มอร์แกนสแตนลีย์คาดตลาดหุ้นจีนโชว์ฟอร์มโดดเด่นสุดในโลก รับอานิสงส์เปิดประเทศ ตลาดหุ้นจีน นักลงทุน ผ่อนคลายมาตรการ ลอราหว่อง อินโฟเควสท์
ทีมนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งนำโดยลอรา หว่อง เปิดเผยรายงานวิจัยล่าสุดว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่จะทำผลงานโดดเด่นที่สุดในบรรดาประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่และตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากความมุ่งมั่นของจีนที่จะเปิดประเทศนั้น จะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
“เราคาดว่าการที่รัฐบาลจีนดำเนินการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และอีกหลากหลายปัจจัยนั้น จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในตลาดหุ้นจีน” ทีมนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุในรายงาน รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาด ChiNext และตลาด A-share ของจีนเพิ่มขึ้น 25% และ 19% ตามลำดับในระหว่างวันที่ 1-7 ธ.ค.
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์เริ่มกลับมามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง และล่าสุดได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดหุ้นจีนขึ้นสู่ระดับ “Overweight” จากระดับ “Equal Weight” นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ยังเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจจะช่วยลดความผันผวนในตลาดหุ้นจีนในระยะสั้นได้ โดยเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวรวมถึงผลการตรวจสอบบัญชีของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐซึ่งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในช่วงปลายเดือนธ.ค.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
Power of The Act: การซื้อขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน : อินโฟเควสท์ความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานในขณะที่ความต้องการใช้พลังงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นนั้น มีความจำเป็นต้องอาศัยไฟฟ้าที่ผลิตจากทรัพยากรพลังงานหมุนเวียน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2022 Fei Gao (International Institute for Applied Systems Analysis (IIASA), Luxemburg, Austria.) และคณะได้ตีพิพิมพ์บทความชื่อ “Implications of Intercontinental Renewable Electricity Trade for Energy Systems and Emissions) ในวารสารออนไลน์ “Nature Energy” ระบุว่า ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนในแต่ละภูมิภาคของโลกมีความแตกต่างหลากหลายทั้งในเชิงปริมาณ (ปริมาณทั้งหมด) และคุณภาพ (ปัจจัยด้านศักยภาพ) โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การใช้ทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนนั้นมีความแตกต่างไปจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (ซึ่งมักจะถูกขนส่งไปที่ต่าง ๆ ทั่วโลก) ในแง่ที่ว่ามักจะถูกใช้ในท้องถิ่นนั้น ๆ” นอกจากนี้ พื้นที่ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงก็อาจเป็นบริเวณที่ไม่ได้มีทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนอย่างอุดมสมบูรณ์ในระดับที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้ หากระบบส่งไฟฟ้า (การโครงข่ายไฟฟ้าที่สามารถส่งไฟฟ้าแรงดันสูงไปได้ในระยะทางไกลโดยมีการสูญเสียต่ำ สามารถเชื่อมโยงให้เกิดการส่งไฟฟ้าจากการผลิตในพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งของโลกได้ ย่อมช่วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนเพื่อผลิตไฟฟ้าและการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างภูมิภาคหรือระหว่างประเทศมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะ …
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้เชี่ยวชาญแนะเปลี่ยนชื่อภาษาจีนของโควิด-19 หลังกลายพันธุ์-ลดความแรง : อินโฟเควสท์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนให้ความเห็นในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า จีนควรเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการของโรคโควิด-19 ให้สอดคล้องกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยก็ควรได้รับอนุญาตให้สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางกู เซียวหง หัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อของสมาคมการแพทย์แผนจีนได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ปักกิ่ง เดลีของรัฐบาลจีนว่า ชื่อภาษาจีนของโคโรนาไวรัสนั้นบ่งชี้ว่าเป็นโรคที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ ซึ่งควรเปลี่ยนไปเรียกง่าย ๆ ว่าโรคจากการติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ แนวทางการรับมือกับโรคโควิด-19 ของจีน ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การตรวจหาเชื้อในวงกว้างและการกักตัวผู้ติดเชื้อในศูนย์กักตัวเฉพาะนั้น ก็ควรเปลี่ยนจาก “การตรวจเชิงรับ” (passive detection) ไปเป็น “การป้องกันเชิงรุก” (active prevention) และควรให้มีการกักตัวที่บ้านในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง นางกูเปิดเผยว่า แผนกโรคติดเชื้อของสมาคมการแพทย์แผนจีนได้บรรลุฉันทมติเพื่อเปลี่ยนแนวทางการอธิบายเกี่ยวกับเชื้อไวรัสแล้ว ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของนางกูนับว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและสื่อของรัฐบาลจีน ซึ่งมีความเห็นที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ขณะที่รัฐบาลได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งเข้มงวดมากที่สุดในโลกลงแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่รัฐก็ได้คลายความวิตกเกี่ยวกับอันตรายของเชื้อไวรัสโควิดแล้ว โดยเมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนระบุว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยระบุถึงอัตราการแพร่ระบาดที่ลดลง และความพยายามที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากร 90% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
