InnovestX ชี้ช่องจับจังหวะ downside ช่วง Q2 รอโอกาส Rally ตามจีน แบ่งพอร์ตรับความผันผวน อินโนเวสท์เอกซ์ อินโฟเควสท์
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ กล่าวว่า แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 66 มองว่าไตรมาส 1/66 ความเสี่ยงด้านนโยบายการเงินตึงตัวแม้จะมีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงไม่จบ ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานชะลอตัวกำลังเพิ่มขึ้น แต่การเปิดประเทศของจีนเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจชะลอตัวได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม หุ้นไทยที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากตลาดหุ้นจีนฟื้นตัว นักเศรษฐศาสตร์ของ InnovestX ประเมินว่า ข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ส่งผลทำให้ GDP Output ของจีนปรับลดลงราว 4-5% จากระดับ Trend ทำให้ GDP ขยายตัวราว 5% ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเติบโต 13% ในปี 66 โดยได้รับสนับสนุนจากการคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 6% Net Interest Margin จะขยายตัว 6 bps ส่วน Non-Nll จะอยู่ในระดับทรงตัว และ Credit Cost จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 7 bps
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
การค้าโลกส่อเค้าโตเฉลี่ย 2.3% ช่วง 10 ปีหน้า สงครามยูเครนเปลี่ยนขั้วการค้า : อินโฟเควสท์บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Boston Consulting Group – BCG) ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ระดับโลกคาดการณ์ว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้ การค้าระหว่างประเทศจะขยายตัวช้ากว่าเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนส่งผลให้การเป็นพันธมิตรด้านการค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของการค้าข้ามพรมแดน สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยรายงานของ BCG ซึ่งระบุว่า อัตราการขยายตัวรายปีของการค้าโลกโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.3% ไปจนถึงปี 2574 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2.5% โดยเฉลี่ยในทุก ๆ ปีไปจนถึงปี 2574 ในช่วงเวลา 10 ปีก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาดนั้น การค้าระหว่างประเทศปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับอัตราการขยายตัวของ GDP ทั่วโลก แต่รายงานของ BCG คาดการณ์ว่า ระบบโลกาภิวัตน์ของการค้าโลกจะเผชิญภาวะชะงักงันที่ยืดเยื้อและรุนแรงที่สุดนับตั้งการองค์การการค้าโลก (WTO) ก่อตั้งขึ้นในช่วงกว่า 25 ปีที่ผ่านมา “หลังจากสภาพแวดล้อมด้านการค้าทั่วโลกมีความมั่นคงมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ขณะนี้เรากำลังอยู่ท่ามกลางพลวัตของสองขั้วแห่งโลกฝั่งตะวันออกและโลกฝั่งตะวันตกยุคใหม่ ซึ่งหมายถึงประชาคมที่นำโดยสหรัฐและสหภาพยุโรป และประชาคมที่นำโดยจีนและรัสเซีย ประกอบกับการปรากฏขึ้นของประชาคมกลุ่มที่ 3 ซึ่งหมายถึงประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” นิโคลัส […]
อ่านเพิ่มเติม »
น่าห่วง! คาดการค้าโลกโตเฉลี่ยเพียง 2.3% ช่วง 10 ปีข้างหน้าหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนส่งผลเปลี่ยนขั้วการค้า นักวิเคราะห์ก็คาดว่า การค้าโลกจะมีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3% ไปจนถึงปี 2574 หรือในช่วงเกือบ 10 ปีข้างหน้า
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง“เมพ คอร์ปอเรชั่น(MEB)” ขาย IPO 75.5 ล้านหุ้น-เทรด mai ช่วง Q1/66สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -17 ม.ค. 66 9:59: น. ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งของ 'บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น' (MEB) ผู้นำในการประกอบธุรกิจจำหน่าย E-Book และ E-Reader รวมถึงธุ...
