TSE คาดผลงาน Q4/65 ใกล้เคียง Q3/65,คาดหวังประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5-10% : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

TSE คาดผลงาน Q4/65 ใกล้เคียง Q3/65,คาดหวังประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5-10% : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 35 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 17%
  • Publisher: 68%

TSE คาดผลงาน Q4/65 ใกล้เคียง Q3/65,คาดหวังประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5-10% TSE หุ้นไทย ไทยโซล่าร์เอ็นเนอร์ยี่ อินโฟเควสท์

น.ส.ชฎาธิรัฏฐ์ เลิศทวีสิน ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 3/65 เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูฝน ขณะเดียวกันไม่มีรายการพิเศษ หรือการจำหน่ายเงินทุนแล้ว ส่งผลให้ทั้งปีก็คาดว่ารายได้ในปี 65 จะใกล้เคียงกับปีก่อน

ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตเติบโตเพิ่มอีก 100-200 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันก็อยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากทางภาครัฐ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโซลาร์ฟาร์ม+แบตเตอรี่ บริษัทฯ คาดหวังว่าจะได้รับส่วนแบ่งจากการประมูลราว 5-10% และคาดว่าโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากทางภาครัฐจะสามารถทราบผลได้ในช่วงปลายไตรมาส 1/66

ปัจจุบัน TSE มีจำนวนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นรวม 35 โครงการ กำลังการผลิตรวม 286.20 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและไบโอแมสในประเทศไทย รวม 34 โครงการ กำลังการผลิตรวม 153.20 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นอีก 1 โครงการ กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

LALIN มั่นใจผลงาน Q4/65 ดีกว่า Q3/65 รับลูกค้าเร่งโอนก่อนสิ้นสุดมาตรการรัฐ : อินโฟเควสท์LALIN มั่นใจผลงาน Q4/65 ดีกว่า Q3/65 รับลูกค้าเร่งโอนก่อนสิ้นสุดมาตรการรัฐ : อินโฟเควสท์นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจปีนี้เป็นปีที่มีปัจจัยท้าทายต่างๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบที่เกิดจากประเด็นเรื่อง Geopolitics ความท้าทายจากราคา Commodities ต่างๆ ที่เร่งตัวขึ้น ความท้าทายในเรื่องของเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทั่วโลก จนทำให้หลายประเทศต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย อันเริ่มนำมาสู่ความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ในหลายประเทศ ในส่วนของประเทศไทยคาดว่าสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็คงมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 1.25% ซึ่งมองว่าการค่อยๆปรับขึ้นนั้น ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชนจะสามารถที่จะปรับตัวได้ โดยประเทศไทยมีเครื่องยนต์จากการท่องเที่ยวที่เริ่มค่อยๆฟื้นตัว ภายหลังการเปิดประเทศ โดยในปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเกินระดับ 10 ล้านคน และคาดหวังจะขึ้นไปถึง 20 ล้านคนได้ในปี 66 ซึ่งภาคการท่องเที่ยวนี้จะเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวไปได้สำหรับในปีนี้ต่อปีหน้า สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 4/66 มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมโอน และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. 65 อาจเห็นการเร่งโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้ ในแง่ของผลการดำเนินงานของบริษัท สำหรับไตรมาส 3/66 มียอดรับรู้รายได้ 1,504.7 ล้านบาท …
อ่านเพิ่มเติม »

