INTERVIEW: ABM ล็อคเป้า 3 ปีรายได้พุ่งปีละพันล้าน ส่องพาร์ทเนอร์โตพร้อม Clean Energy ABM พลังงาน อุตสาหกรรม อินโฟเควสท์
นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาธร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย ไบโอแมส กล่าวกับ “อินโฟเควสท์” ว่า
ปัจจุบันเชื้อเพลิงชีวมวลของ ABM ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กะลาปาล์ม, ไม้สับ ที่มาจากเศษเฟอร์นิเจอร์ หรือโรงเลื่อยไม้ และชีวมวลอัดแท่ง ที่เป็นการเอาเศษขี้กบ ขี้เลื่อยมาอัดเท่ง ทำให้ได้ค่าความร้อนที่สูง ด้านความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ มองว่าจะมาจากนโยบายของรัฐบาล ไม่เพียงแค่รัฐบาลไทย แต่รวมไปถึงรัฐบาลทั่วโลก ในการสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน เนื่องจากมีราคาถูก แต่เชื่อว่าด้วยเทรนด์โลกที่มุ่งไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงจะไม่กลับไปที่พลังงานฟอสซิลอีกบริษัทฯ มองเทรนด์อุตสาหกรรมฯ จากนี้ยังคงมีการเติบโต หลังจากทั่วโลกมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน กันอย่างมาก เนื่องด้วยเชื้อเพลิงของโรงงานอุตสาหกรรมที่นิยมใช้กันนั้นมาจากก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน น้ำมันเตา...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
สคฝ.-กอช.-กยศ. ผนึกกำลังส่งเสริมวินัยการออม-สร้างภูมิคุ้มกัน-รู้ทันกลโกง : อินโฟเควสท์นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.), กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงบันทึกความร่วมมือ เรื่อง การส่งเสริมการออมและการคุ้มครองเงินฝาก” โดยครอบคลุมถึงการให้ความรู้ทางการเงิน และความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วย ความรู้เรื่องการออม เทคนิคออมเงินอย่างถูกวิธี การวางแผนทางการเงิน การป้องกันตนเองจากภัยกลโกงทางการเงิน และการคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินของตัวเอง เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว อันถือเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นายทรงผล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สคฝ. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญภายใต้กลยุทธ์การเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมการเงิน อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การทำงานร่วมกันในหลากหลายมิติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานทางการเงิน และตระหนักถึงการวางแผนการออมเงินอย่างถูกวิธีก่อนเข้าสู่วัยทำงาน ทั้งนี้ ภารกิจหลักของ สคฝ. คือ การคุ้มครองผู้ฝากเงินและชำระบัญชีสถาบันการเงินหากเกิดวิกฤติ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะรวมไปถึงการฝากเงินผ่านธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) โดยหากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกใบอนุญาตให้ Virtual Bank แล้ว สคฝ. ก็พร้อมจะคุ้มครองการฝากเงินทันที โดยความคืบหน้าขณะนี้ ธปท. […]
อ่านเพิ่มเติม »
ส่อแววแชร์ลูกโซ่! เตือน 4 รูปแบบหลอกลงทุนออนไลน์ : อินโฟเควสท์กระทรวงการคลัง เตือนประชาชนระมัดระวังการชักชวนเข้าร่วมลงทุน ผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอาจเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันมีบุคคล กลุ่มบุคคล หรือบริษัทหลายแห่ง ได้จัดหาวิธีการหรือรูปแบบการระดมทุนในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อจูงใจให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมลงทุน อาทิ การโฆษณาชักชวนให้นำเงินร่วมลงทุน และสัญญาจะให้ผลตอบแทนตามจำนวนเงินที่ลงทุน ซึ่งมีรูปแบบการเสนอผลตอบแทนที่ดึงดูดใจเป็นการให้เงินและทองรูปพรรณ ของมีค่า เป็นต้น โดยเมื่อคำนวณแล้ว