เชฟรอน ตัดใจขายทรัพย์สินให้บริษัทแคนาดา พร้อมเก็บกระเป๋าออกจากเมียนมา อินโฟเควสท์
เชฟรอน คอร์ป บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ว่า บริษัทได้ตกลงที่จะขายทรัพย์สินในเมียนมาให้กับบริษัทเอ็มทีไอ ของแคนาดา ซึ่งเป็นข้อตกลงที่จะทำให้เชฟรอนสามารถถอนตัวออกจากเมียนมา
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น 1 ปี หลังจากเชฟรอนและบริษัทน้ำมันอื่น ๆ ได้ตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจากเมียนมา หลังจากการเกิดรัฐประหารในปี 2564 โดยเชฟรอนได้ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เชฟรอนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ว่า บริษัทได้ตกลงที่จะขายหุ้น 41.1% ในโครงการยาดานา ให้กับบริษัทในเครือของเอ็มทีไอ โดยโครงการยาดานาผลิตก๊าซธรรมชาติสำหรับการใช้งานภายในประเทศ และส่งออกให้กับประเทศไทย
การขายทรัพย์สินของเชฟรอนมีขึ้น หลังจากที่บริษัทดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจมานานนับปีที่ลดรายได้จากการขายซึ่งท้ายที่สุดก็จะไปตกอยู่กับรัฐบาลทหารของเมียนมา ขณะที่ MOGE ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเมียนมาก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการร่วมทุนดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ บริษัทผลิตน้ำมันของฝรั่งเศสก็ได้ขายสินทรัพย์และถอนตัวออกจากเมียนมาแล้วในเดือนก.ค. 2565
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ทวิตเตอร์ล่มผู้ใช้งานบ่นระงมส่งข้อความไม่ได้เหตุถูกจำกัดการใช้งาน : อินโฟเควสท์ผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางรายร้องเรียนว่าไม่สามารถใช้งานทวิตเตอร์ได้ หลังจากทวิตเตอร์ประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิค โดยผู้ใช้งานได้รับข้อความจากทวิตเตอร์ ซึ่งระบุว่า “คุณส่งข้อความเกินกว่าปริมาณที่จำกัดเอาไว้ในแต่ละวันแล้ว” รายงานระบุว่า ผู้ใช้งานบางส่วนได้รับแจ้งจากทวิตเตอร์ว่า พวกเขาโพสต์ข้อความเกินเพดานจำกัดที่ 2,400 ข้อความต่อวันแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้โพสต์ข้อความในวันเกิดเหตุแต่อย่างใด ดาวน์ดีเทกเตอร์ (DownDetector) เว็บไซต์ที่ติดตามปัญหาเว็บล่มรายงานว่า ปัญหาขัดข้องทางเทคนิคของทวิตเตอร์เกิดขึ้นช่วงเกือบ 22.00 น.ของวันพุธ (8 ก.พ.) ตามเขตเวลา GMT หรือประมาณ 05.00 น.ของวันนี้ตามเวลาไทย สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ได้ดำเนินการปลดพนักงานทวิตเตอร์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังเข้าครอบครองกิจการในเดือนต.ค.ปีที่แล้วผ่านข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือนม.ค. นายมัสก์เปิดเผยว่า ขณะนี้ทวิตเตอร์มีพนักงานประมาณ 2,300 ราย ลดลงจากช่วงก่อนที่นายมัสก์จะเข้าเทคโอเวอร์ที่ประมาณ 8,000 ราย ด้านผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนหลายเดือนแล้วว่า การปลดพนักงานครั้งมโหฬารนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาทางเทคนิคขึ้น แม้ยังไม่ชัดเจนว่าปัญหาทวิตเตอร์ล่มครั้งล่าสุดนี้เป็นผลพวงมาจากการปลดพนักงานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนทวิตเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาบกพร่องทางเทคนิคได้บางส่วนในเวลาอันรวดเร็ว โดยผู้ใช้งานจำนวนมากระบุว่าสามารถใช้งานทวิตเตอร์ได้ตามปกติแล้ว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
รถไฟเชื่อมจีน-ลาว-ไทยออกเดินทางแล้ว เตรียมขนทุเรียนไทยกลับจีน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวพีเพิลส์ เดลีย์ ไชน่าของทางการจีนรายงานว่า รถไฟขนส่งสินค้าเชื่อมจีน – ลาว – ไทยเที่ยวแรกเดินทางออกจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนในวันอังคารที่ 7 ก.พ. รายงานระบุว่า บนรถไฟขบวนดังกล่าวได้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิจำนวน 19 ตู้ที่ทำการลำเลียงผักสดประมาณ 280 ตัน โดยมีกำหนดเดินทางถึงจังหวัดกรุงเทพของไทยภายใน 55 ชั่วโมง บริษัทไชน่า เรลเวย์ คุนหมิง กรุ๊ป โค จำกัดระบุว่า รถไฟขบวนดังกล่าวมีกำหนดเดินทางถึงกรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาวเป็นที่แรก เพื่อขนถ่ายสินค้า ก่อนมุ่งสู่จังหวัดกรุงเทพผ่านทางรางรถไฟของไทย ซึ่งช่วยย่นเวลาการเดินทางประมาณหนึ่งวันเมื่อเทียบกับเส้นทางเดิม ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งกว่า 20% ส่วนขากลับนั้นรถไฟขบวนดังกล่าวจะขนผลไม้จากไทยกลับไปด้วย เช่น ลองกองและทุเรียน ปัจจุบันการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนผ่านทางรถไฟจีน-ลาวครอบคลุมลาว ไทย เมียนมา และประเทศอื่น ๆ ตามแนวเส้นทางสายไหมสมัยใหม่ หรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) โดยสินค้าเพิ่มขึ้นจากประมาณ 10 ชนิดในช่วงแรกเป็นกว่า 1,200 ชนิดแล้ว ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าบนเส้นทางดังกล่าวขณะนี้รวมทั้งสิ้นทะลุ 2.5 ล้านตัน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผสมผสาน นลท.ประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายหลายรายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เน้นย้ำว่า เฟดยังมาไม่ถึงจุดสิ้นสุดของวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,252.02 จุด เพิ่ม 19.92 จุด หรือ +0.62% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,356.79 จุด เพิ่มขึ้น 73.27จุด หรือ +0.34% ส่วนดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,479.86 จุด ลดลง 126.60 จุด หรือ -0.46% บริษัทโตโยต้า นิสสัน และเน็กซอนของญี่ปุ่นมีกำหนดรายงานผลประกอบการตลอดทั้งปีในวันนี้ ส่วนบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ป (SMIC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีนก็มีกำหนดเผยแพร่ผลประกอบการเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างก็ออกมาแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และควรตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงไว้เป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงสูงมาก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟดกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐอาคันซอส์ว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง “ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง […]
อ่านเพิ่มเติม »
ALL พุ่งต่อสวนทางตลาดรวมเก็งทยอยขายอีก 2-3 แปลงแก้ปมธุรกิจหลังปลดล็อกสภาพคล่อง : อินโฟเควสท์ราคาหุ้น บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) ปรับตัวขึ้นมาเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 66 หลังแจ้งการขายที่ดินและหุ้นบริษัทย่อยโครงการ The EXCEL ลาซาล 17 ให้กับบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ราคาหุ้นขึ้นตอบรับเชิงบวกไปเกือบ 100% จากราคาต่ำสุดที่ 0.21 บาท แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ราคาหุ้น ALL ที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง และในเช้าวันนี้ยังพุ่งมาแตะจุดสูงสุดที่ 0.42 บาท สวนทางตลาดรวมที่ร่วงลง เป็นผลมาจากคลายกังวลปัญหาสภาพคล่องที่เผชิญแรงกดดันจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ และมีโครงการที่เปิดตัวไปแล้วแต่ไม่สามารถพัฒนาได้ตามกำหนด โดยเฉพาะ The EXCEL ลาซาล 17 จึงต้องประกาศขายออกไปเพื่อนำราว 480 ล้านบาทมาเติมสภาพคล่อง และนำไปชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ค้างชำระไว้ รวมถึงรองรับการจ่ายดอกเบี้ยในหุ้นกู้ในงวดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีเงินจากการเพิ่มทุน PP ในช่วงกลางปี […]
อ่านเพิ่มเติม »
จนท.เฟดประสานเสียงหนุนขึ้นดอกเบี้ยต่อ เตือนเงินเฟ้อสูง-ตลาดแรงงานยังร้อนแรง : อินโฟเควสท์เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างก็ออกมาแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และควรตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงไว้เป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงสูงมาก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟด 4 คนได้แสดงความเห็นที่ต่างวาระกันในวันพุธ (8 ก.พ.) โดยนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟดกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐอาคันซอส์ว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง “ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และเฟดยังคงต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป” นายวอลเลอร์กล่าว โดยเขาไม่ได้ระบุว่าเฟดควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงระดับใด โดยกล่าวแต่เพียงว่า มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เฟดจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับที่คุมเข้ม (Restrictive Level) ต่อไปอีกประมาณ 2-3 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลงสู่ระดับต่ำเท่ากับในช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด อย่างไรก็ดี แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนม.ค. แต่นายวิลเลียมส์กล่าวว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 0.25% หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ไปแล้วหลายครั้งในปี 2565 ทางด้านนางลิซา คุก ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อ และจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างไรก็ดี เธอมองว่าเฟดควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป “เรายังไม่เสร็จสิ้นภารกิจในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเรายังจำเป็นต้องตรึงดอกเบี้ยไว้ในระดับที่คุมเข้มและมีประสิทธิภาพต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม […]
อ่านเพิ่มเติม »
เปิดดีลใหญ่ 3.5 พันล้าน KBANK ส่ง KInvesture เข้าถือหุ้น JAM เครือ JMT 9.9% เพิ่มศักยภาพซื้อหนี้ : อินโฟเควสท์บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KInvesture) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) ในสัดส่วน 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ JAM ในอนาคต ตอกย้ำ บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ผู้นำกลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์เบอร์ 1 ของไทย นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ KBANK เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารร่วมกับ JAM ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่ม JMT จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) บริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทยระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิดนั้น ธนาคารเห็นศักยภาพของ JAM จากความร่วมมือดังกล่าว โดยเห็นว่า JAM มี […]
อ่านเพิ่มเติม »