SAPPE นำแบรนด์ไทยไปสู่ Global Brand กับเป้าหมาย 1 หมื่นล้านในปี 69 SAPPE หุ้นไทย เซ็ปเป้ อินโฟเควสท์
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.
ขณะที่ตลาดในประเทศ แม้การแพร่ระบาดโควิด-19 จะกดดันภาพรวมเศรษฐกิจ แต่เซ็ปเป้ยังสามารถคิดค้นและพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ โดยออกบิวติ ชอท สติกซ์ ชอทเข้มข้นแบบซองดูดรายแรกของไทย สไตล์เกาหลี 2 สูตร คือ”คอลลา-ซี” และ”อิมมู-ซี” และร่วมกับ Dek-D เปิดตัวเครื่องหอมสมุนไพร “สูดสุด” และ “ลูกอม Limitless” แก้ Pain Point ของเหล่านักเรียนนักศึกษา
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แนวโน้มศก.อ่อนแอฉุดราคาบ้านฮ่องกงร่วงต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข้อมูลของทางการฮ่องกงในวันนี้ (28 ธ.ค.) ระบุว่า ราคาบ้านเอกชนในฮ่องกงปรับตัวลง 3.3% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2560 ขณะที่ตลาดบ้านของฮ่องกงซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีราคาบ้านสูงที่สุดในโลกนั้น มีแนวโน้มปรับตัวลงเมื่อเทียบรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 ราคาบ้านในฮ่องกงเดือนพ.ย.ปรับตัวลง หลังจากที่ลดลง 2.7% หลังปรับค่าในเดือนต.ค. ขณะที่ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ราคาบ้านในฮ่องกงปรับตัวลง 13.8% ราคาบ้านในฮ่องกงได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงต้นทุนการจดจำนองที่สูงขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งรุนแรงเมื่อต้นปี กลุ่มนายหน้าขายบ้านระบุว่า ปริมาณการทำธุรกรรมซื้อขายบ้านในปีนี้คาดว่าจะร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสิบปี แต่อาจฟื้นตัวเล็กน้อยในปีหน้า หลังจากทางการยกเลิกข้อกำหนดการเดินทางกับจีนแผ่นดินใหญ่ คุชแมน แอนด์ เวคฟิลด์ (Cushman & Wakefield) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับโลกเปิดเผยคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในฮ่องกงในปี 2566 จะปรับตัวลง 0-5% เมื่อเทียบกับปีนี้ โดยราคาจะทรงตัวในช่วงครึ่งหลังของปีหลังอัตราดอกเบี้ยขึ้นถึงจุดสูงสุด ส่วนเจแอลแอล (JLL) บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์อีกแห่งคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในฮ่องกงจะปรับตัวลงอีก 10% ในปีหน้าสำหรับตลาดขนาดใหญ่ (Mass Market) โดยจำนวนบ้านรอขายที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้จะผลักดันให้กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เสนอส่วนลดราคาบ้าน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. […]
อ่านเพิ่มเติม »
ศก.โลกซบเซาถ่วงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเดือนพ.ย.ลด 0.1% : อินโฟเควสท์กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (28 ธ.ค.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรอ่อนแอลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ข้อมูลระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย. ลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่ค่ากลางที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจจะลดลง 0.3% นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นหดตัวลง หลังจากที่ลดลง 3.2% ในเดือนต.ค. และ 1.7% ในเดือนก.ย. รายงานระบุว่า ผลผลิตเครื่องจักรทั่วไป ร่วงลง 7.9% ในขณะที่ผลผลิตเครื่องจักรการผลิต ลดลง 5.7% ฉุดรั้งดัชนีผลผลิตรวมในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ผลผลิตผลิตภัณฑ์รถยนต์หดตัว 0.8% ด้วยเช่นกัน METI ระบุในการแถลงข่าวว่า ความต้องการอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอแบนมีแนวโน้มลดลงในตลาดต่างประเทศ เช่น จีน ยุโรป และอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ METI ได้ปรับลดการประเมินผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยระบุว่า “การผลิตอ่อนแอลง” ผลสำรวจกลุ่มผู้ผลิตคาดการณ์ว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผสมผสาน นลท.ประเมินอุปสรรคทางเศรษฐกิจในปีหน้า : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวันอังคาร (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนประเมินอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีต่อเศรษฐกิจในปี 2566 ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,290.96 จุด ลดลง 156.91 จุด หรือ -0.59%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,011.99 จุด เพิ่มขึ้น 418.93 จุด หรือ +2.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,096.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.38 จุด หรือ +0.04% หุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นในการกลับมาเปิดซื้อขายตามปกติในวันนี้ หลังปิดตลาดเนื่องในวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสหลายวัน โดยได้แรงหนุนจากกรณีที่จีนประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางขาเข้าเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดพรมแดนเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยแพร่สรุปรายงานการประชุมนโยบายที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ BOJ ขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแบบไม่คาดคิด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
BOJ ชี้มีสัญญาณชัดเจนบริษัทญี่ปุ่นเล็งปรับขึ้นค่าจ้าง-ราคาสินค้า : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปมุมมองเศรษฐกิจ (Summary of Opinions) จากการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultra-low Interest Rates) แต่ได้มีการหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่ว่า ค่าจ้างที่สูงขึ้นอาจจะช่วยขจัดความเสี่ยงที่ญี่ปุ่นจะกลับไปเผชิญกับภาวะเงินฝืด ในการประชุมเมื่อวันที่ 19-20 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% แต่ BOJ ได้สร้างปรากฏการณ์ช็อกตลาดด้วยการประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25% ซึ่งตลาดตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มการเงิน หลังจากที่ BOJ รักษาจุดยืนในการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษมาเป็นเวลานาน รายงานสรุปมุมมองเศรษฐกิจซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า กรรมการหลายคนจากทั้งหมด 9 คนของ BOJ มองว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะทำให้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วยการแก้ไขผลข้างเคียงที่เกิดจากการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ และไม่ใช่ย่างก้าวแรกของการยุตินโยบายผ่อนคลายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy) อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดังกล่าวของคณะกรรมการ BOJ ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ประชากรเกาหลีใต้ลด เหตุอัตราเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์-อัตราตายแซงหน้า : อินโฟเควสท์สำนักข่าวยอนฮัปรายงานข้อมูลที่มีการเปิดเผยในวันนี้ (28 ธ.ค.) บ่งชี้ว่า จำนวนเด็กเกิดใหม่ในเกาหลีใต้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในเดือนต.ค. ซึ่งตอกย้ำถึงอัตราการเกิดต่ำที่ดำเนินมายาวนานในประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ในเดือนต.ค. มีเด็กทารกเกิดใหม่รวมทั้งหมด 20,658 คน ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นตัวเลขระดับต่ำที่สุดของเดือนต.ค. นับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2524 นอกจากนี้ ยังเป็นเดือนที่ 83 ติดต่อกันที่ตัวเลขเด็กเกิดใหม่ลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี ในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค. จำนวนเด็กทารกเกิดใหม่ลดลง 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 212,881 คน ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีอัตราการคลอดบุตรลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชากรวัยหนุ่มสาวเลื่อนการมีบุตรออกไป หรือเลือกที่จะไม่มีบุตร ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและราคาบ้านที่ระดับสูง ในปี 2563 จำนวนเด็กทารกเกิดใหม่ร่วงลง 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 272,337 คน ส่วนอัตราการคลอดบุตรรายปีของประเทศก็ลดลงทุกปี นับตั้งแต่ปี 2559 ที่มีการคลอดบุตร 406,243 คน ส่วนอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 29,763 คนในเดือนต.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้วยความที่อัตราการเสียชีวิตมีมากกว่าอัตราการเกิด ส่งผลให้จำนวนประชากรของเกาหลีใต้ลดลง […]
อ่านเพิ่มเติม »