Power of The Act: การเปิดเสรีและเพิ่มการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ : ประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น ก๊าซธรรมชาติ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ เชื้อเพลิง อินโฟเควสท์
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ ได้แสดงบทวิเคราะห์ในรายงาน “Gas Market Liberalization Reform” ว่าก๊าซธรรมชาติถือเป็นเชื้อเพลิงอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีเหตุผลส่วนหนึ่งจากการที่ก๊าซธรรมชาติก่อก๊าซเรือนกระจกและก่อมลพิษทาง อากาศน้อยกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดอื่น โดยทวีปเอเชียและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นพื้นที่ที่จะมีความต้องการก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย สำคัญ
ก๊าซธรรมชาติทั้งหมดที่ถูกนำเข้ามานั้นจะอยู่ในรูปของก๊าซธรรมชาติเหลว โดยก๊าซธรรมชาติเกือบทั้งหมดจะถูกใช้เพื่อ การผลิตไฟฟ้าและใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยกิจการผลิตไฟฟ้าจะเป็นผู้บริโภคก๊าซธรรมชาติไปถึง 2 ใน 3 ส่วน และมี เพียงร้อยละ 5 ของก๊าซธรรมชาติที่ถูกนำเข้ามาเท่านั้นที่จะมีการบริโภคในชุมชนโดยผ่านระบบจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ
ในแง่ของการกำกับดูแลกิจการก๊าซธรรมชาตินั้น ประเทศญี่ปุ่นได้ตรา Gas Business Act ขึ้นเพื่อกำกับดูแล กิจการก๊าซธรรมชาติในส่วนของกิจการค้าปลีกและกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติโดยจะต้องขึ้นทะเบียนหรือขอรับใบอนุญาตจากกระทรวง เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดโอกาสให้มีการประกอบกิจการและการแข่งขันในกิจการก๊าซ ธรรมชาติต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
3) กิจการให้บริการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเฉพาะที่ ซึ่งหมายถึง ธุรกิจการให้บริการขนส่งก๊าซธรรมชาติ ณ จุดที่กำหนด ผ่านทางท่อส่งก๊าซซึ่งผู้ให้บริการเป็นผู้ประกอบ การ 4) กิจการผลิตก๊าซธรรมชาติ ซึ่งหมายถึง ธุรกิจการผลิตก๊าซธรรมชาติโดยใช้ โรงงานเก็บรักษาก๊าซธรรมชาติเหลว
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
รัฐสภาเวียดนามเตรียมแต่งตั้งปธน.ใหม่สัปดาห์นี้ คาดได้ 'หวอ วัน เถือง' : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สมัชชาแห่งชาติเวียดนามจะจัดการประชุมวิสามัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการประชุมที่ทั้งเจ้าหน้าที่และนักการทูตต่างคาดว่าจะยืนยันการแต่งตั้งประธานาธิบดีคนใหม่เป็นนายหวอ วัน เถือง วัย 52 ปี ผู้เป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม การแต่งตั้งดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางแคมเปญต่อต้านการคอร์รัปชันที่เรียกกันว่า “เตาเผาไหม้” ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายร้อยคนถูกสอบสวน และบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายคนถูกปลดจากตำแหน่ง รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีอีกสองคนด้วย ทั้งนี้ นายหวอ วัน เถือง ถูกมองว่าใกล้ชิดกับบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในเวียดนามอย่างนายเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญดังกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: พปชร.ไม่ติดใจหลัง รทสช.โคลนนิ่งนโยบายหาเสียง : อินโฟเควสท์นายอุตตม สาวนายน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ไม่ติดใจกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประกาศนโยบายหลายเรื่องบนเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดนครราชสีมา และมีทับซ้อนกับนโยบายของพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน “พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ซึ่งได้ประกาศชัดเจนก่อนหน้านี้ ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ พรรคพลังประชารัฐยินดีให้การสนับสนุน ไม่ต้องการเอาชนะคะคานกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพราะพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนต่างก็รับทราบดีว่านโยบายต่างๆ มีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด ใครเป็นคนคิดริเริ่มและผลักดันจนเป็นรูปธรรม