KBANK ให้กรอบบาทสัปดาห์หน้า 33.80-34.50 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-รายงานเฟด Forex ค่าเงินบาท อัตราแลกเปลี่ยน เงินบาท อินโฟเควสท์
ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า ที่ระดับ 33.80-34.50 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. 66 ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่แรงขายเงินดอลลาร์ ชะลอลงบางส่วน เนื่องจากตลาดรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และเครี่องชี้ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ การทบทวนประมาณการเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แบงก์ชาติอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 6.5% สวนทางตลาดคาดการณ์ : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่า RBI จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ คณะกรรมการ RBI คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประชุมในเดือนเม.ย. 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ RBI เริ่มวงจรการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงทันหลังจาก RBI แถลงมติการประชุม โดยค่าเงินปรับตัวลง 0.15% มาอยู่ที่ระดับ 82.04 รูปีต่อดอลลาร์ โซแนล วาร์มา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทโนมูระแสดงความเห็นว่า การที่อัตราเงินเฟ้อของอินเดียผ่านจุดสูงสุดไปแล้วนั้น อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ RBI ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่โนมูระคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของอินเดียจะปรับตัวลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: 'จุรินทร์' วอนเลือดเก่ากลับมาหนุนปชป. มั่นใจไม่ทำให้ผิดหวัง : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนี้ ตนในฐานะผู้บริหารพรรค จะต้องนำทัพประชาธิปัตย์เข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมมาก พร้อมทั้งคน พร้อมทั้งนโยบาย และพร้อมทั้งหัวหน้าพรรค ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป สำหรับการจัดทัพในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จะมุ่งเน้นการจัด 3 ทัพ คือ 1. ทัพหัวหน้าพรรค 2. ทัพเลขาธิการพรรค 3. ทัพอดีตหัวหน้าพรรค ที่จะออกไปหาเสียงทั่วประเทศ โดยมั่นใจว่าผลการเลือกรอบนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นจากพี่น้องประชาชนทุกภาค รวมทั้งในกรุงเทพฯ จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของพรรค “ขอถือโอกาสนี้ วิงวอนพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ โปรดช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ท่านที่เคยเลือกเราคราวที่แล้ว ขอให้ยืนหยัดสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป สำหรับสมาชิกพรรคที่คราวที่แล้วทิ้งเราไป แต่คราวนี้ขอเรียกร้องให้กลับมาช่วยเรา มาช่วยประชาธิปัตย์ มาช่วยกันจับมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อพาประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อเรา แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของประเทศไทยของเรา” นายจุรินทร์กล่าว พร้อมกับชูจุดขายที่โดดเด่นของพรรคประชาธิปัตย์ คือความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยาวนานถึง 77 ปี โดยมองว่า ถ้าประชาชนเลือกเราก็จะไม่ผิดหวัง และไว้ใจได้ เพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่อยู่มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และจะอยู่ต่อไปในอนาคต เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน […]
อ่านเพิ่มเติม »
เดอะการ์เดียนเผยกล้องเสริม AI ของสหรัฐเป็นอันตรายกับผู้อพยพข้ามพรมแดน : อินโฟเควสท์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่า กล้องถ่ายภาพที่เสริมสมรรถนะด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งติดตั้งในหอสังเกตการณ์บริเวณพรมแดนทางตอนใต้ของสหรัฐนั้น สามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัยที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจผลักดันให้กลุ่มผู้อพยพต้องเดินทางลึกเข้าไปในทะเลทรายซึ่งเป็นพื้นที่อันตราย เดอะการ์เดียนรายงานโดยอ้างข้อมูลจากอิเล็กทรอนิก ฟรอนเทียร์ ฟาวเดชัน (Electronic Frontier Foundation) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัล เสรีภาพในการพูด และนวัตกรรม ซึ่งระบุว่า แผนที่ฉบับใหม่แสดงให้เห็นว่ามีหอสังเกตการณ์จำนวนมากกว่า 300 จุดตั้งอยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก และยังมีหอสังเกตการณ์ที่มีแผนจะสร้างเพิ่มอีก 50 จุด หอสังเกตการณ์เหล่านี้พัฒนาโดยบริษัทแอนดูริล (Anduril) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านกลาโหม โดยหอสังเกตการณ์ปฏิบัติงานทั้งกลางวันและกลางคืน และติดตั้งกล้องที่เสริมสมรรถนะด้วย AI ซึ่งสามารถตรวจจับวัตถุต้องสงสัย เช่น คนหรือยานพาหนะ นอกจากนี้ กล้องยังสามารถหมุนได้ 360 องศา และสามารถตรวจจับคนที่อยู่ห่างออกไปไกลถึง 1.7 ไมล์ หรือประมาณ 2.7 กิโลเมตร กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสหรัฐหลายสมัยนั้น ได้ผลักดันให้มีการอพยพผ่านทะเลทรายและภูเขา ซึ่งส่งผลให้ผู้อพยพเสียชีวิตหรือสูญหายจำนวนมาก นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐยังคงควบคุมการไหลเข้าของผู้อพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อพยพผ่านพรมแดนกั้นระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 เม.ย. […]
