TOPICSTODAY: ศาล รธน.ชี้ขาด กม.เลือกตั้งสูตรหาร 100/กนง.เคาะดอกเบี้ย-ธปท.แถลงภาวะเศรษฐกิจ
– ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ จับตาไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ กรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส.และส.ว. รวม 105 คน เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในมาตรา 25 และมาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และให้วินิจฉัยว่า การตราร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
– ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะเศรษฐกิจการเงิน ประจำเดือนต.ค. 65 โดยต้องติดตามว่าในมุมมองของแบงก์ชาติ ยังมีประเด็นใดที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ หรือจะมีประเด็นใดที่เป็นปัจจัยสนับสนุนการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงจากนี้ไป – ภารกิจสำคัญวันนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ช่วงเช้า จะเป็นประธานในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2565 “DG Awards 2022” ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ลุ้นดอกเบี้ย กนง.-ถ้อยแถลงประธานเฟด : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ รอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับดอกเบี้ยอย่างไร และมุมมองทิศทางดอกเบี้ยในระยะต่อไป รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด ส่วนตลาดหฺ้นเอเชียเช้านี้บวกและลบสลับกัน พร้อมให้แนวต้าน 1,630-1,635 จุด แนวรับ 1,615-1,620 จุด นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ วันนี้รอติดตามประเด็นสำคัญ คือ การประชุม กนง.จะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%) หากปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจช่วยหนุนต่อค่าเงินบาทและตลาดหุ้น แต่หากยังคงอัตราเดิมไว้คงไม่มีผลต่อตลาด แต่ยังต้องติดตามความเห็นของ กนง.ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไปด้วย นอกจากนี้ คืนนี้ตลาดยังรอเกาะติดถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีแถลงการณ์ออกมาอย่างไร โดยเฉพาะทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นในภาพรวม ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน ให้แนวต้าน 1,630-1,635 จุด แนวรับ 1,615-1,620 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
BAY ให้กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 35.60-36.35 จับตาทิศทางนโยบายของเฟด-กนง. : อินโฟเควสท์กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60-36.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 35.77 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.57-36.30 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรายงานประชุมเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย.65 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่เห็นสมควรที่จะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวรับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเฟดเริ่มหารือกันเรื่องความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจจากการเร่งคุมเข้มนโยบาย โดยรายงานการประชุมสะท้อนว่าสิ่งที่สำคัญกว่าขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต คือการที่เฟดเริ่มมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่าจำเป็นจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับใดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อีกทั้งเฟดประเมินว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 66 นั้นเกือบที่จะเท่ากับโอกาสของกรณีฐาน ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงขณะที่ราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 64 ท่ามกลางความวิตกต่อแนวโน้มอุปสงค์จากจีนและเศรษฐกิจโลก โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยมูลค่า 5,388 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตรสุทธิ 11,665 ล้านบาท สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า นักลงทุนจะติดตามความเห็นประธานเฟด รวมถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคและการจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟดต่อไป โดยคาดว่าประธานเฟดจะยังคงสื่อสารว่าเฟดให้น้ำหนักต่อการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อสูงเป็นอันดับแรกและพยายามลดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2566 นอกจากนี้ความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่จุดสูงสุดใหม่และการประท้วงในวงกว้างต่อมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดในจีนอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นขณะที่ราคาสินทรัพย์เสี่ยงถึงรอบปรับฐานลง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)จะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bp เป็นครั้งที่สามติดต่อกันสู่ระดับ …
อ่านเพิ่มเติม »
TOPICSTODAY: จับตาอนาคตการเมือง 'บิ๊กตู่'/ปชป.กดดันปรับ ครม./พาณิชย์แถลงส่งออกต.ค. : อินโฟเควสท์– ประเด็นร้อนทางการเมือง ที่กำลังเป็นที่จับตามองมากสุดในขณะนี้ หนีไม่พ้นเรื่องความชัดเจนของอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่เกาะติดของสื่อทุกสำนัก หลังมีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยงานนี้อาจจะมี ส.ส.หลายคนของพรรคพลังประชารัฐ ทยอยลาออก เพื่อไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยยังต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวนี้รายวัน – นอกจากนี้ ยังมีประเด็นร้อนเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้เสนอชื่อของนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เข้ามาเป็น รมช.มหาดไทย แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีกระแสกดดันมาถึงนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 6 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้เสียโอกาสในการสร้างผลงาน – ประเด็นด้านเศรษฐกิจและธุรกิจที่น่าสนใจวันนี้ ติดตามการแถลงสถานการณ์ภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือนตุลาคม และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 รวมถึงภาวะการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีการปรับหมายการส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ หลังจากการส่งออกในช่วงนี้ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง – …
อ่านเพิ่มเติม »
ประชุมท้ายปี2565คาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%แตะ 1.25%ศูนย์วิจัยกสิกรไทยย้ำ กนง.ประชุม30พ.ยนี้ ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายค่อยเป็นค่อยไปอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.25% ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อยังสูง แม้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแต่มีความเปราะบางทั้งหนี้ภาคธุรกิจ-ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง
อ่านเพิ่มเติม »
จับตา กนง.ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% คุมเงินเฟ้อ ด้าน 'เคเคพี' คาด ศก.66 โตแค่ 2.8%สรุป ข่าวหน้า1 จับตา กนง.ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% คุมเงินเฟ้อ ด้าน ‘เคเคพี’ คาด ศก.66 โตแค่ 2.8%
อ่านเพิ่มเติม »