“อาคม” ชี้กฎหมายการกำกับดิจิทัลแอสเซทยังมีบางส่วนเป็น Grey Area จำเป็นต้องมีการแก้ไข โดยคลัง ธปท.และก.ล.ต.อยู่ระหว่างการหารือ ขณะที่ ตำรวจจะใช้กฎหมายอาญาทำหน้าที่ตรวจสอบเป็นอันดับแรก กรุงเทพธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เขากล่าวด้วยว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การหลอกลวงประชาชนมันมีมากขึ้นทุกวัน มากจนกระทั่งทั้งตำรวจ ธปท. ก.ล.ต.
“เมื่อเกิดผลกระทบต่อประชาชนแล้วมันเกิดความเสียหาย และผู้เสียหายไม่ว่า ระบบเศรษฐกิจเดิมหรือเศรษฐกิจดิจิทัล ก็คือ คนระดับล่าง และเริ่มกระทบขึ้นมา เป็นสิ่งที่มีการหารือตลอดว่า จุดโหว่ตรงนี้อยู่ตรงไหน” นอกจากนี้เขายังพูดถึงแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับล่าสุดฉบับที่ 4 ที่เตรียมที่จะเสนอให้ ครม.อนุมัติว่า ก็มีการบรรจุแผนดิจิทัลเข้าไปในแผนพัฒนาตลาดทุนด้วย
เขาย้ำอีกว่า ตลาดทุนยังมีความสำคัญ ในฐานะเป็นแหล่งระดมเงินทุนของประเทศ ซึ่งประเทศยังจำเป็นต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีกเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีการระดมเงินทุน ขณะเดียวกัน ในภาคการคลังก็จำเป็นจะต้องเร่งสร้างความยั่งยืนในเรื่องของรายได้ให้เกิดขึ้น เพราะระยะที่ผ่านมา เรากู้เงินเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจไปจำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ทุกประเทศดำเนินการ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
รมว.คลัง แนะแก้กม.วางหลักเกณฑ์กำกับดูแลทรัพย์ดิจิทัล อุดช่องโหว่ Grey Area : อินโฟเควสท์นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อก้าวต่อไปในทศวรรษหน้า” โดยระบุว่า จากกระแสของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ แนวโน้มการเปลี่ยนขั้วประเทศมหาอำนาจจากชาติตะวันตกมาเป็นชาติในเอเชีย ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในประเด็นหลังนี้ ทำให้หลายประเทศต่างหันมาให้ความสนใจเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและภาคธุรกิจที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายเพื่อให้มีความสอดคล้องกับกระแสของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้เริ่มนำโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio Circular Economy Model : BCG) มาเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบายต่างๆ ซึ่ง BCG จะเข้ามาเป็นไกด์ไลน์ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต นายอาคม มองว่า บริบทของตลาดการเงินในปัจจุบันมีความแตกต่างไปจากอดีต เนื่องจากมีทั้ง Digital coin และ Digital asset เข้ามามีบทบาทเพิ่มเติมในตลาดการเงิน ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแล หรือ regulator จะต้องวางหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลธุรกิจประเภทนี้อย่างสมดุล โดยต้องไม่สร้างอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้ธุรกิจเอาเปรียบประชาชน อันจะสร้างผลเสียหายตามมาในวงกว้าง “กระทรวงคลัง ก.ล.ต. และ ธปท. ได้มีการหารือร่วมกันมาตลอด ว่าเส้นแบ่งหรือขอบเขตของการกำกับดูแลภายใต้กฎหมายที่มีอยู่นั้น ชัดเจนเพียงใด อาจมีบาง area ก็ไม่รู้ว่าใคร …
อ่านเพิ่มเติม »
รมว. คลังชี้ หลักเกณฑ์กำกับดูแลทรัพย์ดิจิทัล ยังมีบางส่วนที่เป็น “Gray Area”นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ 'การพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อก้าวต่อไปในทศวรรษหน้า' ในโอกาสสำนักงาน ก.ล.ต. ครบรอบ
อ่านเพิ่มเติม »
ไต้หวันคาดถูกจีนบีบคั้นหนัก หลัง 'สี จิ้นผิง' กุมบังเหียนประเทศต่อสมัยที่ 3 : อินโฟเควสท์นายชิว ไท่ซาน ประธานคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันระบุในวันนี้ (6 ต.ค.) ว่า จีนมีแนวโน้มบีบบังคับและข่มขู่ไต้หวันเพิ่มมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรวมเกาะไต้หวันให้อยู่ภายใต้การควบคุมของจีนแผ่นดินใหญ่ ทันทีที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีกำหนดเปิดฉากขึ้นในวันที่ 16 ต.ค. เพื่อคัดเลือกคณะผู้นำใหม่นั้น ปธน.สีมีแนวโน้มจะขึ้นกุมอำนาจบริหารประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3 โดยถือเป็นการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมที่เคยบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ นายชิวกล่าวต่อสมาชิกสภาไต้หวันว่า ปธน.สี จะกระชับอำนาจในการประชุมสมัชชาฯครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นทุก 5 ปี “หากปธน.สีดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 ความแข็งแกร่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะแผ่ขยายออกไปมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าส่งเสริมกระบวนการรวมชาติในยุทธศาสตร์การพัฒนาของจีน ซึ่งเราเชื่อว่า ในขณะนี้ แผนการที่จีนมีต่อไต้หวันได้เข้าสู่ขั้นตอนของการยกระดับปฏิบัติการที่เรียกว่า ‘การต่อต้านเอกราชและส่งเสริมการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียว'” นายชิวกล่าว นอกจากนี้ นายชิงระบุด้วยว่า จีนจะดำเนินยุทธการดังกล่าวด้วย “การบีบบังคับและการข่มขู่” รวมถึง การใช้กลยุทธ์ “พื้นที่สีเทา (grey zone activity)” และกฎหมายระหว่างประเทศ ในการแทรกแซงและขัดขวางปฏิสัมพันธ์และความร่วมมือของไต้หวันกับประชาคมโลก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่มีต่อไต้หวัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
“ดีอีเอส” เร่งตรวจสอบ “เว็บ-โซเชียล” ชวนลงทุนเก็งกำไรหากพบไม่ได้รับอนุญาตสั่งปิดทันที | เดลินิวส์ดีอีเอสประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ชี้การโฆษณาหรือเชิญชวนลงทุน ซื้อขายแลกเปลี่ยน เก็งกำไรค่าเงินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์/โซเชียล ผิดกฎหมายของ ธปท.และ พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินฯ เร่งใช้ระบบ social listening ตรวจจับรวมชื่อเว็บและโซเชียล ส่งให้ ธปท. และ ก.ล.ต.ตรวจสอบหากไม่ได้รับอนุญาต สั่งปิดทันที
อ่านเพิ่มเติม »