อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนลดลง และเป็นบวกต่อการประเมินมูลค่าของหุ้น เพิ่มความน่าสนใจให้กับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสูง เช่น Microsoft, Nvidia, Amazon, Alphabet และ META เป็นต้น
ภารกิจควบคุมอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ใกล้บรรลุเป้าหมาย นำไปสู่จุดเริ่มต้นของวัฏจักร ดอกเบี้ย ขาลง นับจากปี 2022 เป็นเวลาราว 3 ปีที่เฟดใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวด้วยการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย จากระดับ 0.25% ในปี 2022 สู่ระดับ 5.25-5.50% ในเดือน ก.ค. 2023 และคงอัตรา ดอกเบี้ย ที่ระดับดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามความหวังในการลดอัตรา ดอกเบี้ย ของเฟดเพิ่มขึ้นหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณการอ่อนตัว อาทิ ดัชนี PCE หรือ Personal Consumption Expenditures เดือน ก.ค. 2024 ที่ขยายตัว 2.
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เพราะเฟดมักจะเป็นธนาคารกลางซึ่งเป็นผู้นำในการปรับนโยบายการเงินซึ่งจะส่งผลต่อดัชนีภาวะการเงิน ทั่วโลก การที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกสามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือลดดอกเบี้ยได้มากขึ้นในระยะถัดไป กล่าวคือ เรากำลังจะเข้าสู่วัฏจักรที่ธนาคารกลางทั่วโลกโดยส่วนใหญ่จะส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น...
ภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนลดลง และเป็นบวกต่อการประเมินมูลค่าของหุ้น เพิ่มความน่าสนใจให้กับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสูง เช่น Microsoft, Nvidia, Amazon, Alphabet และ META เป็นต้น อ้างอิงการประมาณการของ Goldman Sachs จากบทวิเคราะห์ US Market Update ณ วันที่ 17 มิ.ย.
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลบวกต่อตราสารหนี้เช่นกัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะส่งผลให้ตราสารหนี้มีกำไรจากส่วนต่างของราคา เนื่องจากตราสารหนี้ที่ออกมาแล้วในปัจจุบันมีแนวโน้มให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าตราสารหนี้ที่จะออกในอนาคตหลังจากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาตราสารหนี้ในปัจจุบันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเรามองว่าผลตอบแทนจาก Capital Gain นี้จะไม่สูง เนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ จะส่งผลให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป...
ดอกเบี้ย Alphabet Meta หุ้น Nvidia
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
หมดยุคโลกร้อน Global Warming เข้าสู่ยุคโลกเดือด Global Boilingหมดยุคโลกร้อน Global Warming สิ้นสุดลงแล้ว กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เผยเข้าสู่ยุคโลกเดือด Global Boiling
อ่านเพิ่มเติม »
“เศรษฐา” สู้ 3 ปมคดีถอดถอน ลุ้นผ่านกับดัก ศาลรัฐธรรมนูญคอลัมน์ : Politics policy people forum คดีของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคดีที่มีระดับความเสี่ยง “พ้นจากตำแหน่ง” การเป็นนายกฯ
อ่านเพิ่มเติม »
สว.เครือข่ายบ้านใหญ่ อำนาจใหม่ เสียงชี้ขาดองค์กรอิสระคอลัมน์ : Politics policy people forum สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน เข้าประจำการในสภาสูง แลนด์สเคปการเมืองจากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิม เพราะนอกจาก
อ่านเพิ่มเติม »
Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิด 36.19 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.19 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในกรอบ 36.10-36.
อ่านเพิ่มเติม »
Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิด 36.09 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นมาก”Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.09 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นมาก” จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.27 บาทต่อดอลลาร์ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.05-36.
อ่านเพิ่มเติม »
Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิด 36.31 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.31 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.40 บาทต่อดอลลาร์ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 36.28-36.
อ่านเพิ่มเติม »