STARK พุ่งทะลุ 3 บาทไต่ระดับเข้าใกล้ราคาเพิ่มทุนจากลงไปลึกหลังล้มดีล LEONI STARK สตาร์คคอร์เปอเรชั่น หุ้นไทย อินโฟเควสท์
STARK ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 8.51% หรือเพิ่มขึ้น 0.24 บาท มาที่ 3.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 797.37 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.37 น.
ราคาหุ้น STARK ขึ้นมาทะลุ 3 บาท ไต่ระดับเข้าใกล้ราคาเพิ่มทุนที่บริษัทได้จัดสรร 1,500 ล้านหุ้นขายให้กับกองทุน 12 กองทุน ที่ราคา 3.72 บาท ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินทุนราว 5 พันล้านบาทไปใช้ซื้อหุ้นทั้งหมดของ LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc. จาก LEONI AG ที่มูลค่าไม่เกิน 560 ล้านยูโร หรือประมาณ 2.06 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากบริษัทประกาศล้มดีล LEONI เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปลึก 2.
แหล่งข่าวจากการโบรกเกอร์ มองว่า ราคาหุ้น บมจ.
“ข่าวลือไม่มีผล มีหลายคนแฮปปี้มากที่ราคาหุ้นลงมาขนาดนี้เพราะสูญเสียความมั่นใจ แต่การสูญเสียความมั่นใจมาจากข่าวลือ เลยมีคนได้เปรียบ แต่ข่าวลือคงจะหมดไปหลังจากผลประกอบการของ LEONI ออกมา เพราะเป็นบริษัทมหาชนเช่นกัน”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เร่งสอบต่างด้าวใช้นอมินีทำธุรกิจในไทย จ่อส่ง DSI ฟันเส้นทางการเงิน : อินโฟเควสท์นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีคนต่างชาติถือวีซ่านักท่องเที่ยวแต่เข้ามาประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่มในไทยว่า กรมฯ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยว่าเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายฉบับใด ของหน่วยงานใดบ้าง เช่น ผิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่กรมฯ กำกับดูแลอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะย่านเยาวราชที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยการตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวนั้น กรมฯ จะตรวจสอบว่า กรณีคนต่างด้าวที่เป็นนิติบุคคล หากขายอาหารและเครื่องดื่ม ได้รับการอนุญาตก่อนหรือไม่ เพราะตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ นิติบุคคลต่างด้าว จะขายอาหารและเครื่องดื่มได้ ต้องขออนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน หากไม่ขออนุญาตจะถือว่ามีความผิด นอกจากนี้ จะตรวจสอบด้วยว่าหากนิติบุคคลต่างด้าวขายอาหารและเครื่องดื่ม โดยไม่ขออนุญาตก่อนนั้น มีคนไทยให้การช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ หากพบว่ามีนอมินี จะมีความผิดอีกเช่นกัน ส่วนกรณีต่างด้าวที่เป็นบุคคลธรรมดา ขายอาหารและเครื่องดื่ม ก็อาจเข้าข่ายมีความผิดกฎหมายแรงงาน ของกระทรวงแรงงาน ที่ห้ามต่างด้าวขายเช่นกัน หรืออาจผิดกฎหมายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีการวางขายบนทางเท้า เป็นต้น “การตรวจสอบกรณีนอมินี ไม่ง่าย เพราะต้องปรากฏพฤติการณ์ที่ชัดเจน […]
อ่านเพิ่มเติม »
รมว.คลัง ร่วมประชุม WEF ชูโมเดล BCG-ท่องเที่ยวไทย ฟื้นศก.หลังโควิด : อินโฟเควสท์นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2566 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้เข้าร่วมการเสวนาในฐานะผู้เสวนาหลัก ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก” และหัวข้อ “พันธสัญญาสีเขียวของอาเซียน” โดยมีผลการเสวนาสรุปได้ ดังนี้ 1. การเสวนาหัวข้อการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้เข้าร่วมการเสวนาได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก และส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะในธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว โดย รมว.คลัง ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของไทยต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยว ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข อาทิ การดำเนินการภายใต้ Phuket Sandbox และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ไทยมีนโยบายในการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวให้เข้าถึงชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย และลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก รวมถึงสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายและใช้เวลาในประเทศให้มากขึ้น โดยใช้ยุทธศาสตร์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
Power of The Act: วิเคราะห์ผลกระทบการแข่งขันจากการรวมกิจการระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน : อินโฟเควสท์การวิเคราะห์ว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะให้อนุญาตการรวมกิจการระหว่างผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานตามคำขอหรือไม่นั้นจะต้องอาศัยการวิเคราะห์ถึงแนวโน้มในการก่อผลกระทบต่อการแข่งขัน ผู้ใช้พลังงาน ความมั่นคงทางพลังงาน และประโยชน์สาธารณะ (ตามข้อ 11 ของระเบียบคณะกรรมการำกับกิจการพลังงานว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการรวมกิจการและการถือหุ้นไขว้ในกิจการพลังงาน พ.ศ. 2565) หากการรวมกิจการ “ส่งผลเป็นการจำกัดการแข่งขัน” กกพ. ก็อาจไม่อนุญาตให้มีการรวมธุรกิจได้ คำถามที่ตามมาจึงได้แก่การแข่งขันในกิจการพลังงานควรจะถูก “นิยาม” อย่างไร และข้อจำกัดการแข่งขันในกิจการพลังงานนั้นจะถูก “วัด” อย่างไร เพื่อตอบคำถามดังกล่าวผู้เขียนจะอธิบายถึง ตลาดที่เกี่ยวข้องและคู่แข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบในแนวราบและแนวตั้งที่เกิดขึ้น (หรืออาจเกิดขึ้น) จากการรวมกิจการ และอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดที่เกี่ยวข้องหลังจากการรวมกิจการ ตลาดที่เกี่ยวข้องและคู่แข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง การแข่งขันสามารถเกิดขึ้นใน “ตลาด” ซึ่งเป็นสถานที่หรือระบบ (ไม่ว่าเป็นสถานที่ในเชิงกายภาพและสถานที่ที่ไม่ได้มีลักษณะทางกายภาพเช่นพื้นที่หรือระบบทางออนไลน์) ที่มีการเสนอขายสินค้าและบริการโดยผู้ขายหลายราย ในขณะที่ผู้ซื้อมีสิทธิเลือกที่จะเข้าซื้อสินค้าหรือบริการตามความต้องการของตน ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ ผู้ขายย่อมมีแรงจูงใจที่จะเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดหรือถูกที่สุดให้กับผู้ซื้อเพื่อให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการจากตน ในทางวิชาการ Huseyin Cagri CORLU ได้อธิบายถึงประเภทของตลาดไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติเอาไว้ในบทความวิชาการชื่อ “Identifying Relevant Markets in the EU Energy Sector: Experience and Prospects” ดังนี้ ตลาดก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
น้ำมัน WTI ปิดลบ 70 เซนต์ กังวลเศรษฐกิจถดถอย : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (18 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่าการเปิดประเทศของจีนจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมัน ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับความหวังที่ว่า การเปิดประเทศของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น จะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนในช่วงแรกจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันซึ่งชาติตะวันตกบังคับใช้กับรัสเซียนั้นจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงในเวลาต่อมา หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.8% เนื่องจากผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง รวมทั้งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งกระทบต่อยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.8% และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวลง 0.6% ในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ และนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ ต่างก็ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่า 5% เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย […]
อ่านเพิ่มเติม »