จีน ผ่อนคลาย ซีโร่โควิด อีก อนุญาตผู้นำเวิลด์แบงก์-IMF ร่วมซัมมิตไม่ต้องกักตัว โควิด19 COVID19 อินโฟเควสท์
นายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก, นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และผู้นำองค์กรระดับโลกอื่น ๆ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัว และสามารถพูดคุยใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนในการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีและศุกร์ ที่มณฑลอันฮุยของจีน ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวดของจีน
นอกจากนี้ ผู้นำองค์กรเศรษฐกิจดังกล่าวยังได้จัดการแถลงข่าวแบบตัวต่อตัว โดยเจ้าหน้าที่ขององค์กรบางแห่งได้พูดคุยกับนักข่าวได้อย่างอิสระ ซึ่งทุกคนสวมหน้ากากอนามัย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจีนในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด อย่างน้อยก็จนถึงเมื่อจีนประกาศยกเลิกการตรวจเชื้อโควิด-19 ตามปกติ, การล็อกดาวน์ และการกักตัวผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสใกล้ชิดในสถานที่ของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม จีนยังคงกำหนดให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องกักตัวเป็นเวลา 5 วันในสถานที่ที่รัฐกำหนด และหลังจากนั้นให้กักตัวต่อที่บ้านอีก 3 วัน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'โกลด์แมนแซคส์' คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำกว่า 3% ต่อปีในช่วง 10 ปีหน้า : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์ แมนแซคส์ได้พยายามที่จะคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกไปจนถึงปี 2618 หรืออีก 53 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ออกรายงานที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะยาวของประเทศในกลุ่ม BRIC ซึ่งประกอบด้วยบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย และจีน และในขณะนี้ ทีมนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งนำโดยนายแจน แฮตซิอุซ ก็ได้ขยายขอบเขตการคาดการณ์เศรษฐกิจให้ครอบคลุมถึง 104 ประเทศในช่วง 50 ปีข้างหน้า และได้สรุปการคาดการณ์ไว้ดังนี้: – การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉลี่ยจะอยู่ต่ำกว่า 3% ต่อปีในช่วง 10 ปีข้างหน้า ลดลงจากระดับ 3.6% ในช่วง 10 ปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินโลก และหลังจากนั้นคาดว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะสะท้อนถึงการขยายตัวของกำลังแรงงานที่ชะลอลง – ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะยังคงปรับตัวตามกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ขณะที่จีน สหรัฐ อินเดีย อินโดนีเซีย และเยอรมนี จะผงาดขึ้นเป็นกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเมื่อวัดมูลค่าในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ส่วนไนจีเรีย, ปากีสถาน และอียิปต์ ก็อาจจะติดกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดด้วยเช่นกัน — …
อ่านเพิ่มเติม »
PTTEP ตั้งงบลงทุน 5 ปี 1 ล้านลบ.เน้นโตยั่งยืน ดันปริมาณขาย 5.5 ล้านบาร์เรลปี 70 : อินโฟเควสท์บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ประกาศแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 66-70) ราว 1 ล้านล้านบาท เน้นการ ลงทุนสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินงาน มุ่งสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ควบคู่การพัฒนาโครงการลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมกับเดินหน้าธุรกิจใหม่รองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานของโลกเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP เปิดเผยว่า จากความท้าทายของการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน และความมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ปตท.สผ.จึงได้ปรับแผนกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่าง ยั่งยืน PTTEP จะมุ่งเน้นการดำเนินงาน 3 ด้าน (Pillar) ได้แก่ – การขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (Drive Value) ทั้งการเพิ่มปริมาณการผลิตจากโครงการ ในประเทศไทยเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ และเร่งรัดการพัฒนาโครงการหลัก ๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้และตะวันออกกลาง – ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonize) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 โดยเร่งพัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture & Storage หรือ CCS) โครงการปล่อยก๊าซส่วนเกินซึ่ง เกิดจากกระบวนการผลิตปิโตรเลียมเป็นศูนย์ …
อ่านเพิ่มเติม »
ฟุตบอลโลก 2 สัปดาห์แรกดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ากาตาร์ต่ำกว่าคาด : อินโฟเควสท์คณะกรรมการสูงสุดเพื่อการส่งมอบและมรดก (Supreme Committee for Delivery and Legacy หรือ SC) ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2022 ที่ประเทศกาตาร์เปิดเผยว่า มีผู้เดินทางเยือนกาตาร์ราว ๆ 765,000 คนในช่วง 2 สัปดาห์แรกของการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ว่า จะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามา 1.2 ล้านคนในระหว่างการแข่งฟุตบอลโลกระหว่างวันที่ 20 พ.ย. – 18 ธ.ค. รายงานของ SC ในวันที่ 7 ธ.ค. ระบุว่า จำนวนผู้มาเยือนจากต่างชาติในช่วง 17 วันแรกของการแข่งขันมีจำนวน 765,859 ราย ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวนดังกล่าวได้เดินทางกลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายงานระบุว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมามีผู้ถือตั๋วเข้าชมการแข่งขัน 1.33 คนและสามารถจำหน่ายตั๋วได้ 3.09 ล้านใบจากการแข่งขันทั้ง 8 สนาม โดยทางเจ้าหน้าที่กาตาร์ได้ยืนยันตัวเลขดังกล่าว สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จากการที่ปัจจุบันเหลือเพียง 8 ประเทศและการแข่งอีก 8 นัด …
