KTB คาดตลาดที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑล ปี 65 ฟื้น 3.3% ก่อนเร่งตัวเป็น 4.2% ในปี 66 : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

KTB คาดตลาดที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑล ปี 65 ฟื้น 3.3% ก่อนเร่งตัวเป็น 4.2% ในปี 66 : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 76 sec. here
  • 3 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 34%
  • Publisher: 68%

KTB คาดตลาดที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑล ปี 65 ฟื้น 3.3% ก่อนเร่งตัวเป็น 4.2% ในปี 66 KTB LTV ธนาคารกรุงไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท ศูนย์วิจัยKrungthaiCOMPASS อสังหาริมทรัพย์ เศรษฐกิจไทย อินโฟเควสท์

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมินมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 65 มีมูลค่า 6.04 แสนล้านบาท ฟื้นตัว 3.3%YoY ก่อนเร่งตัวขึ้นอีก 4.2%YoY ในปี 66 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย การกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ ประกอบกับมีโอกาสที่ภาครัฐจะขยายมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งมาตรการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จำนอง ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงปลายเดือน ธ.ค.

สำหรับปี 66 คาดว่าสภาพเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่อเนื่อง และการกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ จากสถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศที่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติมากขึ้น จะส่งผลให้มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นที่ 4.2%YoY คิดเป็นมูลค่า 6.3 แสนล้านบาท ส่วน Segment ของที่อยู่อาศัยแต่ละประเภท ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคสะท้อนจากการมียอดขาย อยู่ในระดับสูงได้แก่ 1. บ้านเดี่ยว ราคามากกว่า 20 ล้านบาท มียอด Pre-sale เท่ากับ 18.9% 2. บ้านแฝด ราคา 5-10 ล้านบาท Pre-sale 23.4% 3. ทาวน์เฮ้าส์ ราคา 5-10 ล้านบาท Pre-sale 57.8% และ 4. คอนโดมิเนียม Segment ที่ได้รับความนิยมสุด คือ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือเป็นกลุ่มที่เน้นการมอบความคุ้มค่าให้ผู้บริโภค โดยมียอด Pre-sale 37.

นอกจากนี้ หน่วยเปิดใหม่ที่สูงขึ้นในกลุ่มบ้านจัดสรร ซึ่งโดยทั่วไปมักใช้ระยะเวลาก่อสร้างค่อนข้างเร็วที่ 6-12 เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้มูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยในปี 66 มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่เร่งขึ้นจากปีนี้เช่นกัน Krungthai COMPASS มองว่า สิ่งที่ควรจับตามองในปี 66 คือ “เทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น” และ “ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ยังยืนสูง” ซึ่งเป็นปัจจัยลบสำคัญต่อต้นทุนการดำเนินงานของผู้พัฒนาที่อยู่อาศัย ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น คาดว่า อัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 65 จนถึงปี 66 จะอยู่ในทิศทางปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี หากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยขึ้นเป็น 6% ผู้บริโภคจะต้องมีกำลังผ่อน 6,700 บาท/เดือน ถึงจะสามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคาเดิมได้ ดังนั้น หากผู้บริโภคมีกำลังผ่อนเท่าเดิมที่ 6,000 บาท/เดือน ก็จำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่ถูกลงมาที่ 900,000 บาท เป็นการทดแทน

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

TACC มั่นใจทั้งปีเข้าเป้าแม้ H1/65 โตแค่ 6.51% คาด H2/65 นทท.ฟื้น-โควิดคลี่คลายหนุน : อินโฟเควสท์TACC มั่นใจทั้งปีเข้าเป้าแม้ H1/65 โตแค่ 6.51% คาด H2/65 นทท.ฟื้น-โควิดคลี่คลายหนุน : อินโฟเควสท์นางจิรพรรณ คชฤทธิ์ชูแสง รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ทั้งปีจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมารายได้จะเติขโตได้เพียง 6.51% หรือ มีรายได้รวม 728.46 ล้านบาท โดยคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ภาครัฐบาลยังคงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และ เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยหนุนให้การท่องเที่ยวและกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทได้ออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกพันธมิตร ซึ่งผลตอบรับออกมาดีตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 66 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่โควิด-19 ถูกประกาศเป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนฟื้นตัวกลับมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายในรูปแบบ B2B มีสัดส่วนรายได้มากถึง 93% ที่มีการเติบโตตามร้านเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการกลับมาใกล้เคียงกับช่วงระยะเวลาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้ยังเน้นการขยายตลาดที่นอกเหนือจาก 7-Eleven คือ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย Bon Cafe และ โลตัส รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ของบริษัทยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

ดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดกำลังซื้อที่อยู่อาศัย-กำไรบริษัทอสังหาฯ ร่วงแค่ไหนดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดกำลังซื้อที่อยู่อาศัย-กำไรบริษัทอสังหาฯ ร่วงแค่ไหนดอกเบี้ยขาขึ้นฉุดกำลังซื้อที่อยู่อาศัย-กำไรบริษัทฯร่วงแค่ไหน บ้าน ที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม ดอกเบี้ย เฟด ขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารกรุงไทย TNN TNNThailand TNNช่อง16 TNNONLINE TNNWEALTH
อ่านเพิ่มเติม »

Krungthai COMPASS คาดKrungthai COMPASS คาดKrungthai COMPASS ประเมินมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2565 มีมูลค่า 6.04 แสนล้านบาท ฟื้นตัว 3.3%YoY ก่อนเร่งตัวขึ้นอีก 4.2%YoY ในปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจาก 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย 2) การกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ และ 3) มีโอ
อ่านเพิ่มเติม »

SCB มองตลาดคอนโดฯในกรุงเทพ-ปริมณฑล ปี 65-66 โตดีต่อเนื่องSCB มองตลาดคอนโดฯในกรุงเทพ-ปริมณฑล ปี 65-66 โตดีต่อเนื่องEIC SCB มองตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลยังขยายตัวดีต่อเนื่องในปี 65-66 โดยเฉพาะระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมือสองได้รับความนิยม ท่ามกลางปัจจั...
อ่านเพิ่มเติม »

KTB ยันเสถียรภาพแบงก์ยังแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าช่วยกลุ่มเปราะบางเต็มทีKTB ยันเสถียรภาพแบงก์ยังแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าช่วยกลุ่มเปราะบางเต็มทีสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 ก.ย. 65 12:27 น.   KTB ยันเสถียรภาพธนาคารยังแข็งแกร่ง - NPL ทรงต้ว พร้อมเดินหน้าช่วยกลุ่มเปราะบางเต็มที่ ฟากส.ธนาคารเร...
อ่านเพิ่มเติม »

กนอ. เปิดยุทธศาสตร์ปี 66-70 ยกระดับสู่นิคมฯอัจฉริยะ-ส่งเสริมลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง : อินโฟเควสท์กนอ. เปิดยุทธศาสตร์ปี 66-70 ยกระดับสู่นิคมฯอัจฉริยะ-ส่งเสริมลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง : อินโฟเควสท์นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2566 ได้จัดทำแผนวิสาหกิจฯ แผนปฏิบัติการฯ และแผนแม่บทต่างๆ ที่สอดคล้องกับ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 คือในช่วงปี 66-70 โดยแผนวิสาหกิจฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “นำนิคมอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานสากล ด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน” (Internationalize Standard Industrial Estates with Sustainable Innovation) เพื่อมุ่งมั่นบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมด้วยมาตรฐานสากล อย่างไรก็ตาม การที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอก เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนทิศทางของ กนอ. ให้บรรลุผลตามที่ตั้งเป้าไว้ “กนอ. มุ่งยกระดับการบริหารนิคมอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ทั้ง S-Curve และ New S-Curve ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล และลูกค้าเดิมที่มีอยู่ โดยมุ่งสร้างการเติบโตและส่งเสริมการลงทุนด้วยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มุ่งเน้นการบริการและการดำเนินงานด้วยการนำระบบอัจฉริยะมาใช้ในนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate: Smart I.E.) รวมทั้งยกระดับการบริการอนุมัติ-อนุญาตที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ในลักษณะของระบบอัตโนมัติ …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-18 03:27:24