SKR เปิดเพิ่ม 3 หน่วยแพทย์เฉพาะกิจ-ขยายจำนวนผู้ประกันตนหนุนรายได้ปีนี้โต 10% : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

SKR เปิดเพิ่ม 3 หน่วยแพทย์เฉพาะกิจ-ขยายจำนวนผู้ประกันตนหนุนรายได้ปีนี้โต 10% : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 59 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 27%
  • Publisher: 68%

SKR เปิดเพิ่ม 3 หน่วยแพทย์เฉพาะกิจ-ขยายจำนวนผู้ประกันตนหนุนรายได้ปีนี้โต 10% หุ้นไทย ศิครินทร์ อินโฟเควสท์

นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศิครินทร์ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 10% จากปี 65 ปัจจัยสนับสนุนมาจากขยายตัวของรายได้การรักษาทั่วไปและศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางที่ต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มคนไข้กลับมาใช้บริการปกติและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/66

แผนการดำเนินงานปีนี้บริษัทจะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ ด้วยการเพิ่มสถาบันทางการแพทย์ใหม่ 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันทางเดินอาหารและตับ, สถาบันโรคหัวใจ และสถาบันหลอดเลือดสมองและระบบประสาท จากเดิมเปิดไปแล้ว 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันกุมารเวช, สถาบันกระดูกและข้อ, สถาบันสุขภาพเฉพาะทางสตรี รวมทั้งสิ้นเป็น 6 สถาบัน เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลของกลุ่มคนไข้รักษาโรคเฉพาะทางด้วยการผ่าตัด ผ่านการนำเสนอ...

บริษัทยังวางแผนเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนอีก 100,000 ราย จากเดิมจำนวนผู้ประกันตนที่เลือกเครือโรงพยาบาลศิครินทร์รวม ณ สิ้นปี 65 อยู่ที่ 350,000 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของโรงพยาบาลเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันเครือโรงพยาบาลศิครินทร์ มีฐานผู้ประกันสังคมตามโควต้า อยู่ที่ 600,000 ราย “ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับกลุ่มศิครินทร์ ซึ่งแผนงานปี 66 เรามั่นใจว่า ศิครินทร์สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราได้พัฒนาศักยภาพทางการแพทย์เพื่อรองรับการรักษาโรคยากที่ซับซ้อน ภายใต้แนวคิด “เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์” นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริการโรงพยาบาลเคลื่อนที่ หรือ “SIKARIN Connect” มาสนับสนุน รวมทั้งการเข้ามาของกองทุนขนาดใหญ่ภายในประเทศ ยังถือหุ้นต่อเนื่องในระยะยาว”ผลประกอบการปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 5,711.25 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,011.70 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิ ทั้งปีอยู่ที่ 17.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ซีอีโอโมเดอร์นาเตรียมชี้แจงวุฒิสภาสหรัฐเรื่องแผนขึ้นราคาวัคซีนโควิด : อินโฟเควสท์ซีอีโอโมเดอร์นาเตรียมชี้แจงวุฒิสภาสหรัฐเรื่องแผนขึ้นราคาวัคซีนโควิด : อินโฟเควสท์นายเบอร์นี แซนเดอร์ส สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยในวันพุธ (15 ก.พ.) ว่า นายสเตฟาน บันเซล ซีอีโอของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ จะเข้าให้การกับวุฒิสภาสหรัฐในเดือนหน้าเกี่ยวกับแผนการของโมเดอร์นาที่จะปรับขึ้นราคาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายแซนเดอร์สได้เขียนจดหมายถึงนายบันเซลในเดือนม.ค. เพื่อให้ระงับการปรับขึ้นราคาวัคซีนโควิด-19 เป็น 4 เท่า หลังจากที่โมเดอร์นาประกาศว่า กำลังพิจารณากำหนดราคาวัคซีนโควิด-19 ที่ราคา 110-130 ดอลลาร์ต่อเข็มในสหรัฐเมื่อเปลี่ยนจากการทำสัญญากับรัฐบาลไปเป็นการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม โมเดอร์นากล่าวเมื่อเช้าวันพุธว่า ประชาชนที่มีประกันสุขภาพสามารถฉีดวัคซีนดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นที่คลินิกหมอหรือที่ร้านขายยาในท้องที่ของตน เมื่อคำสั่งของรัฐบาลที่ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นั้น สิ้นสุดลงในวันที่ 11 พ.ค. นอกจากนี้ โมเดอร์นาระบุเสริมว่า ผู้ป่วยที่ไม่มีประกันสุขภาพก็สามารถซื้อวัคซีนผ่านโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยของโมเดอร์นาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เช่นกัน นายแซนเดอร์ส ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสุขภาพ การศึกษา แรงงาน และบำเหน็จบำนาญ (HELP) ของวุฒิสภาสหรัฐนั้น ไม่พอใจกับราคายาที่อยู่ในระดับสูง และสนับสนุนโครงการประกันสุขภาพของรัฐสำหรับประชาชนทุกคน (Medicare-for-all) ซึ่งการเป็นประธานคณะกรรมการ HELP ของนายแซนเดอร์สนั้นอาจทำให้บริษัทยาหลายแห่งต้องตกที่นั่งลำบาก โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 […]
อ่านเพิ่มเติม »

KBANK คาดศก.ไทยปี 66 โต 3.2% ท่ามกลางสารพัดปัจจัยท้าทายจากศก.โลก : อินโฟเควสท์KBANK คาดศก.ไทยปี 66 โต 3.2% ท่ามกลางสารพัดปัจจัยท้าทายจากศก.โลก : อินโฟเควสท์นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดเงินยังคงมีความผันผวนค่อนข้างมาก หลังจากเมื่อคืนนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนม.ค. ออกมาที่ 6.4% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.2% ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น จากการที่เงินไหลกลับเข้าไปในดอลลาร์สหรัฐฯ และตราสารหนี้สหรัฐฯ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (Bond Yield) ปรับตัวขึ้น 0.60% จึงทำให้ค่าเงินสกุลอื่นๆ ในช่วงเช้านี้อ่อนค่าลง สะท้อนภาพของตลาดที่มองว่าสหรัฐฯ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวด และยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ค่าเงินบาทในช่วงนี้ได้ที่อ่อนค่าลงมา หลังแข็งค่าขึ้นไปมากที่ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ตอบรับปัจจัยบวกต่อการท่องเที่ยว และดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวกไปก่อนหน้านี้ ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้และหุ้น แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นการขายทำกำไรออกมาจากต่างชาติบ้างแล้ว ทั้งตราสารหนี้และหุ้น และได้ผ่านช่วงของเทศกาลตรุษจีน และหน้าท่องเที่ยวไปแล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เริ่มมีแนวโน้มเดินทางมาท่องเที่ยวไนไทยลดลง หลังอุณหภูมิในยุโรปไม่ได้หนาวกว่าที่คิดและเริ่มอุ่นขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินที่ได้จากการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 2/66 และไตรมาส 3/66 อาจจะลดลงไปบ้าง นอกจากนี้ ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ของทุกปี บริษัทญี่ปุ่นจะปิดงบฯ ประจำปี ทำให้มีการส่งเงินกลับประเทศ ซึ่งต้องมีการแปลงเงินจากบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ และแปลงจากดออลาร์สหรัฐฯเป็นเยน […]
อ่านเพิ่มเติม »

แบงก์ชาติในเอเชียแห่เพิ่มทุนสำรอง เหตุดอลลาร์ส่อเค้าแข็งค่ารับเฟดขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์แบงก์ชาติในเอเชียแห่เพิ่มทุนสำรอง เหตุดอลลาร์ส่อเค้าแข็งค่ารับเฟดขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียซึ่งนำโดยธนาคารกลางอินเดียนั้น ต่างพากันเพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอีกครั้ง เพื่อจะปกป้องค่าเงินของตนเอง หากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ธนาคารกลางอินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศรวมกันประมาณ 1.32 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่าครึ่งหนึ่งของเม็ดเงินในทุนสำรองที่สูญเสียไปในปี 2565 โดยธนาคารกลางเหล่านี้เพิ่มทุนสำรองด้วยการทุ่มซื้อสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเห็นว่าการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเวลานั้นจะช่วยให้เม็ดเงินในทุนสำรองมีมูลค่าสูงขึ้น รายงานระบุว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางเหล่านี้ปรับตัวลดลง 2.43 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 เนื่องจากธนาคารกลางใช้เงินจำนวนมากในการปกป้องค่าเงินในประเทศที่ทรุดตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยการเพิ่มทุนสำรองจะช่วยให้ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียสามารถรับมือกับสกุลเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่า หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สินทรัพย์เสี่ยง ส่วนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ค่าเงินส่วนใหญ่ในเอเชียแข็งค่าขึ้น นำโดยเงินบาทของไทยและเปโซฟิลิปปินส์ อันเนื่องมาจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐได้ทำให้กระแสคาดการณ์ดังกล่าวเริ่มแผ่วลง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-18 14:18:23