเชฟรอนและบริษัทน้ำมันอื่น ๆ ได้ตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจากเมียนมา หลังจากการเกิดรัฐประหารในปี 2564 โดยเชฟรอนได้ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เชฟรอนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) ว่า บริษัทได้ตกลงที่จะขายหุ้น 41.1% ในโครงการยาดานา (Yadana) ให้กับบริษัทในเครือของเอ็มทีไอ โดยโครงการยาดานาผลิตก๊าซธรรมชาติสำหรับการใช้งานภายในประเทศ และส่งออกให้กับประเทศไทย การขายทรัพย์สินของเชฟรอนมีขึ้น หลังจากที่บริษัทดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจมานานนับปีที่ลดรายได้จากการขายซึ่งท้ายที่สุดก็จะไปตกอยู่กับรัฐบาลทหารของเมียนมา ขณะที่ MOGE ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเมียนมาก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการร่วมทุนดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ บริษัทผลิตน้ำมันของฝรั่งเศสก็ได้ขายสินทรัพย์และถอนตัวออกจากเมียนมาแล้วในเดือนก.ค. 2565 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

ปธน.อิหร่านเดินทางเยือนจีน 14-16 ก.พ.นี้ตามคำเชิญของสีจิ้นผิง : อินโฟเควสท์ปธน.อิหร่านเดินทางเยือนจีน 14-16 ก.พ.นี้ตามคำเชิญของสีจิ้นผิง : อินโฟเควสท์นายอิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน จะเดินทางเยือนจีนตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน ในวันที่ 14-16 ก.พ.นี้ ประธานาธิบดีอิหร่านคาดว่า จะได้พูดคุยเจรจาเป็นการส่วนตัวกับปธน.สี จิ้นผิง รวมทั้งพบปะกับนักธุรกิจจีนและชาวอิหร่านที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน โดยผู้แทนของทั้ง 2 ประเทศก็มีกำหนดการณ์เซ็นเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือร่วมกัน การเดินทางเยือนจีนปธน.อิหร่านครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างจีนและอิหร่าน ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐตกอยู่ในภาวะที่ตึงเครียด เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐได้ยิงบอลลูนของจีนตกนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจทางการเมืองในสหรัฐและส่งผลให้นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยกเลิกการเดินทางเยือนจีนตามกำหนดการณ์ในวันที่5 ก.พ. ซึ่งเป็นการเยือนที่ทั้งสองประเทศคาดหวังว่าจะเป็นการแก้ไขความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานได้ ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำองค์กรของจีน 6 แห่งซึ่งได้แก่บริษัทจีน 5 แห่งและสถาบันวิจัยของจีน 1 แห่งในข้อหาให้การสนับสนุนความพยายามที่จะปรับปรุงกองทัพจีนให้ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการอวกาศของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งรวมถึงเรือเหาะและบอลลูน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

อาเซียน-จีน เดินหน้าเจรจาอัปเกรด FTA นัดแรก คาดสรุปผลในปี 67 : อินโฟเควสท์อาเซียน-จีน เดินหน้าเจรจาอัปเกรด FTA นัดแรก คาดสรุปผลในปี 67 : อินโฟเควสท์น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการเป็นประธานฝ่ายอาเซียนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ (Special ACFTA-JC) ครั้งที่ 3 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อหารือการเริ่มเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมธุรกิจในปัจจุบัน และสามารถรองรับความท้าทายที่เกิดขึ้นในโลก ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการเจรจาครั้งแรก ภายหลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและจีน ครั้งที่ 25 ได้ประกาศเริ่มเจรจาเมื่อปลายปี 2565 โดยการประชุมครั้งนี้ อาเซียนและจีนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแผนงานการเจรจา ระเบียบวิธีการประชุม โครงสร้างข้อบทที่จะอยู่ในความตกลง และตั้งเป้าหมายเจรจาให้เสร็จสิ้นภายในปี 2567 ซึ่งจะช่วยขยายมูลค่าการค้าของทั้งสองฝ่ายให้เติบโต ผ่านการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลง ACFTA มากขึ้น รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกันให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น สำหรับความตกลง ACFTA ฉบับเดิม เริ่มมีผลใช้บังคับด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ตั้งแต่ปี 2548, 2550 และ 2553 ตามลำดับ อาเซียนและจีน จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเพื่อยกระดับความตกลงดังกล่าว น.ส.โชติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้จัดตั้งคณะทำงานย่อยหลายคณะ เพื่อเจรจารายละเอียดในประเด็นต่างๆ ได้แก่ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ย้ำชัด! บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายทั้งคนสูบ-คนขาย : อินโฟเควสท์ย้ำชัด! บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายทั้งคนสูบ-คนขาย : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), กรมศุลกากร, กรมการค้าต่างประเทศ, กรมควบคุมโรค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวเพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจกรณีการบังคับใช้กฎหมายกับบุหรี่ไฟฟ้าและพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยย้ำว่าการสูบ-ครอบครอง ไม่ได้นำเข้า-ผลิต-ขาย มีความผิดกฎหมาย ดังนี้ กรณีผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีคำสั่ง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหลายชนิด รวมทั้งโลหะหนักที่เป็นสารก่อมะเร็ง และมีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจส่งผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่า ของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-31 05:17:19