เพื่อไทยเย้ย! พปชร.ชู 'มิ่งขวัญ' แคนดิเดทนายกฯ เชื่อขายไม่ได้ : อินโฟเควสท์นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า กรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคและทีมเศรษฐกิจนั้นไม่น่าจะนำมามาใช้เป็นจุดขายในการเลือกตั้งได้ เพราะคงไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงกลุ่มความคิดเดิมได้ ส่วนการชูนายมิ่งขวัญเป็นแคนดิเดทนายกฯ นั้น ตนมองว่านายมิ่งขวัญเคยตั้งพรรคการเมืองมา 2 ครั้ง หากนายมิ่งขวัญคิดว่าตัวเองยังขายได้ทางการเมือง คงทำพรรคการเมืองเอง “มั่นใจว่านายมิ่งขวัญที่ไปอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว” นายสุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมสตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศความชัดเจนในการทำงานทางการการเมืองต่อ แม้จะมีวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกเพียง 2 ปีหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า เป็นความชัดเจนที่ประชาชนจะได้ใช้ตัดสินใจว่าจะอยู่กับระบบเก่าต่อหรือไม่ หลังจากที่อยู่มาแล้ว 8 ปี “หากนายกฯ สร้างความหวังและสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นอาจไปต่อทางการเมืองได้ แต่หากวันนี้ยังเหมือนเดิมเชื่อว่าชาวบ้านจะไม่เอา ทั้งนี้การแพ้ชนะของพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเล่นการเมืองต่อของนายกฯ แต่อยู่ที่ประชาชนจะทนอยู่กับระบบเก่าอีกหรือไม่” นายสุทิน กล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ค่าแรง 600 บาทเพื่อไทยกระทบหนักกลุ่มรับเหมา-อสังหาฯ แต่กลุ่มพึ่งพารากหญ้ารับผลบวก : อินโฟเควสท์บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยชูนโยบายค่าแรง 600 บาท/วันในปี 70 เป็นประเด็นที่จะกระทบกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ประเมินผลกระทบนโยบายเบื้องต้นที่มีผลต่อตลาดมากสุดอยู่ที่ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 70 บนฐานปัจจุบันที่ 354 บาท และกำหนดการปรับทยอยเพิ่มขึ้นทุกปี จะคิดเป็นอัตราเพิ่มเฉลี่ยปีละ 14% ระหว่างปี 66-70 อิงการศึกษา โนมูระฯ พบว่า ทุกค่าแรงเพิ่มขึ้น 7% จะกระทบกำไรตลาด -7.45 พันล้านบาท โดยจะกระทบกำไรตลาดปีละ -1.49 หมื่นล้านบาท หรือ -1.4% และ -1.3% บนฐาน EPS ที่ CNS ประเมิน ปี 66-67 ที่ 105 และ 118 บาท กระทบอุตสาหกรรมพึ่งพาแรงงานสูง อาทิ รับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ แต่จะบวกต่อบางอุตสาหกรรมได้ประโยชน์ อาทิ เช่าซื้อ (SAWAD, …
อ่านเพิ่มเติม »
รมว.สิงคโปร์ชี้จีนเปิดประเทศเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันมากกว่าเพดานราคารัสเซีย : อินโฟเควสท์นายวิเวียน บาลาคริชนาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคาร (6 ธ.ค.) ว่า กรณีการกลับมาเปิดประเทศหลังโควิด-19 ระบาดของจีนนั้นจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันมากกว่าการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย “ผมคาดการณ์ว่าจีนจะเปิดประเทศอย่างชัดเจน โดยขณะนี้ปัจจัยดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เหนือกว่าการกำหนดเพดานราคาน้ำมัน” นายบาลาคริชนานกล่าว นายบาลาคริชนานแสดงความเห็นดังกล่าวหลังข้อกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลของกลุ่ม G7 มีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. โดยรัสเซียตอบโต้ว่า มาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการศึกในยูเครน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดซื้อขายเอเชียเมื่อวันจันทร์ หลังจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งสัญญาณผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 เพิ่มเติม นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากกรณีที่โอเปกพลัสระบุว่าจะคงนโยบายลดการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนพ.ย.ถึงสิ้นปี 2566 ต่อไป นายร็อบ ธัมเมล ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของบริษัททอร์เทิส แคปิตอลระบุว่า อุปสงค์น้ำมันของจีนลดลงประมาณ 1 ล้านบาร์เรลในปีนี้ “เห็นได้อย่างชัดเจนว่าปัจจัยที่จะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันของจีนให้สูงขึ้นคือการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือการเพิ่มสต็อกน้ำมัน” นายบาลาคริชนานกล่าว “สต็อกน้ำมันทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ และผมคิดว่าทั่วโลกทราบดีว่าความมั่นคงทางพลังงานนั้นค่อนข้างสำคัญ ดังนั้นนั่นจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับทั้งในจีน และอินเดีย ซึ่งจะหนุนการเติบโตด้านอุปสงค์น้ำมัน และหนุนราคาน้ำมัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »