น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยที่ได้ภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลกและจะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจาก S&P ถือเป็นบริษัทในเครือของ S&P Global Inc.สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก โดยจากรายงานของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ระบุ เหตุผลสำคัญที่ S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยมาจากการคลี่คลายของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตลอดจนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และอนุญาตให้มีการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย และการที่ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดย S&P คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 428,000 คน ในปี 64 เป็นประมาณ 10 ล้านคนในปี 65 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ และเศรษฐกิจไทย (Real GDP) …
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพ ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยที่ได้ภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลกและจะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจาก S&P ถือเป็นบริษัทในเครือของ S&P Global Inc.สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก
นอกจากนี้ การสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นปัจจัยที่ S&P มองว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ มองท่องเที่ยวฟื้น-เศรษฐกิจโตS&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือที่ระดับมีเสถียรภาพ SanookMoney SanookNews
อ่านเพิ่มเติม »
'ทิพานัน' ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัว นายกฯ บริหารถูกทาง บริษัท S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพวันที่ 26 พ.ย.2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยที่ได้ภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลกและจะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจาก S&P ถือเป็นบริษัทในเครือของ S&P Global Inc.สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โดยจากรายงานของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ระบุเหตุผลสำคัญที่ S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยมาจากการคลี่คลา
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลยันเอาจริงปราบปรามภัยออนไลน์ทุกรูปแบบ ป้องกันปชช.ตกเป็นเหยื่อฉ้อโกง : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อป้องกันและระงับการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือและเร่งดำเนินการปราบปรามภัยออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างจริงจังและเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจผิดอันเกิดจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ 36 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางในการคุ้มครอง เยียวยาความเสียหายแก่ประชาชน และให้ประชาชนรู้เท่าทันการกระทำความผิดผ่านคอมพิวเตอร์และสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่องขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2565 ซึ่งปรับปรุงประกาศฉบับเดิม เมื่อปี 2560 ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สอดคล้องกับการใช้งานของประชาชนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างหลักประกันแก่ผู้ให้บริการ สื่อสังคมออนไลน์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งระบุการปฏิบัติของผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งจะต้องจัดทำแบบฟอร์มข้อเรื่องร้องเรียน (Complaint Form) เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนทั่วไป สามารถแจ้งเนื้อหาที่เป็นความผิด ทั้งข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปลอมแปลง กระทบต่อความมั่นคง และเมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้ระงับหรือนำเนื้อหาที่ผิดกฎหมายออกจากระบบภายในระยะเวลาที่กำหนด “นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชนที่อาจจะตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบัน การกระทำความผิดเนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ การฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนผ่านระบบคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีประชาชนจำนวนมาก ได้รับความเสียหาย จากข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ …
อ่านเพิ่มเติม »
TTB คาดตลาดที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑลปี 65 โต 11.6% ได้แนวราบหนุน : อินโฟเควสท์ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปี 65 เติบโต 11.6% จากการขับเคลื่อนของตลาดแนวราบ ในขณะที่ตลาดอาคารชุดเริ่มเผชิญกำลังซื้อที่ลดลงจากเม็ดเงินที่ซื้อเพื่อการลงทุนอย่างมากจากผู้ซื้อต่างชาติ โดยในระยะถัดไปตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล เตรียมเผชิญข้อจำกัดทั้งฝั่งอุปทานด้านทำเลในการสร้างที่อยู่อาศัย (มีน้อยและต้นทุนสูงขึ้น) และอุปสงค์ที่ลดลงจากกำลังซื้อและโครงสร้างประชากร แนะเร่งสร้างบรรยากาศและกลุ่มผู้ซื้อใหม่ รักษาโมเมนตัมการเติบโต ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 65 ได้แรงขับเคลื่อนหลักจากตลาดแนวราบเป็นหลัก มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มผู้ซื้อในวัยสร้างครอบครัวและมีความพร้อมทางรายได้เลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีพื้นที่ส่วนตัว ส่งผลต่อหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดเติบโต 11.6% โดยมีหน่วยโอนที่อยู่อาศัย 187,000 หน่วย บนแรงกดดันฝั่งตลาดอาคารชุดที่แม้เริ่มฟื้นตัวเทียบกับปี 64 แต่เมื่อเทียบกับก่อนสถานการณ์โควิด-19 ยังลดลงกว่า 26.5% จากการซื้อเพื่อลงทุนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะแรงซื้อจากต่างชาติ ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ เห็นสัญญาณการทำตลาดบ้านเดี่ยวกลุ่มบนสูงขึ้นจากหน่วยโอนที่เพิ่มขึ้น 14.8% โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อสูง สะท้อนผ่านราคาเฉลี่ยบ้านเดี่ยวในปี 2565 แตะหลังละ 8.23 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24.4% เทียบช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19) ในขณะที่กลุ่มกำลังซื้อปานกลาง-ต่ำ เลือกซื้อทาวน์โฮมที่มีหน่วยโอนเพิ่มขึ้น 17.7% จากราคาที่เข้าถึงง่ายเฉลี่ยหน่วยละ 2.97 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาเฉลี่ยบ้านแฝดที่ 5.5 ล้านบาท สำหรับพื้นที่ปริมณฑล …
อ่านเพิ่มเติม »
MORE ฟื้นจากฟลอร์แห่เก็งกำไรหลังเทรด P/E แค่ 3 เท่า HEMP-GSC-COMAN-TH ฟื้นตาม : อินโฟเควสท์MORE เริ่มเห็นแรงซื้อกลับหลังร่วงฟลอร์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ โดยเมื่อเวลา 10.53 น.ราคาหุ้นมาอยู่ที่ 0.41 บาท ลดลง 14.58% หรือลดลง 0.07 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายคึกคัก 834.36 ล้านบาท จากช่วงต้นภาคเช้าร่วงลงไปที่ฟลอร์ 0.34 บาทเช่นเดียวกับช่วง 3 วันที่ผ่านมาหลังจากปลด SP โดยเปิดมาที่ราคา 0.46 บาท จากราคาปิดวานนี้ 0.48 บาท นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ราคาหุ้นบมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) วันนี้เริ่มเห็นแรงซื้อกลับจากที่ร่วงติดฟลอร์มาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย SP เมื่อวันที่ 21 พ.ย.65 สืบเนื่องจากกรณีการซื้อขายผิดปกติ เป็นการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนจากราคาที่ลงมาต่ำมากแล้ว แต่ยังเทรดสูงกว่า Book Value จึงควรระมัดระวังการลงทุน ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า ที่ผ่านมาบทลงโทษของเหตุการณ์เกมหุ้น MORE ไปลงที่ตัวหุ้น …
อ่านเพิ่มเติม »