VRANDA โชว์ผลงาน Q3/65 กลับมาโตจากท่องเที่ยวฟื้น-ปรับกลยุทธ์รับนทท.ใช้จ่ายสูง : อินโฟเควสท์VRANDA โชว์ผลงาน Q3/65 กลับมาโตจากท่องเที่ยวฟื้น-ปรับกลยุทธ์รับนทท.ใช้จ่ายสูง : อินโฟเควสท์นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/65 มีรายได้รวม 330 ล้านบาท เติบโต 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2 ล้านบาท เติบโต 104% โดยมีปัจจัยจากการปรับกลยุทธ์การตลาดสอดรับกับสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น มุ่งเจาะนักท่องเที่ยวระดับบนที่มีอัตราการใช้จ่ายสูง ผลักดันให้รายได้ธุรกิจโรงแรม 255 ล้านบาท เติบโต 346% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในเครือวีรันดาอยู่ที่ 57% โดยค่าห้องพักเฉลี่ยไม่ได้ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 62 แล้ว ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 29 ล้านบาท เติบโต 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมามีไลฟ์สไตล์ทั้งกิน-เที่ยว-ช้อป สู่ภาวะปกติ สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี บริษัทเดินหน้าปรับกลยุทธ์การตลาดโดยจะดำเนินการปรับราคาเฉลี่ยต่อห้องเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดท่องเที่ยว หรืออยู่ในระดับใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติ ประกอบกับการบริหารอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่สูงจนเกินไปส่งผลถึงประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค และยังได้วางแผนมุ่งเจาะตลาดนักท่องเที่ยวระดับบนเพื่อเพิ่มรายได้และรองรับกับเทรนด์การท่องเที่ยวทั่วโลกมีความต้องการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศสูงขึ้น เนื่องจากมีหลายประเทศยกเลิกหรือผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ “ทิศทางตลาดท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงไตรมาส 4/65 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดูจากเทรนด์การท่องเที่ยวในตลาดต่างประเทศที่กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราค่าใช้จ่ายสูงต่อคนสูง ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพ ประกอบกับสภาพอากาศที่เริ่มหนาว สร้างบรรยากาศให้เกิดการท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น …
อ่านเพิ่มเติม »

BEM เผยกำไร Q3/65 นิวไฮตามปริมาณเดินทางเพิ่มขึ้น รับภาพรวมศก.ฟื้น : อินโฟเควสท์BEM เผยกำไร Q3/65 นิวไฮตามปริมาณเดินทางเพิ่มขึ้น รับภาพรวมศก.ฟื้น : อินโฟเควสท์นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 3/65 โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 863 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 755 ล้านบาทหรือ 699% ที่มีกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท และมีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 3,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,585 ล้านบาท หรือ 73.6% โดยรายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น จำนวน 868 ล้านบาท รายได้ค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถเพิ่มขึ้น จำนวน 651 ล้านบาท และรายได้พัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น จำนวน 66 ล้านบาท จากปัจจัยบวกหลังการเปิดประเทศที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาทำงานของภาคธุรกิจ การกลับมาเรียน on site ของสถาบันการศึกษา และยอดนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขกำไร 863 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปีนี้เป็นตัวเลข New …
อ่านเพิ่มเติม »

หุ้นไทยปิดเช้าร่วง 14.29 จุดรับแรงขายบิ๊กแคปหลังจบงบ Q3/65-ไร้ปัจจัยใหม่หนุนตลาด : อินโฟเควสท์หุ้นไทยปิดเช้าร่วง 14.29 จุดรับแรงขายบิ๊กแคปหลังจบงบ Q3/65-ไร้ปัจจัยใหม่หนุนตลาด : อินโฟเควสท์SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,623.00 จุด ลดลง 14.29 จุด (-0.87%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,198.10 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลง จากแรงขายหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่มีแรงขายออกมามาก หลังประกาศงบฯไตรมาส 3/65 ไปแล้ว และยังไร้ปัจจัยใหม่ช่วยหนุนตลาด ทำให้มีแรงขายออกมากดดันหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งแดนลบต่อ พร้อมให้แนวต้าน 1,630 จุด แนวรับ 1,615 จุด ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,623.00 จุด ลดลง 14.29 จุด (-0.87%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,198.10 ล้านบาท การซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีปรับตัวลงตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,633.76 จุด และต่ำสุด 1,621.19 จุด นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลง จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-29 21:50:10