อ่านเพิ่มเติม »
ETC ชนะประมูลโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 10 โรง พร้อมเริ่ม COD ปี 68 : อินโฟเควสท์บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) ชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 10 โครงการ กำลังการผลิตรวม 99 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2568 เป็นต้นไป มั่นใจศักยภาพธุรกิจแกร่ง มีปริมาณเชื้อเพลิงขยะรองรับในการผลิตไฟฟ้าสูง คาดผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) เปิดเผยว่า บริษัทในเครือ ETC ได้ชนะการประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม (ปี 2569) พ.ศ.2565 อย่างเป็นทางการ โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 10 โครงการ จำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 80 เมกะวัตต์ ในอัตรา FiT 6.08 บาท/หน่วย และให้ […]
อ่านเพิ่มเติม »
IMF หวั่นปมขัดแย้งเทคโนโลยีจีน-สหรัฐกระทบการลงทุน ฉุด GDP โลกวูบ 2% : อินโฟเควสท์กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า ความตึงเครียดทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศ และจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกได้รับความเสียหายในอัตราส่วนสูงถึง 2% ในระยะยาว IMF เปิดเผยในรายงานเมื่อวันพุธ (5 เม.ย.) โดยระบุว่า ขณะที่บริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายทั่วโลกกำลังประเมินแนวทางการพลิกฟื้นห่วงโซ่อุปทาน ด้วยการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตกลับมายังประเทศของตนเองหรือย้ายไปยังประเทศต่าง ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั้งนี้ IMF ระบุว่า ร่างกฎหมายหลายฉบับที่ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงขึ้นนั้น รวมถึงร่างกฎหมาย Chips and Science Act ของสหรัฐ และเมื่อไม่นานมานี้ ญี่ปุ่นประกาศว่าจะขยายขอบเขตมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัย 23 ชนิด ซึ่งถือเป็นการเข้าร่วมกับสหรัฐในการสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงชิปที่ทันสมัย โดย IMF กังวลว่ามาตรการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา สหรัฐพยายามผลักดันร่างกฎหมาย Chips and Science Act ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดขีดความสามารถของจีนในการเข้าถึงชิประดับไฮเอนด์ซึ่งจีนอาจใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ล้ำสมัย โดยรัฐบาลสหรัฐวิตกว่า จีนกำลังใช้ระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัยเพื่อปรับปรุงการคำนวณต่าง ๆ ในการออกแบบอาวุธ, การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์, ระบบไฮเปอร์โซนิก และระบบขีปนาวุธอื่น ๆ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์ผลการสู้รบ […]
อ่านเพิ่มเติม »
สธ. เร่งปฏิรูประบบบริการสุขภาพ ลดการป่วยตายด้วยโรคสำคัญ : อินโฟเควสท์กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเชิงปฏิบัติการทำแผนจัดระบบบริการสุขภาพทั้งระบบ เตรียมกรอบแนวทางยกระดับบริการ ออกแบบบริการสุขภาพตามบริบทพื้นที่ พร้อมเชื่อมโยงการส่งต่อรักษา เพื่อประชาชนได้เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ลดการป่วยตายด้วยโรคสำคัญ พร้อมผลักดันเป็นยุทธศาสตร์ระดับกระทรวงระยะ 5 ปี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมายพัฒนาระบบสุขภาพให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนและปัญหาสุขภาพของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำแผนการจัดระบบบริการสุขภาพในภาพรวมทั้งระบบ” (Service Delivery Blueprint) ครั้งที่ 1 โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์ ผู้บริหารด้านระบบบริการสุขภาพ (CSO) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ผู้บริหารจากทุกกรมและเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมรวม 180 คน ทั้งนี้ ถือเป็นเวทีใหญ่ที่มีการแลกเปลี่ยนเชิงนโยบายสู่การปฏิบัติของทั้ง 13 เขตสุขภาพ และกรมวิชาการที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำกรอบแนวทางการยกระดับบริการ เพื่อให้ระบบสาธารณสุขเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน ลดการป่วยตายด้วยโรคสำคัญ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เป็นต้น รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำในการเข้ารับบริการ นพ.โอภาส กล่าวว่า ในการประชุม ได้มีการเสนอแนวคิดให้ปรับระดับสถานบริการและกิจกรรมบริการ […]
อ่านเพิ่มเติม »