SVT ปักเป้าปีนี้รายได้โต 10-15% ขยายสาขาอีสาน-เพิ่มจำนวนตู้-จ่อขยายตปท. SVT ซันเวนดิ้งเทคโนโลยี หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/65 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.65 บริษัทมีรายได้รวม 547.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 484.50 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 18.05 ล้านบาท
โดยรายได้และกำไรสุทธิดังกล่าว มาจากยอดขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเป็นหลัก หลังจากบริษัทเร่งขยายการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้บริการตามสถานที่บริการต่างๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง และขยายพื้นที่จังหวัดการให้บริการจากการเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 สาขา คือ สาขาลำพูน เพื่อให้บริการทางภาคเหนือ ครอบคลุมมากขึ้น
นายพิศณุ กล่าวอีกว่า บริษัทมีโรงงานปรับปรุงสภาพและประกอบ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของตนเอง และมีสาขากระจายสินค้า 12 แห่ง แบ่งเป็นสาขา 11 แห่ง และสาขาย่อย 1 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากกว่า 29 จังหวัด
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
นักวิชาการ แนะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 10% ชดเชยเงินเฟ้อ ชี้ช่องก้าวสู่ Tier 1 : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้สถานะเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยจะดีขึ้นมาอยู่ใน Tier 2 แต่ยังคงไปไม่ถึงมาตรฐานสากลขั้นต่ำที่หนดไว้ในหลายด้าน เช่น ผู้ถูกดำเนินคดีและลงโทษในคดีค้ามนุษย์มีจำนวนลดลง เจ้าหน้าที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการระบุตัวผู้ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเหยื่อการค้ามนุษย์และแรงงานทาสในอุตสาหกรรมประมง ส่วนใหญ่แรงงานเหล่านี้เป็นแรงงานข้ามชาติ หากต้องการอยู่ใน Tier 1 ยังต้องมีการดำเนินงานอีกหลายเรื่อง เช่น ควรยอมรับอนุสัญญา ILO 87/98 สิทธิในการรวมตัวและสิทธิในการเจรจาต่อรองของผู้ใช้แรงงาน การให้แรงงานข้ามชาติสามารถจัดตั้งสหภาพแรงงานได้ ซึ่งหากมีองค์กรของแรงงานข้ามชาติหรือสหภาพแรงงานจะทำให้ปัญหาการค้าแรงงานทาสและค้ามนุษย์ในไทยดีขึ้นด้วย หรือเปิดโอกาสให้แรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติสามารถตั้งสหภาพแรงงานร่วมกันได้ หรือสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานเดียวกันได้ หรือเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งสหภาพฯ แบบทั่วไปที่สมาชิกไม่สังกัดบริษัท อาชีพ อุตสาหกรรม หากไทยสามารถยกระดับมาตรฐานแรงงานดังกล่าวได้ ย่อมมีโอกาสที่ไทยขึ้นมาอยู่ Tier 1 เกิดผลดีการค้าการลงทุนระยะยาว สร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่แบ่งปันกันมากขึ้น ส่วนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพียง 5-8% นั้นเท่ากับค่าจ้างขั้นต่ำที่แท้จริงแทบไม่มีการปรับขึ้น และในบางพื้นที่การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำแท้จริงติดลบ ดังนั้นควรต้องปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 380-400 บาททั่วประเทศจึงจะเพียงพอต่อการดำรงชีพและสามารถบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ และภาระหนี้สินของผู้ใช้แรงงานและครอบครัวได้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงานและกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจนั้นต้องมากเพียงพอและอย่างน้อยต้องสูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างน้อย 10% การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในระดับที่เหมาะสมจะบรรเทาปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับที่สูงมาก ไม่เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อมากนัก ควรยกเลิกแนวทางการพัฒนาหรือยุทธศาสตร์ค่าแรงถูกเพื่อดึงดูดการลงทุน …
อ่านเพิ่มเติม »
ธปท. เตรียมออกกม.กำกับดูแลธุรกิจลีสซิ่ง เปิดรับฟังความเห็น 15-31 ส.ค. : อินโฟเควสท์รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ได้เห็นชอบในหลักการให้มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และมีกฎหมายกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ ซึ่ง ธปท. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้หารือร่วมกันถึงเหตุผล ความจำเป็น และหลักการของกฎหมาย เพื่อกำกับดูแลการประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยเห็นควรออกเป็นพระราชกฤษฎีกา ภายใต้อำนาจของ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ((ร่าง) พระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภท อยู่ภายใต้บังคับของ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. ….) ซึ่ง (ร่าง) พ.ร.ฎ.ฯ จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. กำกับดูแลนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นทางค้าปกติ ซึ่งยังไม่มีกฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ 2. ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจใน 2 ด้าน 2.1 การรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน เพื่อดูแลระดับหนี้ครัวเรือนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและไม่เป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคก่อหนี้สินเกินตัวโดยไม่จำเป็น 2.2 การคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อส่งเสริมและดูแลประชาชนทั่วไปให้ได้รับบริการที่เป็นธรรม ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ถูกหลอก …