เพียงแต่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกเรื่องจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ครม. ซึ่งมีนายกฯ เป็นหัวหน้า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหิ้วเอานโยบายเหล่านั้นติดตัวไปอยู่พรรคอื่นด้วย” นายอุตตม กล่าว พร้อมยกตัวอย่าง นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งหากย้อนกลับไปดูว่าโครงการนี้เปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนครั้งแรกในปี 2559 ซึ่งขณะนั้นคนที่เข้ามาคุมนโยบายเศรษฐกิจให้รัฐบาล คสช. คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ตั้งแต่กลางปี 2558 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้กำกับดูแลหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ และที่เกี่ยวข้อง 9 หน่วยงาน คือ […]
อ่านเพิ่มเติม »
Decrypto: การอำนวยความยุติธรรมของ ศาลออนไลน์ VS ศาล Metaverse : อินโฟเควสท์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสำนักข่าว Reuters รายงานการพิจารณาคดีบน Metaverse ครั้งแรกในประเทศโคลอมเบีย (อาจจะเป็นครั้งแรกในโลก) โดยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีความดังกล่าว เช่น ผู้พิพากษา ทนายความ โจทก์และจำเลยจะเข้าร่วมการพิจารณาคดีโดยใช้ Avatar หรือตัวตนเสมือน ที่เป็นอีกระดับของการพิจารณาคดีในรูปแบบออนไลน์โดยทั่วไป ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามจุดประสงค์สูงสุดของการพิจารณาคดีของศาลนั่นคือการหาข้อเท็จจริง การพิจารณาข้อเท็จจริงและอำนวยความยุติธรรม ซึ่งในปัจจุบันโดยเฉพาะการพิจารณาคดีในประเทศไทยยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาหรือใช้เทคโนโลยีเพื่อการพิจารณคดีในศาล ทั้งนี้ ผู้อ่านที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมก็อาจไม่ทราบว่าศาลในประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในศาลที่ใช้ระบบการพิจารณาออนไลน์ที่ก้าวหน้าที่สุด เดิมศาลในประเทศไทยมีการใช้การสืบพยานออนไลน์ที่จำกัดเพียงเฉพาะในศาลชำนาญพิเศษ แต่ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำนักงานศาลยุติธรรมก็ได้ออกประกาศวิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้วิธีพิจารณาทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ทุกศาลทั่วประเทศไทยสามารถสืบพยาน หรือดำเนินกระบวนพิจารณาทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันหลากหลาย เช่น Google Meet, Cisco Webex หรือแม้กระทั่ง Line โดยสามารถใช้การสืบพยานหรือพิจารณาทางออนไลน์ได้ เช่น คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกที่ไม่มีผู้คัดค้าน คดีผู้บริโภค คดีมโนสาเร่ และคดีไม่มีข้อยุ่งยาก เป็นต้น เมื่อคู่ความร้องขอและศาลเห็นสมควรก็จะอนุญาตให้ใช้วิธีพิจารณาแบบออนไลน์ได้ วิธีการเข้าร่วมดำเนินการพิจารณาของศาลประเทศไทยนั้นเรียบง่ายไม่ซับซ้อน กล่าวคือ คู่ความเข้าห้องพิจารณาออนไลน์ตาม Link ที่เจ้าหน้าที่จัดให้ โดยเจ้าหน้าที่จะเชื่อมสัญญาณระบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างศาลกับคู่ความที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ระบบและตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่และแจ้งขั้นตอน คู่ความหรือพยานต้องแสดงตนโดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้ปรากฎทางจอภาพของระบบ และให้เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกภาพใบหน้าบุคคลนั้นพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนเสนอศาลเพื่อเป็นหลักฐาน โดยกรณีต้องการนำสืบหรือแสดงเอกสารหลักฐานสามารถแสดงเอกสารผ่านทางจอภาพของระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้อง หรือให้นำเอกสารหรือภาพถ่ายที่ประสงค์จะนำสืบเป็นพยานหลักฐานเข้าระบบอิเล็
อ่านเพิ่มเติม »
PYLON งบปี 65 กำไรโตสนั่นกว่า 200% ตุนแบ็กล็อก 1,500 ลบ.เกาะติดงานใหญ่เพียบ : อินโฟเควสท์นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไพลอน (PYLON) เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในงวดปี 65 มีกำไรสุทธิ 119.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 201.28% จากปีก่อนที่มีกำไร 39.76 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการ 1,146.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 360.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.92% “ปี 65 ถือว่าเราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยเชื่อว่าสถานการณ์จากนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ และประเมินแนวโน้มธุรกิจปี 66 น่าจะดีขึ้น โดยบริษัทยังมีงานประมูลโครงการใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง” นายชเนศวร์ กล่าว สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 66 คาดกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปี 2564-2565 โดยบรรยากาศการลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชนเริ่มคึกคักมากขึ้น ทั้งโครงการมิกซ์ยูส และคอนโดมิเนียมแนวสูง ซึ่งเป็นผลบวกต่อธุรกิจของ PYLON ทั้งนี้ประมาณการอัตราการใช้เครื่องจักรจะกลับมาอยู่ที่ 18-20 ชุด/เดือน ตั้งแต่ช่วงต้นปี นอกจากนี้โดยบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ เสริมแกร่ง Backlog อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 1,500 […]
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์ชาติอินเดียแทรกแซงตลาด FX เทขายดอลลาร์หนุนค่าเงินรูปี : อินโฟเควสท์นักค้าเงินเปิดเผยว่า ธนาคารกลางอินเดียมีแนวโน้มเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราผ่านทางธนาคารของรัฐในวันนี้ โดยได้เทขายดอลลาร์เพื่อสกัดรูปีไม่ให้หลุดระดับ 83 เทียบดอลลาร์ การแทรกแซงตลาดของธนาคารกลางอินเดียส่งผลให้รูปีอยู่ที่ระดับ 82.90 เทียบดอลลาร์ หลังจากแตะระดับ 82.9475 ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ รูปีถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แรงขายดอลลาร์ของธนาคารกลางอินเดียส่งผลให้รูปีปรับตัวดีกว่าสกุลเงินอื่นของเอเชีย โดยวอนของเกาหลีใต้และและริงกิตของมาเลเซียดิ่งลง 1% ในวันนี้ ขณะที่เงินบาทของไทยร่วงลง 0.5% โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
BEYOND เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจโรงแรม Ultra-Luxury ดันรายได้แตะ 2,800 ลบ. : อินโฟเควสท์นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เบาด์ แอนด์ บียอนด์ (BEYOND) กล่าวว่า สำหรับปี 66 การท่องเที่ยวของไทยยังเดินหน้าฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้เราจะผลักดันพัฒนาศักยภาพของโรงแรมทั้ง 2 แห่ง อย่างต่อเนื่อง ยกระดับจุดแข็งของโรงแรมของเราในด้านคุณภาพการให้บริการระดับพรีเมี่ยมทั้งห้องพัก การจัดเลี้ยง และร้านอาหารต่างๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำของกลุ่มโรงแรมระดับ Ultra-Luxury เรามั่นใจในศักยภาพของโรงแรมจากการตอบรับที่ดีมากของลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติในปีที่ผ่านมา รวมทั้งการได้รับรางวัลการันตีระดับนานาชาติมากมาย ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ระดับ 2,800 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 31% จากปี 65 โดยปีนี้จะเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นของเราและเป็น “Road to Profitability” ที่ชัดเจนของโรงแรมเรา สำหรับแผนการเติบโตในระยะยาวของบริษัทฯ โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรม คาเพลลา ยังคงเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตของผลประกอบการของบริษัท โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การเพิ่มรายได้ทั้งส่วนห้องพักและอาหารและเครื่องดื่มให้เติบโตได้ต่อเนื่องทุกปี และให้ความสำคัญกับอัตราการทำกำไรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ควบคู่ไปกับการดูแลมาตรฐานการให้บริการและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า นอกจากนี้แผนการลงทุนใหม่ของบริษัทซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา ยังเน้นที่ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท รวมถึงธุรกิจร้านอาหารที่จะเป็นธุรกิจใหม่ที่เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตในอนาคต “หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวได้ให้ความสำคัญกับการมองหาคุณค่าและประสบการณ์จากการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวระดับบน (Luxury) ที่มีแนวโน้มที่จะให้คุณค่ากับประสบการณ์มากกว่าสิ่งอื่นๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »