ZoomIn: เต็มคาราเบลแน่ปีนี้!! 160 หุ้น IPO วิ่งแข่งสร้างสีสัน-ดึงเม็ดเงินใหม่ IPO หุ้นไทย ไฟลิ่ง อินโฟเควสท์
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 65 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ส่งแบบสำรวจไปยังที่ปรึกษาทางการเงินทุกแห่งเพื่อสอบถามโอกาสการส่งบริษัทลูกค้าในมือยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล และเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปรากฎว่ามีผู้แจ้งจำนวนเข้ามามากถึงกว่า 160 บริษัท จาก FA กว่า 30 ราย หรือถ้าคิดเฉลี่ยแต่ละเดือนหากสามารถยื่นไฟลิ่งและเข้าตลาดได้ทันปีนี้จะมีหุ้น IPO เข้าเทรดถึงเดือนละกว่า 10 ตัวนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ในปี 66 ถือเป็นปีที่จะเห็นการนำบริษัทเสนอขายหุ้น IPO และเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทที่พร้อมต้องเร่งเข้าตลาดก่อนที่เกณฑ์ใหม่จะมีผลในปี 67 ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้น ถ้าต้องปรับตามเกณฑ์ใหม่อาจทำให้การเข้าตลาดฯ ต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องปรับแก้ข้อมูลบางส่วนเพื่อเป็นไปตามเกณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะการนำส่งงบการเงินฉบับเต็มตามมาตรฐานบัญชีใหม่ย้อนหลังทั้ง 3 ปี จากเดิมที่กำหนดไว้ย้อนหลังเพียง 1...
แต่ด้วยความที่มีจำนวนหุ้น IPO ค่อนข้างมากการจะคาดหวังให้ราคาหุ้นน้องใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 100-200% เหมือนในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมนั้นจะมีความน่าสนใจหรือโดดเด่นมากๆ หรือไม่ และก็มีโอกาสที่หุ้นใหม่ที่เข้ามาอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวัง สำหรับเกณฑ์ใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนในปีหน้าอาจจะทำให้บริษัทต้องใช้ระยะเวลาในการทำงบบัญชี 3 ปี ตามาตรฐานบัญชีใหม่ที่นานขึ้น ส่งผลต่อระยะเวลาในการเข้าระดมทุนของบริษัทที่จะล่าช้าออกไป บางบริษัทอาจจะไม่สามารถระดมทุนได้ตามระยะเวลาเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและเล็กที่จะเข้ามาระดมุทนในตลาดหลักทรัพย์ แต่บริษัทขนาดใหญ่ไม่ค่อยมีความเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าว...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
READY หุ้นเทคฯน้องใหม่ติดเครื่องเข้า mai ปีนี้หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง : อินโฟเควสท์บมจ.เรดดี้แพลนเน็ต (READY) เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 35,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 35% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเสนอขายภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุน 15,000,000 หุ้น คิดเป็น 15% และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Darlex Limited จำนวน 20,000,000 หุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเสนอขายภายหลัง IPO หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (Sector) เทคโนโลยี (Technology) ภายในปี 66 นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร READY เปิดเผยว่า การเข้ามาระดมทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ “เป็นบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีการขายและการตลาดดิจิทัลในประเทศไทย” สนับสนุนธุรกิจไทยให้เติบโตด้วยแพลตฟอร์มการขายและการตลาดระดับโลก […]
อ่านเพิ่มเติม »
เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 60 ล้านหุ้น-เข้า mai ขยายศูนย์ผู้มีบุตรยาก : อินโฟเควสท์บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน GFC เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำแนะนำและคำปรึกษา ตลอดจนการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน , ใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการขยายสาขา และใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การประกอบธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) การให้บริการตรวจเบื้องต้นก่อนให้คำแนะนำหรือรักษา 2) การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI (Intrauterine insemination) 3) การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm […]
อ่านเพิ่มเติม »
TMC เปลี่ยนมือหลังกลุ่ม 'กมลมงคลสุข' ขายบิ๊กล็อตกว่า 90.67 ล้านหุ้น : อินโฟเควสท์บมจ.ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม (TMC) แจ้งรายการซื้อขายหุ้น TMC บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ช่วงวันที่ 6-13 ม.ค.66 จำนวนรวม 90,670,562 หุ้น ส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลง ดังนี้ 1. นางสาวพัชรวลัย กมลมงคลสุข ขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 25,038,212 หุ้น คิดเป็น 5.46% ในวันที่ 6 ม.ค.66 2. นางทับทิม กมลมงคลสุข ขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 30,882,350 หุ้น คิดเป็น 6.73% ในวันที่ 12 ม.ค.66 3. นายทวีมิตร กมลมงคลสุข ขายหุ้นจำนวน 36,750,000 หุ้น คิดเป็น 8.01% คงเหลือถือจำนวน 2,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.44% ในวันที่ 13 […]
อ่านเพิ่มเติม »
คุณแม๊ ยันคดีแตงโม ยังไม่จบ ! แจงคู่กรณีเสนอดูแลเอง-น้องโมทำงานปีละ 160 ล้านคุณแม๊ ลั่นคดีแตงโมยังไม่จบ แจงคู่กรณีเสนอดูแลเอง-ลูกทำงานปีละ 160 ล้าน แตงโมนิดา kapook
อ่านเพิ่มเติม »
จีนเผยรถยนต์แบรนด์จีนยอดขายพุ่ง 22.8% ในปี 2565 : อินโฟเควสท์สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์แบรนด์จีนพุ่งขึ้น 22.8% ในปี 2565 โดยผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศตั้งใจจะยกระดับผลิตภัณฑ์ขึ้น รายงานระบุว่า จีนจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแบรนด์ที่ผลิตในประเทศได้ประมาณ 11.77 ล้านคันในปี 2565 โดยคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 49.9% เพิ่มขึ้น 5.4 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี CAAM ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของจีนมุ่งเป้าไปที่โอกาสด้านยานยนต์พลังงานใหม่และเครือข่ายอัจฉริยะ โดยส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและการอัปเกรดยานยนต์อัจฉริยะ รวมถึงปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การพัฒนาระหว่างประเทศของบริษัทรถยนต์จีนได้เพิ่มอิทธิพลของแบรนด์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
IMF เตือนการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจส่อฉุด GDP ทั่วโลกรุนแรงถึง 7% : อินโฟเควสท์กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในรายงานที่มีการเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ว่า การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นรุนแรงทั่วโลก หลังจากที่โลกเคยขับเคลื่อนด้วยระบบโลกาภิวัตน์ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมานั้น อาจบั่นทอนตัวเลข GDP โลกสูงถึง 7% โดยอาจบั่นทอน 8% – 12% ในบางประเทศ หากมีการแบ่งแยกทางเทคโนโลยีร่วมด้วย ทั้งนี้ IMF ระบุว่า แม้กรณีที่เศรษฐกิจโลกแบ่งขั้วกันในวงจำกัดก็ยังอาจลด GDP โลกได้ 0.2% แต่ยังจำเป็นต้องประเมินผลกระทบที่มีต่อเครือข่ายความปลอดภัยทางการเงินระดับโลก (GFSN) ด้วย รายงานระบุว่า การหมุนเวียนของสินค้าและเงินทุนทั่วโลกลดน้อยลง หลังเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกในปี 2551 – 2552 และการออกมาตรการจำกัดทางการค้าก็เพิ่มสูงขึ้นในปีต่อ ๆ มา “โรคโควิด-19 ระบาดและกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนได้ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากขึ้นและเพิ่มข้อกังขาเกี่ยวกับผลประโยชน์ของโลกาภิวัตน์” IMF ระบุในรายงาน IMF ระบุว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นส่งผลให้ปัญหาความยากจนทั่วโลกลดลงอย่างมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ ยังประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภครายได้น้อยในประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วผ่านสินค้าราคาย่อมเยา ดังนั้น การยกเลิกการเชื่อมโยงทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อประเทศรายได้น้อยและผู้บริโภครายได้ต่ำในประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วมากที่สุด” สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก IMF ว่า การออกมาตรการจำกัดการอพยพข้ามพรมแดนจะทำให้ประเทศจุดหมายปลายทางสูญเสียแรงงานมีฝีมือ และลดจำนวนเงินที่ผู้อพยพส่งกลับประเทศบ้านเกิด การหมุนเวียนเงินทุนที่ลดน้อยลงจะลดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) […]
อ่านเพิ่มเติม »