อ่านเพิ่มเติม »
หัวหน้าพรรคอัมโนเผย มาเลเซียมีแนวโน้มจัดเลือกตั้งภายในปีนี้ : อินโฟเควสท์หนังสือพิมพ์สตาร์และสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มาเลเซียมีแนวโน้มจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปภายในปีนี้ ตามข้อมูลจากหัวหน้าพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ หรือพรรคอัมโน (UMNO) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในแนวร่วมแห่งชาติ (Barisan Nasional : BN) ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อนายอิซมาอิล ซับรี ยาคบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียผู้ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งในเร็ว ๆ นี้ โดยกล่าวว่าเขาต้องจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึงเรื่องราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดิ ประธานพรรคอัมโนกล่าวว่า นายอิซมาอิลอาจมีวันที่ต้องการจัดเลือกตั้งที่ต่างออกไป แต่อย่างไรเขาก็ต้องมาปรึกษากับกลุ่มผู้นำพรรคอัมโนอย่างแน่นอน “ผมมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะมีหลาย ๆ อย่างชี้ไปในทิศทางนั้น” นายซาฮิดกล่าวหลังปิดการประชุมประจำปีของแนวร่วมฯ เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทั้งนี้ พรรคอัมโนเรียกร้องอยู่หลายครั้งให้นายกฯ จัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนก.ย. 2566 หลังมีโพลล์หลายสำนักชี้ว่าพรรคอัมโนจะชนะแบบแลนด์สไลด์ โดยเมื่อวานนี้ นายกฯ กล่าวว่าเขาจะยุบสภาหากผลสำรวจจากฟากผู้หญิงของแนวร่วมแห่งชาติออกมาว่าเสียงส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะโหวตให้กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ตร.ยันนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัย มีผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ในฐานะโฆษกบช.น. เปิดเผยว่า พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย บังคับเฉพาะรถที่นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน โดยผู้โดยสารทั้งแถวตอนหน้า (ผู้ขับขี่) – แถวตอนหลัง(ผู้โดยสาร) ทุกที่นั่งต้องรัดเข็มขัดนิรภัย มีผล 5 กันยายน โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ – ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์ – ผู้โดยสาร ที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์ ส่วนผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้โดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด ส่วนกรณีรถยนต์เก่าไม่มีเข็มขัดนิรภัย มีข้อยกเว้น คือ รถยนต์ที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2531 ที่ไม่สามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยได้ หากจดทะเบียนก่อนวันดังกล่าว ไม่ถือมีความผิด รวมถึงรถกระบะที่มีการจดทะเบียนก่อนปี 2537 จะยังไม่มีผลบังคับใช้ ส่วนรถกระบะที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ก็ต้องมีข้อกำหนดพิจารณาอีกขั้นตอนหนึ่ง …
อ่านเพิ่มเติม »
อย. ยันแป้งเด็กที่ขายในไทยปลอดภัย ไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหิน : อินโฟเควสท์เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากกรณีที่บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศจะหยุดจำหน่ายแป้งเด็กที่ทำจากทัลคัม (Talcum) ทั่วโลกภายในปี 2566 เนื่องจากมีเหตุฟ้องร้องว่าผลิตภัณฑ์แป้งเด็กที่ทำจากทัลคัมพบการปนเปื้อนของแร่ใยหิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งนั้น ทาง อย. ได้มีการติดตามเฝ้าระวังความปลอดภัยของแป้งฝุ่นโรยตัวที่อาจมีการปนเปื้อนของแร่ใยหินมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน โดยได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นโรยตัวที่มีส่วนผสมของทัลคัมหลายยี่ห้อ รวมทั้งยี่ห้อจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รวมจำนวน 133 ตัวอย่าง ล่าสุด ในปี 2563-2565 เก็บส่งตรวจวิเคราะห์ จำนวน 20 ตัวอย่าง เป็นยี่ห้อจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวน 6 ตัวอย่าง ผลการตรวจวิเคราะห์ทุกรายการไม่พบการปนเปื้อนแร่ใยหินแต่อย่างใด ขอให้ผู้บริโภควางใจ สำหรับแร่ใยหินเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง หากตรวจพบแร่ใยหินในแป้งฝุ่นโรยตัวจะเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่มีสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ …
อ่านเพิ่มเติม »