ธปท.แจงแบงก์คิดค่าธรรมเนียมกดเงินไม่ใช้บัตรตามแผนรื้อโครงสร้างค่าธรรมเนียม หวังผลักการใช้จ่ายสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ธปท ฐานเศรษฐกิจ
จากกรณีธนาคารหลายแห่งเตรียมเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสดไม่ใช้บัตร ผ่านตู้ ATM ครั้งละ 10 บาท ตั้งแต่ครั้งแรกที่กดเงินสด โดยกำหนดจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไปเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล และลดการใช้เงินสดนั้นนางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท.
ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาวางแนวทางโครงสร้างค่าธรรมเนียมของทั้งระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับหลักการข้างต้นและเป็นสากล โดยจะนำมาใช้ประเมินเพื่อพิจารณาปรับปรุงและหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ก่อนนำมาเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินนำไปปรับใช้ต่อไป
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ธปท. อัพเดต 7 แนวทางขั้นต่ำ ที่สถาบันการเงินต้องทำตาม เพื่อป้องกัน “ภัยการเงิน”ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดแนวปฏิบัติขั้นต่ำให้ทุกสถาบันการเงินปฏิบัติตาม เพื่อลดช่องทางที่มิจฉาชีพจะเข้าถึงประชาชน และเพิ่ม ความมั่นใจในการใช้บริการทางการเงินดิจิทัล
อ่านเพิ่มเติม »
ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมี.ค.ฟื้นตัว ดีเหนือระดับ 50 เดือนที่ 2ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมีนาคม 2566 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 ได้เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน สะท้อนความเชื่อมั่นของธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น PPTVHD36 ครบทุกข่าวเข้าใจคอกีฬา ความเชื่อมั่น แนวโน้มเศรษฐกิจ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
อ่านเพิ่มเติม »
“ธปท.” จ่อทบทวนโครงสร้างค่าฟี ระบบชำระเงิน หวังยกระดับใช้จ่ายผ่านดิจิทัล“ธปท.” จ่อทบทวนโครงสร้างค่าฟี ระบบชำระเงิน หวังยกระดับใช้จ่ายผ่านดิจิทัล via MatichonOnline มติชนออนไลน์ ทบทวนค่าฟี ระบบดิจิทัล
อ่านเพิ่มเติม »
ธปท. เร่งวางเกณฑ์คุมแบงก์คิดค่าธรรมเนียม ย้ำต้องสะท้อนต้นทุนจริง : อินโฟเควสท์น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. มีเป้าหมายจะยกระดับให้การใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงินของประชาชน เพื่อมุ่งสู่การลดใช้เงินสดในระยะยาว ภายใต้แผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงินปี 2565-2567 ทั้งนี้ หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การพิจารณาทบทวนโครงสร้างราคาของบริการชำระเงิน และค่าธรรมเนียมการชำระเงินรูปแบบต่างๆ ทั้งเงินสด เช็ค และบริการชำระเงินดิจิทัลให้เหมาะสม ภายใต้หลักการ ดังนี้ 1. สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถใช้บริการชำระเงินได้เพิ่มขึ้นและทั่วถึง 2. สนับสนุนให้การพัฒนาบริการด้านการชำระเงินดิจิทัลสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับกลไกตลาด รวมทั้งรองรับบริการชำระเงินที่จะมีหลากหลายรูปแบบในอนาคต และที่สำคัญต้องตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม น.ส.สิริธิดา กล่าวว่า ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาวางแนวทางโครงสร้างค่าธรรมเนียมของทั้งระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับหลักการข้างต้นและเป็นสากล โดยจะนำมาใช้ประเมินเพื่อพิจารณาปรับปรุงและหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ก่อนนำมาเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินนำไปปรับใช้ต่อไป กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากธนาคารกรุงไทย (KTB) ประกาศจัดเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินแบบไม่ใช้บัตร (Cardless ATM Withdrawal) ครั้งละ 10 บาท เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล ลดการใช้เงินสด โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการถอนเงินไม่ใช้บัตร 1 ครั้งต่อเดือน (ฟรี 1 ครั้งต่อเดือน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ธปท. ย้ำข้อมูลคนไทยที่รั่วไป ใช้ทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ไม่ได้ ต้องยืนยันตัวตนอีกครั้ง #beartaiสถาบันการเงิน (สง.) มีระบบป้องกันข้อมูลของลูกค้าอย่างเข้มงวด และมีระบบตรวจจับความผิดปกติเพื่อให้การให้บริการทางการเงินมีความมั่นคงปลอดภัย
อ่านเพิ่มเติม »
ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจมี.ค.ยืนเหนือ 50 ติดกัน 2 เดือน สะท้อนแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน : อินโฟเควสท์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมี.ค.66 อยู่ที่ 52.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 ได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ตามการปรับเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ นำโดยด้านผลประกอบการและการผลิต ความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับดีขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ และส่งผลให้ดัชนีฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน สะท้อนภาวะธุรกิจที่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและผลประกอบการปรับดีขึ้นมาก สำหรับความเชื่อมั่นของภาคที่มิใช่การผลิต ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของทุกธุรกิจในภาคที่มิใช่การผลิตอยู่เหนือระดับ 50 ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งที่ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นมากในเดือนนี้ ทั้งนี้ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมปรับลดลงจาก 56.2 มาอยู่ที่ 54.2 ตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ และจากภาคการผลิตเป็นสำคัญ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของเกือบทุกหมวดในภาคการผลิตปรับลดลง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตยานยนต์ที่ดัชนีฯ ปรับลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จากความเชื่อมั่นที่ลดลงในเกือบทุกด้าน ส่วนหนึ่งจากที่เร่งผลิตและจำหน่ายไปมากแล้วในเดือนมี.ค. ก่อนการปิดปีงบประมาณของกลุ่มผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งอาจส่งผลให้คำสั่งซื้อปรับลดลงในระยะถัดไป ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคที่มิใช่การผลิตปรับลดลงเล็กน้อย จากความเชื่อมั่นของธุรกิจการค้า รวมถึงธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารหลังจากเร่งขึ้นไปมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ […]
อ่านเพิ่มเติม »