K มั่นใจผลงานเริ่มฟื้นตัว ลั่นปี 66 Turnaround หลังงานใหม่จ่อคิวรอเพียบ หุ้น หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.
สำหรับงาน Motor Expo จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ย.-ต้นเดือนธ.ค.นี้ โดย “คิงส์เมน” ในฐานะผู้ประกอบการด้านงาน Exhibition อันดับต้นๆ ของประเทศ ก็ได้รับงานดังกล่าวใน 2 ส่วน ประกอบด้วย 1.งานส่วนกลาง ได้แก่ การทำป้ายงานประชาสัมพันธ์ต่างๆ การออกแบบและตกแต่งภายในงาน เป็นต้น และ 2.
สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 65 ยังเชื่อมั่นว่าจะมีแนวโน้มเติบโต ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทได้วางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 700-800 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากกลุ่มงาน Exhibition และงาน Event ราว 500-600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มงานออกแบบและตกแต่ง โดย ณ วันที่ 10 พ.ย.
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลุ่มงาน Exhibitions และงาน Event เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ชะลอตัวไปกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ยอมรับว่าแม้ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจ ดังกล่าวจะปรับมาจัดงานในรูปแบบดิจิตอล มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทั้งหมด เนื่องจากเสน่ห์ของงาน Event คือการดึงอารมณ์ของผู้ร่วมงานให้สัมผัสประสบการณ์โดยตรง ดังนั้นจึงมองว่ายิ่งเศรษฐกิจฟื้น การกลับมาของงาน Exhibition และEvent จะยิ่งคึกคักมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งอานิสงส์เชิงบวกกับ”K”...
จากปัจจัยเชิงบวกที่เข้ามาส่งผลให้บริษัทเชื่อมั่นว่าในปี 66 ทิศทางของผลการดำเนินงานบริษัทฯจะสามารถพลิกเทิร์นอะราวด์ ได้อย่างแน่นอน หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างในส่วนของงาน Interior ให้สอดรับกับภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยในช่วงต้นปี 66 บริษัทมีงานใหญ่ที่รอรับรู้รายได้แล้ว ได้แก่ บูธพิเศษบางส่วนในงาน MOTOR SHOW ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในเดือนมี.ค.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
TOPICSTODAY: กกพ.ชี้แจงค่า Ft งวดม.ค.-เม.ย.66/ตลท.แถลงแนวทางแก้ปัญหาหุ้น MORE : อินโฟเควสท์– สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แถลงข่าวชี้แจงการรับฟังความคิดเห็นผลการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับเรียกเก็บประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2566 – สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) ปี 2022 อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าตอนนี้ กกท. ได้เงินสนับสนุนจากเอกชน 3 บริษัท รวม 400 ล้านบาท คือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TRUE), บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ. ปตท. (PTT) ทำให้เมื่อรวมกับงบประมาณจาก กสทช.แล้ว ทำให้ตอนนี้ กกท. จะมีเงินในการเจรจากับฟีฟ่า อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท – นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย …
อ่านเพิ่มเติม »
นพ.ยง เผยโควิดแนวโน้มสูงขึ้นตามฤดูกาลโรคทางเดินหายใจ คาดระบาดยาวถึงก.พ.66 : อินโฟเควสท์นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โรคโควิด-19 มีแนวโน้มพบเพิ่มสูงขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ เมื่อเข้าสู่โรคตามฤดูกาล โดยการระบาดของโรคสำหรับประเทศไทยจะพบมากในฤดูฝน และช่วงปลายปีจนถึงต้นปีอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับการระบาดในสมัยไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของโรคลดลง เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อ ขณะเดียวกัน มียาที่ใช้รักษาที่ดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆ คือ โมลนูพิราเวียร์, แพกซ์โลวิด และเรมเดซิเวียร์ และปัจจุบันยาสำหรับโควิด-19 ก็หาได้ง่ายกว่าเมื่อต้นปีมาก สำหรับจำนวนการฉีดวัคซีนขณะนี้ น้อยกว่าธรรมชาติที่ฉีดวัคซีนให้หรือการติดเชื้อ ซึ่งเมื่อรวมกันก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันในประชากรเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี โดยหลักการแล้วอยากให้ประชากรไทยได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ไม่แตกต่างกัน ส่วนใครได้มากกว่า 3 เข็มแล้ว ถ้าเข็มสุดท้ายได้รับมาแล้วนานเกินกว่า 6 เดือน ระดับภูมิต้านทานที่เหลืออยู่จะไม่เพียงพอ ก็ควรได้รับการกระตุ้นอีกครั้งหนึ่ง นพ.ยง กล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนไม่ได้ขาดแคลน จึงอยากเชิญชวนให้กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มที่เมื่อติดเชื้อแล้วจะรุนแรง ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ถ้าฉีดเข็มสุดท้ายมาเป็นเวลานานแล้ว 4-6 เดือนขึ้นไป เพื่อช่วยความจำของร่างกาย และเพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคจากทุกสายพันธุ์ “การระบาดในครั้งนี้ จะยาวไปถึงเดือนก.พ. และหลังจากนั้นก็จะเริ่มลดลงต่ำมากๆ …
อ่านเพิ่มเติม »