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์นอกไม่สะเทือน! เก็บภาษีขายหุ้น ยันมองศก.ภาพรวมมากกว่า : อินโฟเควสท์นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า การเก็บภาษีหุ้นในปี 66 มองว่าไม่กระทบต่อ Fund Flow ที่จะยังมีทิศทางไหลสู่ตลาดทุนในประเทศปีหน้า เพราะในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติเรื่องการเก็บภาษีซื้อขายในการลงทุนที่ตลาดหุ้นต่างประเทศมีการเก็บภาษีขายหุ้นอยู่แล้ว ทำให้ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติมีความคุ้นเคย แต่ในภาพรวมมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศไทยจะมองในภาพรวมของประเทศมากกว่า เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจ นโยบายของรัฐบาล ค่าเงิน เป็นต้น ที่จะเป็นปัจจัยส่งผลต่อ Fund Flow ที่เข้ามา โดยในส่วนของตลาดหุ้นในปีหน้า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยตามมุมมองของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทย จะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจประเทศได้ และถ้ามีนโยบายการเมืองจากรัฐบาลชุดใหม่ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างดี และสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจ มีการจูงใจการลงทุนเข้ามา รวมทั้งมุมมองค่าเงินบาทในปีหน้าที่ยังมองแข็งค่าขึ้น จะส่งผลบวกต่อ Fund Flow ที่ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าได้ “รัฐบาลได้เริ่มหันมาที่การดูแลวินัยการคลังมากขึ้น หลังจากในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีการใช้จ่ายเงินไปมาก ทำให้ต้องกลับมาดูในเรื่องความสมดุลของงบดุล ทำให้เรื่องการเก็บภาษีจึงเป็นสิ่งแรกๆที่เข้ามาในการบาลานซ์งบดุลของรัฐ แต่สำหรับนักลงทุนต่างชาติจะมอง Big Picture มากกว่าในการลงทุน ทำให้การเก็บภาษีหุ้นไม่กระทบต่อ Fund Flow มาก ถ้าเศรษฐกิจไทยดี และเขามีมุมมองบวก ต่างชาติก็พร้อมเข้ามาลงทุน” นายทิม กล่าว สำหรับในปี 65 …
อ่านเพิ่มเติม »
สแตนชาร์ด มองท่องเที่ยว-เลือกตั้งหนุน GDP ไทยปี 66 โตโดดเด่น : อินโฟเควสท์นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจไทยปี 66 ฟื้นตัวต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยคาดการณ์ตัวเลข GDP ไทยในปี 66 เติบโต 4.5% จากปัจจัยการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวต่อเนื่อง ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้าได้อย่างมีนัยสำคัญ และมีสัดส่วนต่อ GDP ที่มากถึง 15% ของ GDP ทั้งหมด ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศได้ค่อนข้างมาก ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะเติบโตโดดเด่นกว่าในปีนี้และดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า “ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่ปีหน้าการท่องเที่ยวและการเลือกตั้ง จะทำให้เศรษฐกิจไทยเป็นบวกโดดเด่นได้อย่างดี” นายทิม กล่าว อย่างไรก็ตามอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยบ้างในเรื่องการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในบางประเทศ แต่มองว่าการท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยชดเชยในส่วนของผลกระทบจากภายนอก และล่าสุดจีนได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายการควบคุมโควิด-19 ลงแล้ว ทำให้ปีหน้ามีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเริ่มทยอยเดินทางออกมานอกประเทศได้ และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวในปีหน้าไว้ที่ 15-20 ล้านคน “Recession ของเศรษฐกิจในประเทศหลัก และกระทบมาถึงเศรษฐกิจโลก เราไม่ได้ Bias ว่าจะเป็นการ Recession …
อ่านเพิ่มเติม »
ชาวจีนส่วนใหญ่อาจต้องติดเชื้อโควิด หลังรัฐเริ่มคลายซีโร่โควิด : อินโฟเควสท์นายเฟิง จื่อเจี้ยน อดีตรองหัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของจีนเตือนว่า ในท้ายที่สุดแล้วประชากรส่วนใหญ่ของจีนอาจต้องติดเชื้อโควิด-19 หลังจีนเริ่มเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ไปสู่การอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนสูงขึ้น นายเฟิงคาดการณ์ว่า ประชาชนชาวจีนราว 80-90% อาจต้องติดเชื้อโควิด-19 ในท้ายที่สุด พร้อมทั้งยังได้ระบุในการประชุมออนไลน์ซึ่งจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยซิงหวา (Tsinghua University) ในกรุงปักกิ่งว่า “การติดเชื้ออย่างน้อย 1 ครั้ง อาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยไม่คำนึงว่าจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการรับมือกับโรคโควิด-19 อย่างไร” ทั้งนี้ นายเฟิงรับหน้าที่ให้คำปรึกษากับหน่วยงานป้องกันและควบคุมร่วมของจีนเกี่ยวกับวิธีจัดการกับโรคระบาด โดยเขาเป็น 1 ใน 8 ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมหารือกับนางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเธอได้ยกเลิกการระบุถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์เชิงรุก (dynamic zero COVID) และให้คำมั่นว่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแนวทางการรับมือกับโรคโควิด-19 ในจีน นายเฟิงคาดว่า ชาวจีนประมาณ 60% อาจติดเชื้อในระลอกแรกก่อนที่แนวโน้มการติดเชื้อจะชะลอลง เมื่อเทียบกับรายงานการวิเคราะห์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แห่งสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อเดือนเม.ย.ระบุว่า ประชาชนสหรัฐราว 58% ติดเชื้อโควิดภายในเดือนก.พ.ปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 33.5% ในเดือนธ.ค. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …
อ่านเพิ่มเติม »