อ่านเพิ่มเติม »
HotIssue: 65 เผาหลอก 66 เผาจริง !! เจาะลึกเศรษฐกิจไทยปีกระต่ายตื่นตูม : อินโฟเควสท์นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) แชร์มุมมองด้านเศรษฐกิจว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 66 ยังเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะจากปัจจัยสำคัญในต่างประเทศ แต่จะเติบโตได้จากปีก่อนจากปัจจัยหนุนภายในประเทศ โดยเฉพาะท่องเที่ยวที่จะเป็นดาวเด่น จึงต้องเตรียมพร้อมปรับตัวเพื่อรีบมือกับความเสี่ยงแต่ก็ต้องเติบโตไปกับโอกาสที่เข้ามาให้ได้ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปีนี้ คือ 1) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และทำให้สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผลที่ตามมาคือเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวหรือไม่ 2) สงครามรัสเซียบุกยูเครนยังคงยืดเยื้อต่อทำให้ราคาน้ำมันโลกขึ้นสูงจะลากยาวต่อเนื่องในปี 66 หรือไม่ 3) จีนเสี่ยงโควิดกลายพันธุ์อาจกระทบทั่วโลก และจะกระทบกับการท่องเที่ยวอย่างไร “เรามองว่ามีโอกาสสูง ปัญหาพวกนี้แก้ไม่จบ ยืดเยื้อต่อในปี 66 และมีความเสี่ยงต่อเนื่อง แต่ความเสี่ยงที่พูดถึงส่วนใหญ่เป็นความเสี่ยงจากต่างประเทศเป้นหลัก ที่จะกระทบกับการส่งออกของเรา เช่น ยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์… ทำให้ในช่วงปลายปี 65 หลายคนบอกว่าปี 65 เผาหลอก ปี 66 เผาจริง”นายอมรเทพ กล่าว สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 66 คาดว่าจะเติบโต […]
อ่านเพิ่มเติม »
TOPICSTODAY: 'บิ๊กป้อม' เปิดนโยบายหาเสียง พปชร./ลุ้น ครม.เคาะเราเที่ยวด้วยกัน : อินโฟเควสท์– ประเด็นด้านการเมืองที่น่าสนใจวันนี้ โฟกัสพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ความเคลื่อนไหวช่วงไร้ “ลุงตู่” โดยบ่ายนี้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทัพแถลงนโยบายพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแกนนำพรรคคนสำคัญ และผู้บริหารพรรค งานนี้ต้องจับตานโยบายที่เกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ว่าจะมีการปรับเพิ่มวงเงินหรือไม่ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่คาดว่า พปชร. จะนำมาใช้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใหญ่ในปีนี้ – “เราเที่ยวด้วยกัน” ยังต้องลุ้นกันอีกรอบ หลังเจอโรคเลื่อนมาหลายสัปดาห์ สำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาเห็นชอบ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” วันนี้ลุ้นว่า ครม.จะเคาะมาตรการดังกล่าวเพื่อออกมาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากผ่านไฮซีซั่นไปแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมครม. โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.แล้ว ทีมโฆษกรัฐบาล นำโดยนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะแถลงรายละเอียดผลการประชุมที่น่าสนใจ ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล – นายอนุชา นาคาศัย)รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ […]
อ่านเพิ่มเติม »
กลุ่มรับเหมาฯ ดีดขึ้นทั้งแผง ลุ้นรัฐบาลโค้งสุดท้ายรัฐบาลเร่งออกโครงการใหญ่-ต้นทุนลดตามน้ำมัน : อินโฟเควสท์กลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวขึ้นยกแผงเช้านี้ นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างตอบรับความคาดหวังว่าช่วงโค้งสุดท้ายรัฐบาลจะเร่งการจ้างงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ออกมา รวมถึงโครงการค้างท่อที่คาดว่าจะทยอยเห็นออกมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 น่าจะออกมาดีจากที่เร่งรับรู้งานกันมากขึ้น รวมทั้งต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน นอกจากนั้นในช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้ขยับขึ้นเหมือนกลุ่มอื่นๆ ถือว่ายัง Laggard ยกเว้น บมจ.ช.การช่าง (CK) ที่ดีดขึ้นตอบรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มไปแล้ว แนะนำหุ้น STI ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท STEC ราคาเป้าหมายที่ 15.00 บาท SEAFCO ราคาเป้าหมายที่ 4.30 บาท เมื่อเวลา 10.25 น. CNT พุ่ง 14.29% หรือเพิ่มขึ้น 0.22 บาท มาที่ 1.76 บาท NWR พุ่ง 8.86% หรือเพิ่มขึ้น 0.07 บาท มาที่ 0.86 บาท STI […]
อ่านเพิ่มเติม »