RML มั่นใจปี 66 เทิร์นอะราวด์วางเป้ายอดขาย 8.2 พันลบ.เล็งเปิด 2 โครงการใหม่ : อินโฟเควสท์นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ของบริษัทขาดทุนลดลงมาที่ 47.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2/65 ที่ขาดทุน 193 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จาก Backlog โครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม และยังมีรายได้ประจำจากค่าบริหารโครงการ และค่าธรรมเนียมการตลาด ส่วนผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนมาจากส่วนแบ่งกำไรโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ คอนโดมิเนียมอัลตร้าลักชัวรี่หนึ่งเดียวใจกลางถนนสุขุมวิท ที่สร้างเสร็จและเริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3/65 ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง ไรมอน แลนด์ และ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด โดยมียอดขายแล้วถึง 75% และเริ่มมีการทยอยโอนอย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่าปีนี้จะทำยอดโอนได้ราว 2,000 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ ส่วนอีกหนึ่งโครงการภายใต้การร่วมทุนกับ โตเกียว ทาเทโมโนะ คือ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ใจกลางสาทร ก็มียอดขายแล้วกว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
พาณิชย์มั่นใจส่งออกข้าวปีนี้ทะลุเป้า 7.5 ล้านตัน จับมือเอกชนทวงคืนตลาดข้าวไทยปี 66 : อินโฟเควสท์นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 66 กรมฯ ได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ตลาดข้าว โดยเดินหน้าตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ คือ รัฐหนุน เอกชนนำ พร้อมร่วมมือกับผู้ส่งออกข้าวจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดข้าวไทย เพื่อรักษาและขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าเดิม และแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งนี้ มีกิจกรรมที่จะดำเนินการทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ การกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าสำคัญอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบการประชุมทางไกลกับฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อิรัก และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ ปี 66 กรมฯ มีแผนจะจัดการประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention 2023 ซึ่งเป็นการประชุมที่ยิ่งใหญ่และสำคัญสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าวโลก ที่เดินทางมาเข้าประชุมสัมมนาวิชาการ ในการสร้างความร่วมมือด้านการค้า และเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกข้าวและผู้นำเข้าข้าวจากทั่วโลก นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติทั้งในประเทศ ได้แก่ Thaifex Anuga ASIA 2023 และในต่างประเทศ ได้แก่ งาน Summer Fancy …
อ่านเพิ่มเติม »
SAPPE ตั้งเป้ายอดขายปี 66 โต 25% รับตลาดตปท.หนุน รุกขยายตลาดยุโรป : อินโฟเควสท์นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 66 เติบโต 25% โดยการเติบโตของยอดขายในปี 66 คาดว่าจะมาจากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างมาก ช่วยหนุนยอดขายของบริษัทให้สามารถเติบโตขึ้นได้ โดยเฉพาะตลาดในประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ที่ยังคงเห็นการเติบโตของยอดขายในระดับตัวเลขสองหลัก ขณะที่ตลาดใหม่ในประเทศฝรั่งเศสที่บริษัทออกไปเปิดตลาดจำหน่ายสินค้าในปี 65 ยังมีทิศทางการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าไปขยายตลาดในประเทศฝรั่งเศสแล้วได้รับการตอบรับจากลูกค้าท้องถิ่นเป็นอย่างดี และมองโอกาสในการขยายตลาดในยุโรปเพิ่มเติมในปี 66 เช่น อังกฤษ และอิตาลี ส่วนตลาดในประเทศในปี 66 มองว่าจะมีการเติบโตขึ้นจากปี 65 เล็กน้อย จากการที่เศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัว และภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ตลาดเครื่องดื่มในประเทศกลับมาฟื้นตัวตาม แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มีการเน้นทำการตลาดในประเทศมากนักเช่นเดียวกับปีนี้ ทำให้การกระตุ้นยอดขายในประเทศอาจจะไม่มีมากนัก เนื่องจากบริษัทได้เน้นการทำการตลาดในต่างประเทศมากกว่า เพื่อสร้างฐานลูกค้าในต่างประเทศที่บริษัทขยายไป สำหรับยอดขายในปี 65 บริษัทยังมั่นใจทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 30-35% โดยจะมาจากยอดขายในกลุ่มประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ที่เป็นตลาดที่สร้างยอดขายสูงกลับมาให้กับบริษัท และยังเห็นแนวโน้มการสั่งออเดอร์เข้ามาต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/66 แล้ว และแนวโน้มของยอดขายไตรมาส 4/65 …
อ่านเพิ่มเติม »
กกพ.เปิด 3 ทางเลือกปรับค่า Ft งวดม.ค.-เม.ย.66 ส่งผลค่าไฟขึ้น 5.37-6.03 บาท/หน่วย : อินโฟเควสท์นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 51/2565 (ครั้งที่ 818) เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2565 มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าเอฟทีประจำรอบ พ.ค.-ส.ค.2565 และเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2566 พร้อมให้สำนักงาน กกพ. นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. แบกรับในกรณีต่างๆ ดังนี้ กรณีที่ 1 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค.- เม.ย. 66 จำนวน 224.98 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็น เอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.- เม.ย. 66 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย และเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงบางส่วน 66.67 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 1 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 81,505 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า …
อ่านเพิ่มเติม »