เป็นอัตราผลตอบแทนที่สูง กระทรวงการคลัง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง เนื่องจากพฤติการณ์ดังกล่าว น่าจะมีลักษณะเป็นการหลอกลวง และอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ กล่าวคือ 1) มีการโฆษณาชักชวน หรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชน เช่น การชักชวนผ่านออนไลน์ เป็นต้น 2) มีการให้สัญญาว่าจะจ่าย หรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนจากการเข้าร่วมการลงทุน ซึ่งการจ่ายผลตอบแทน จะจ่ายเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดก็ได้ 3) ผลประโยชน์ตอบแทนที่จะจ่ายให้นั้น มีอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ 4) มิได้มีการประกอบกิจการที่ชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูงตามที่สัญญานั้นได้ แต่สุดท้ายก็ใช้วิธีการหมุนเวียนเงินจ่ายให้กับผู้ร่วมลงทุน โดยนำเงินจากผู้ร่วมลงทุนรายใหม่จ่ายคืนให้กับผู้ร่วมลงทุนรายต้น ๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ฟอร์ดประกาศหั่นราคารถยนต์ไฟฟ้าในจีนตามรอยเทสลา : อินโฟเควสท์ฟอร์ด มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศในวันนี้ (8 มี.ค.) ว่า บริษัทจะลดราคารถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวี (SUV) รุ่นมัสแตง มัค-อี (Mustang Mach-E) ในจีนลง 40,000 หยวน (5,744.16 ดอลลาร์) จนถึงสิ้นเดือนเม.ย. ตัวแทนฟอร์ดประเทศจีนเปิดเผยว่า ขณะนี้ รถยนต์รุ่นมัสแตง มัค-อี มีราคาอยู่ที่ 209,900 หยวนในจีนหลังลดราคาแล้ว ทั้งนี้ การปรับลดราคาดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่เทสลา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ ประกาศหั่นราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model S และ Model X ทุกเวอร์ชันลงราว 4-9% โดยเว็บไซต์ของเทสลาระบุว่า รถ Model S ลดราคาลง 5,000 ดอลลาร์ ส่วนรถ Model X ลดราคาลง 10,000 ดอลลาร์ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายอีลอน มัสก์ กล่าวหลายครั้งว่า เทสลาจะให้ความสำคัญกับการปรับลดราคา […]
อ่านเพิ่มเติม »
ญี่ปุ่นรั้งอันดับรองบ๊วยด้านบทบาทสตรีในการทำงาน 7 ปีซ้อน : อินโฟเควสท์นิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) ของอังกฤษเปิดเผยดัชนีเพดานกระจก (Glass Ceiling Index) ประจำปี 2565 ซึ่งใช้วัดบทบาทและอิทธิพลของผู้หญิงในการทำงาน พบว่า ญี่ปุ่นได้อันดับรองสุดท้ายในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ดัชนีดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าวันสตรีสากลในวันนี้ (8 มี.ค.) ได้ประเมินสภาพการทำงานและปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของผู้หญิงใน 29 จาก 38 ประเทศสมาชิกองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และพบว่า ไอซ์แลนด์คว้าอันดับที่ 1 ตามมาด้วยสวีเดน ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ในขณะที่ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 28 และเกาหลีใต้ได้อันดับที่ 29 ซึ่งอันดับดังกล่าวไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่การสำรวจในปี 2559 โดยนิตยสารระบุว่า ผู้หญิงในประเทศเหล่านี้ยังคงต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานหรือครอบครัว ทั้งนี้ ดัชนีเพดานกระจกทำการประเมินประเทศในอเมริกาเหนือและยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ด้วยตัวชี้วัด 10 ตัว ซึ่งรวมถึงช่องว่างรายได้ที่ต่างกันเพราะเพศสภาพ การศึกษา และการมีส่วนร่วมในการทำงาน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นถูกจัดอยู่ในอันดับที่ต่ำที่สุดเรื่องจำนวนผู้หญิงในสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐสภา โดยมีผู้หญิงอยู่ในสภาเพียง 10% ในขณะที่การสำรวจแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้หญิงโดยเฉลี่ยในรัฐสภาของประเทศสมาชิก OECD […]
