ทองปิดลบ $11.70 เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง-กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย COMEX ทองคำนิวยอร์ก ราคาทอง อินโฟเควสท์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,915.40 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 15.30 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 909.
ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลแรงงานดังกล่าว นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนพ.ย. นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากที่พุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 3.7% ในเดือนพ.ค.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ทองปิดลบ $2.40 เหตุดอลล์แข็งฉุดตลาด : อินโฟเควสท์สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (5 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่แพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย. โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะเปิดเผยรายงานดังกล่าว นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือนมิ.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนพ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 3.6% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ วิตกดอกเบี้ยขาขึ้น-ศก.อ่อนแอ : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (5 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.หลังปิดตลาด นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซนและจีน ทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ตลาดถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมภาคบริการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนมิ.ย. รวมถึงข้อมูลที่บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนลดลงสู่ระดับติดลบ โดยภาคบริการของฝรั่งเศสลดลงในเดือนมิ.ย.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวลง 1.1% เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อราคาโลหะ ขณะที่หุ้นแอลวีเอ็มเอช ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีน ปรับตัวลง 1.1% และหุ้นพรูเดนเชียลซึ่งพึ่งพาตลาดจีนเช่นเดียวกันนั้น ร่วงลง 3.9% ซิตี้กรุ๊ปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ โดยระบุถึงแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป นักลงทุนรอเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดในเดือนมิ.ย.ซึ่งเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต หุ้นกลุ่มประกัน ร่วงลง 1.9% หลังนายเจียนคาร์โล จิออร์เจตติ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอิตาลีแสดงความเห็นว่า จำเป็นต้องมีกฎระเบียบสำหรับอุตสาหกรรมประกันเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดวิกฤตซ้ำรอยบริษัทประกันชีวิตยูโรวิตาของอิตาลี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 1.4% หลังหุ้นเอเอ็มเอส ออสแรม ผู้ผลิตเซนเซอร์ของสวิส ร่วง 13.5% ท่ามกลางความวิตกว่า การควบคุมการส่งออกแร่แกลเลียมของจีนอาจส่งผลกระทบทางลบต่อห่วงโซ่อุปทานของบริษัท แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น 0.5% สวนทางตลาด เนื่องจากหุ้นวอลโว่ คาร์สของสวีเดน […]
อ่านเพิ่มเติม »
น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 2 ดอลล์ รับข่าวรัสเซีย-ซาอุฯลดอุปทานน้ำมัน : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 71 ดอลลาร์ในวันพุธ (5 ก.ค.) ขานรับข่าวซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน และรัสเซียประกาศลดการส่งออกน้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงสิ้นเดือนส.ค. ขณะที่รัสเซียประกาศว่าจะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และการปรับลดการส่งออกน้ำมันของรัสเซียจะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลงประมาณ 1.5% เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ความร่วมมือด้านน้ำมันระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบียยังคงแข็งแกร่งในฐานะสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัส และทั้งสองประเทศจะดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อสนับสนุนตลาด สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามตปท. บอนด์ยีลด์พุ่งหลังรายงานเฟดย้ำขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ตามตลาดต่างประเทศ หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่ยังคงให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครึ่งปีหลังนี้ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์พุ่งขึ้น กดดันตลาดหุ้นปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ด้านปัจจัยในประเทศรอติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ให้แนวรับไว้ที่ 1,490-1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 13-14 มิ.ย.เมื่อคืนนี้ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่ ยังคงให้มุมมองว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.941% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.945% และกดดันต่อตลาดหุ้นในต่างประเทศให้ปรับตัวลง ส่วนปัจจัยในประเทศ นักลงทุนน่าจะไปรอดูการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า (13 ก.ค.66) ให้แนวรับไว้ที่ 1,490-1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 66) […]
อ่านเพิ่มเติม »
รายงานประชุมชี้กรรมการเฟดยังหนุนขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ เหตุเงินเฟ้อสูง : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ในวันพุธ (5 ก.ค.) โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. เนื่องจากเห็นว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อเป็นไปอย่างเชื่องช้า อย่างไรก็ดี ภายหลังจากการอภิปรายสิ้นสุดลง กรรมการเฟดทุกคนได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันดังกล่าว รายงานประชุมระบุว่า การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นั้น ก็เพื่อให้กรรมการมีเวลามากขึ้นในการประเมินความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการประเมินว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% หรือไม่ โดยปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐอยู่สูงกว่าเป้าหมายดังกล่าวกว่า 2 เท่า ขณะเดียวกันรายงานประชุมระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ หลังจากที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดต้องการให้ชะลอความแรงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เฟดมีเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า “กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงมีความไม่แน่นอนสูงมาก และเฟดกำลังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเหมาะสมต่อไป” ในการประชุมครั้งนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวสู่ระดับ 1.0% ในปีนี้ แต่ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปี 2567 และ 2568 สู่ระดับ 1.1% และ 1.8% ตามลำดับ พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสู่ระดับ 3.9% ในปีนี้ และอยู่ที่ 2.6% […]
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้ป่วยไข้เลือดออกพุ่ง 2.7 หมื่นราย สธ.เตือนป่วยซ้ำได้ อาการอาจรุนแรงขึ้น : อินโฟเควสท์กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง พบผู้ป่วยแล้ว 2.7 หมื่นราย สูงกว่าปีที่แล้ว 3 เท่า เสียชีวิต 23 ราย ผู้ป่วยเริ่มสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปี เตือนแม้เคยป่วยแล้ว ยังป่วยอีกได้ และอาการอาจรุนแรงมากขึ้น ควรป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดดีที่สุด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า กรมควบคุมโรค ได้รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออก พบว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยในปี 66 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1-25 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสม 27,377 ราย อัตราป่วยคิดเป็น 41.37 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 23 ราย อัตราป่วยตาย 0.08% ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบผู้ป่วย 9,736 ราย อัตราป่วย 17.46 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 7 ราย อัตราป่วยตาย […]
อ่านเพิ่มเติม »