ทองคำนิวยอร์ก ปิดลบ $1.4 แรงขายทำกำไรถ่วงราคาลง ราคาทองคำ COMEX อินโฟเควสท์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากราคาปรับฐานจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดในไตรมาส 4/2565
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,977.20 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สามารถปรับตัวขึ้นได้ 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,012.80 ดอลลาร์/ออนซ์ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันตลาดทองคำด้วย เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.20% แตะที่ระดับ 103.5549 ในวันศุกร์ บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค ของสหรัฐในวันอังคารหน้า และผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ในวันพุธหน้า นักลงทุนคาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แม้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% โดยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เงินบาทเปิด 34.87 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดกลับมากังวลเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.87 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.78 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยเฉพาะเงินหยวนที่อ่อนค่าเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ ค่อยดี นอกจากนี้ เมื่อคืนธนาคารกลางแคนาดาเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จากเดิมที่ตลาดคาดคงดอกเบี้ย จึงทำให้ตลาด มองว่าแม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม เดือนก.ค. “วันนี้ ต้องติดตามเงินหยวนเพราะตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ค่อยดี ทำให้หยวนอ่อนค่าไปเยอะ และเงินในภูมิภาคก็อ่อนค่า ตามด้วย เมื่อคืนทองคำก็ร่วงไปเกือบ 23 ดอลลาร์ วันนี้อาจจะมี flow ฝั่งนำเข้าทองคำ เป็นขายซื้อดอลลาร์ ขายบาท” นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า เคลื่อนไหวในกรอบ 34.70 – 35.00 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (7 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.86781% ส่วน THAI […]
อ่านเพิ่มเติม »
ญี่ปุ่นปรับเพิ่มประมาณการ GDP Q1 สู่ระดับ 2.7% หลังภาคธุรกิจลงทุนเพิ่ม : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 1/2566 ขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัวเพียง 1.6% หลังจากการใช้จ่ายในภาคธุรกิจดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ที่ได้รับการทบทวนใหม่นี้ ยังแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ขยายตัว 0.7% ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่มีการขยายตัว 0.4% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.5% เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้บริษัทต่าง ๆ ปรับเพิ่มการลงทุน หลังจากที่พากันเลื่อนการลงทุนในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด ขณะที่การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนยังคงฟื้นตัว แม้ว่าราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนปรับตัวขึ้น 1.4% ในไตรมาส 1 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.9% ในการประมาณการเบื้องต้น และสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ส่วนการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวขึ้น 0.5% ลดลงเล็กน้อยจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 0.6% โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »
สหรัฐเตรียมแบ่งปันข้อมูลจากโดรนแบบเรียลไทม์กับไต้หวันและญี่ปุ่น : อินโฟเควสท์สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า สหรัฐ ไต้หวัน และญี่ปุ่นเตรียมแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์จากโดรนลาดตระเวนทางทะเล ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สหรัฐกำลังพยายามผลักดันเพื่อยกระดับความร่วมมือในกรณีที่จีนก่อเหตุโจมตีไต้หวัน ทั้งนี้ บริษัทเจเนอรัล อะตอมมิกส์ (General Atomics) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธจากสหรัฐ จะเริ่มส่งมอบโดรนรุ่น MQ-9B Sea Guardian จำนวน 4 ลำให้กับไต้หวันตั้งแต่ปี 2568 โดยโดรนดังกล่าวสามารถค้นหา ติดตาม รวมถึงเล็งเป้าเรือและเรดาร์ของศัตรู รายงานระบุว่า คุณสมบัติดังกล่าวนั้นมีความสำคัญในการทำสงครามของไต้หวัน ในกรณีที่เรือรบและเรือดำน้ำของจีนแล่นรอบเกาะไต้หวัน โดยจะช่วยยกระดับความสามารถของไต้หวันและประเทศเพื่อนบ้านในการเข้าถึงภาพการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนในช่วงเวลาสงบในแนวสายโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก (First Island Chain) โดยแนวสายโซ่ดังกล่าวเริ่มจากญี่ปุ่นไปจนถึงฟิลิปปินส์ แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะอนุญาตให้ MQ-9B Sea Guardian เหล่านี้ผสานรวมเข้ากับระบบเดียวกับที่กองทัพสหรัฐในภูมิภาคและกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะใช้งาน กรณีดังกล่าวจะทำให้สหรัฐและพันธมิตร และหุ้นส่วนสามารถเห็นข้อมูลเดียวกันที่รวบรวมจากโดรนไร้คนขับ “เราจะดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อรับประกันว่า การผสานรวมระบบโดรนเข้าด้วยกันจะสำเร็จโดยเร็วที่สุด” แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับโครงการเชื่อมต่อโดรนกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'ไมค์ เพนซ์' หาเสียงลงชิงแคนดิเดตปธน.สหรัฐปีหน้า ฉะ 'ทรัมป์' ปมหนุนม็อบบุกสภา : อินโฟเควสท์นายไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐในสมัยของนายโดนัลด์ ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์นายทรัมป์เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) ในการหาเสียงชิงตำแหน่งแคนดิเดตของพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งปธน.ปี 2567 โดยนายเพนซ์ประณามนายทรัมป์ที่ปลุกม็อบโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐในปี 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายเพนซ์กล่าวประณามนายทรัมป์รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา โดยวิจารณ์บทบาทของนายทรัมป์ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์บุกเข้าไปในรัฐสภาสหรัฐเพื่อพยายามขัดขวางการรับรองผลการเลือกตั้งปธน.ปี 2563 ที่นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายชนะ “ผมเชื่อว่าคนที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งเหนือรัฐธรรมนูญไม่สมควรเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ และใครก็ตามที่เรียกร้องให้ผู้อื่นเอาตัวเขาเองเป็นที่ตั้งเหนือรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกเลย” นายเพนซ์กล่าวหาเสียงในรัฐไอโอวา นายเพนซ์ระบุว่า การกระทำของนายทรัมป์ในวันนั้น “ทำให้ครอบครัวของผม และทุกคนที่อยู่ในอาคารรัฐสภาตกอยู่ในอันตราย” ในวันนั้น ม็อบหนุนทรัมป์ก่อการจลาจลในอาคารรัฐสภาสหรัฐ ส่งผลให้นายเพนซ์และครอบครัว ตลอดจนสมาชิกสภานิติบัญญัติและเจ้าหน้าที่ต้องหนีออกจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ประท้วงบางรายตะโกนให้จับตัวนายเพนซ์มาแขวนคอ “คนอเมริกันสมควรได้รู้ว่าในวันนั้น ปธน.ทรัมป์กดดันผมด้วยว่าจะเลือกตัวเขาหรือเลือกรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องเผชิญตัวเลือกแบบเดียวกับผม ผมเลือกรัฐธรรมนูญ และผมจะเลือกข้อนี้ตลอดไป” นายเพนซ์กล่าว นอกจากนี้ ในระหว่างการหาเสียงในรัฐไอโอวา นายเพนซ์ยังวิจารณ์นายทรัมป์ว่าไม่ใส่ใจกับประเด็นการทำแท้ง โดยนายทรัมป์ขณะยังดำรงตำแหน่งปธน.ได้แต่งตั้งเหล่าผู้พิพากษาประจำศาลสูงสุดสหรัฐที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการล้มกฎหมายคุ้มครองการทำแท้งทั่วประเทศในปีที่แล้ว ในตอนนั้น นายทรัมป์ไม่ต้องการสนับสนุนให้การจำกัดสิทธิ์การทำแท้งกลายเป็นกฎหมายที่บังคับใช้กับทุกรัฐ โดยกล่าวว่าควรปล่อยให้แต่ละรัฐตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวเอง ในทางกลับกัน นายเพนซ์หนุนสภาคองเกรสให้ออกกฎหมายจำกัดการทำแท้งทั่วทั้งประเทศ ด้านนายทรัมป์กล่าวกับนายทอดด์ สตาร์นส์ นักวิจารณ์หัวอนุรักษ์นิยมเมื่อวันจันทร์ (5 […]
อ่านเพิ่มเติม »
เตือนหลายภาครับมือฝนตกหนักถึง 11 มิ.ย. พื้นที่เสี่ยงระวังน้ำท่วมฉับพลัน : อินโฟเควสท์กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยจากคลื่นลมแรง และฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่จะเกิดขึ้นถึงวันที่ 11 มิ.ย.66 เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ และอ่าวตังเกี๋ย ขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมชายฝั่งประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเสี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 11 มิ.ย.66 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 […]
อ่านเพิ่มเติม »
AH ดิ่ง 17.20% นำกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ร่วง กังวล 'อีซูซุ' เตรียมย้ายการผลิตไปอินโดฯ : อินโฟเควสท์AH ราคาหุ้นปรับตัวลงนำกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 17.20% หรือลดลง 6.75 บาท มาที่ 32.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 154.70 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น. จากราคาเปิด 34.00 บาท ราคาสูงสุด 34.00 บาท ราคาต่ำสุด 31.00 บาท นายอากัส กูมิวัง คาร์ตาซัสมิตา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยมายังอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า “เราชื่นชมการตัดสินใจของอีซูซุ และเราจะยื่นข้อเสนอที่จูงใจ และให้การสนับสนุนกระบวนการโยกย้ายการผลิตดังกล่าว” นายอากัสกล่าว หลังเข้าพบกับฝ่ายบริหารของอีซูซุที่กรุงโตเกียว อย่างไรก็ดี ตัวแทนของบริษัทอีซูซุประจำประเทศไทยยังไม่ได้ยืนยันข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด ปัจจุบัน อีซูซุมีโรงงานผลิตรถยนต์ 2 แห่งในประเทศไทยที่จังหวัดสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์รวมกัน 385,000 คัน/ปี และมีการจ้างงานพนักงานราว 6,000 คน ส่วนในอินโดนีเซีย อีซูซุมีโรงงานผลิตรถยนต์ 1 […]
อ่านเพิ่มเติม »