อ่านเพิ่มเติม »
ไทย-ญี่ปุ่น เดินหน้าลงทุนไฮสปีดกรุงเทพ-เชียงใหม่ เฟสแรก : อินโฟเควสท์นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมหารือด้านเทคนิคโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้แทนฝ่ายไทย และผู้แทนจากฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MLIT) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ฉบับสมบูรณ์ รวมถึงความร่วมมือในอนาคต โดยฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้ตกลงร่วมกันในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะแรกในเส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร รวมถึงเส้นทางพิษณุโลก-เชียงใหม่ในอนาคต โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ถือเป็นโครงการสำคัญที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ประเทศไทย การประชุมในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ และนำไปสู่ความสำเร็จของการดำเนินโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป สำหรับการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมด้านเทคนิคฯ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นได้นำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ รวมทั้งผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม พบว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – พิษณุโลก มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 17.3% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 12% โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เป็นบวกตลอดระยะเวลาดำเนินการ จึงก่อให้เกิดความคุ้มค่าในด้านเศรษฐศาสตร์ นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือการพัฒนาระบบรางระหว่างไทย-ญี่ปุ่น (Memorandum of […]
อ่านเพิ่มเติม »
กยศ. มั่นใจยอดชำระหนี้คืนเพิ่มขึ้น หลัง กม.ใหม่ชัดเจน : อินโฟเควสท์นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กฎหมาย กยศ. ขณะนี้ผ่านการพิจารณาวาระ 3 เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเชื่อว่าเมื่อกฎหมายใหม่มีความชัดเจน จะช่วยทำให้ลูกหนี้ที่ไม่เคยชำระหนี้ในช่วงที่ผ่านมา กลับเข้ามาในระบบอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่กฎหมาย กยศ.อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา ส่งผลให้ช่วงนั้นอัตราการชำระหนี้แบบสมัครใจ ชะลอลงไปกว่า 28% สำหรับกฎหมายใหม่ของ กยศ.ที่เตรียมจะประกาศใช้นั้น จะมีแนวทางเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ และการแปลงหนี้ใหม่ที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น กรณีลูกหนี้ที่โดนฟ้องมาแล้วและโดนยึดทรัพย์ หรือใกล้โดนยึดทรัพย์ ซึ่งหลังจากนี้ กยศ. จะไม่ต้องไปยึดทรัพย์แล้ว แต่สามารถให้ลูกหนี้ดังกล่าวเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ หรือแปลงหนี้ใหม่เลย โดยนำเบี้ยปรับเดิมไปแขวนไว้ และไล่หนี้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ หรือกรณีคนที่ฟ้องแล้ว และไม่สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ ก็ให้มาแปลงหนี้ใหม่ เพื่อให้สามารถกลับมาผ่อนต่อได้อีกรอบ “กรณีผู้กู้ ซึ่งอาจจะเป็นพ่อหรือแม่ที่ผิดนัดชำระหนี้กับทาง กยศ. แล้วบุตรหลานต้องการกู้เงินเรียนกับ กยศ. ก็สามารถดำเนินการได้ กยศ.ให้กู้ เราไม่ปิดกั้นโอกาส เพราะความยากจนจะต้องไม่ใช่อุปสรรคของการศึกษา โดยยืนยันว่าวันนี้ คนที่พ่อแม่ผิดนัดชำระหนี้ แต่รุ่นลูกยังสามารถกู้เงินกับ กยศ.ได้อย่างแน่นอน” นายชัยณรงค์ กล่าว พร้อมระบุว่า ในปีการศึกษาใหม่นี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »