GFPT ลุ้นรับอานิสงส์หวัดนกในบราซิลครึ่งปีหลังจ่อปรับเพิ่มเป้าทั้งปี 66 หลังเห็นผลชัด GFPT จีเอฟพีที หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายวีระ ธิตยางกรุวงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.จีเอฟพีที กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ในช่วงไตรมาส 2/66 คาดว่าจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/66 ที่มีรายได้ 4.54 พันล้านบาท แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนจากปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นหลังจากบราซิลพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก
อย่างไรก็ตาม ออเดอร์ในช่วงไตรมาส 2/66 น่าจะยังไม่ได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเต็มที่ เพราะการส่งออเดอร์โดยปกติแล้วจะสั่งเข้ามาล่วงหน้า 1 ไตรมาส ดังนั้น คาดว่าจะเห็นรายได้เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง และเมื่อมีความชัดเจนขึ้น บริษัทอาจจะปรับประมาณการณ์เป้าหมายรายได้ในปี 66 เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ตั้งเป้าเติบโต 2-3% ซึ่งในไตรมาส 1/66 รายได้เติบโตไปแล้ว 13%
ในแง่ของอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะพยายามรักษาให้อยู่ที่ระดับ 14-15% แม้จะมีปัจจัยกดดันจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรในช่วงไตรมาส 1/66 ถูกดดันเข้ามาบ้าง แต่บริษัทยังคงเดินหน้าในการควบคุมต้นทุนอาหารสัตว์ให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเป็นไปตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้
สำหรับการลงทุนในปี 66 บริษัทตั้งงบไว้ 1-1.2 พันล้านบาท เพื่อรองรับการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ 150,000 ตัว รวมถึงการก่อสร้างโรงงานเชือดไก่กำลังการผลิต 140,000 ตัน ซึ่งจะสามารถเข้ามารองรับความต้องการเพิ่มขึ้น และทำให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ในอนาคต รวมถึงยังมีแผนการสร้างโรงงานแปรรูปไก่ที่จะเตรียมการก่อสร้างภายใน 1-2 ปีนี้ แต่อาจจะต้องใช้เงินลงทุนรวมเพิ่มเป็น 1.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
BBIK เปิด 10 เทรนด์เทคปี 66-69 เขย่าโลกธุรกิจ พลิกโฉมองค์กรสู่ Digital-First Company : อินโฟเควสท์นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) กล่าวว่า การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในภาคธุรกิจจะมีความเข้มข้นมากขึ้นนับจากนี้ การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและลงลึกถึงระดับที่สามารถพลิกโฉมองค์กรเป็น “Digital-First Company” เทรนด์การทำธุรกิจแห่งโลกอนาคต สำหรับองค์กรที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว ต้องสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและลดต้นทุนการบริหารงาน รวมถึงรองรับเทรนด์การทำธุรกิจในรูปแบบใหม่บนโลกออนไลน์ ที่กำลังกลายเป็นช่องหลักในการขายและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่มีอำนาจการซื้อสูงสุดอย่าง Gen M (Millennials) และ Gen Z (Zoomers) เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงในระยะยาว นิยามของ Digital-First Company คือ การคิดใหม่ในทุกแง่มุมของการทำธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่การใช้เทคโนโลยี กระบวนการดำเนินงาน จนถึงโครงสร้างขององค์กร อย่างไรก็ตามการคิดใหม่นี้มิได้หมายถึงความเปลี่ยนแปลงเสมอไป แต่เป็นการปรับตัวและเลือกใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหรือวิกฤตต่าง ๆ และสามารถสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ โดย Digital-First Company จะทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ สอดรับบริบทของการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ ซึ่งการก้าวเป็น Digital-First Company ต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุน ดังต่อไปนี้ 1. Digital-First Strategy – การหา Business […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: กกต. เรียกผู้ร้องปม 'พิธา'ถือหุ้นสื่อแจงข้อมูลเพิ่มเติมวันนี้ : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า จากกรณีมีผู้ยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลกรณีถือครองหุ้นบมจ. ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้นนั้น ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ กกต.ได้เชิญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้ยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ตรวจสอบในกรณีเดียวกันเพื่อมาให้ถ้อยคำ ส่วนกรณีของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย คาดว่าสำนักงาน กกต.จะได้มีการเชิญมาภายในสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
BGRIM เข้าถือหุ้น Saemangeum Sebit Power รับรู้ทันทีหนุนกำไรปี 66 เพิ่ม 1.7% : อินโฟเควสท์บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เข้าถือหุ้น Saemangeum Sebit Power ในสัดส่วน 21.27% และมีสิทธิได้รับเงินปันผล 33.85% ซึ่งการเข้าถือหุ้นดังกล่าวส่งผลให้ BGRIM มีส่วนได้เสียในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐเกาหลีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 98.99 MW (33.51 MWe) ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะ 20 ปี กับ KEPCO และมีอัตราค่าไฟฟ้าขั้นต่ำอยู่ที่ 144.31 วอน/kWh (3.8 บาท/kWh) โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวได้ COD ไปในช่วง มี.ค.65 และในเบื้องต้นทางฝ่ายคาดว่าการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการข้างต้นจะส่งผลให้กำไรของ BGRIM ในปี 66-67 เพิ่มขึ้นราว 1.7% และ 1.8% ขณะที่ส่งผลต่อราคาพื้นฐานประมาณ 0.67 บาท/หุ้น ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 46.00 บาท เนื่องจากการเติบโตของกำลังการผลิตที่คาดว่าจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลกระทบจากการปรับลดค่า Ft ที่จำกัด […]
อ่านเพิ่มเติม »
รมว.คลัง มั่นใจปีงบ 66 เก็บรายได้ตามเป้า-เวิลด์แบงก์แนะปฏิรูปภาษีเพิ่มรายได้ : อินโฟเควสท์นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในการเปิดตัวรายงานเรื่อง “การประเมินรายได้และรายจ่ายภาครัฐของประเทศไทย : การส่งเสริมอนาคตที่ทั่วถึงและยั่งยืน” ที่จัดโดยธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ว่า คาดว่าในปีงบประมาณ 2566 ภาพรวมการจัดเก็บรายได้จะดีขึ้นกว่าช่วงโควิด-19 อย่างชัดเจน แม้ว่าจะมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลก็ตาม โดยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-เม.ย.66) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.4% และสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 8.9% ทำให้มั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2566 จะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว สิ่งที่ต้องดำเนินการเพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างทั่วถึงในระยะถัดไป คือ การเพิ่มสวัสดิการให้กับประชากรกลุ่มเปราะบาง การส่งเสริมการลงทุนในอนาคต โดยกระทรวงการคลังจะต้องผลักดันนโยบายการคลังเชิงรุก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องเดินหน้านโยบายการเงินที่รอบคอบต่อไป และบริการจัดการเศรษฐกิจมหภาคให้เข้มข้นมากขึ้น ประสานนโยบายให้ทั่วถึง นอกจากนี้มีประเด็นเร่งด่วนที่ต้องเร่งพิจารณา คือ ราคาพลังงานที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้วางมาตรการช่วยเหลือที่ตรงเป้าผ่านการอุดหนุนเงินในวงกว้าง แต่ต้องยอมรับว่าการอุดหนุนใช้งบประมาณค่อนข้างเยอะ แต่ก็สามารถรักษาระดับราคาขายและรักษาอัตราเงินเฟ้อได้ ผลที่เกิดขึ้น คือ คาดว่าในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 3% อย่างแน่นอน ส่วนในอนาคตนโยบายการอุดหนุนต่างๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »
EPG งวดปี 65/66 ยอดขายโต 3% แตะ 1.2 หมื่นลบ.แต่ค่าใช้จ่ายในตปท.พุ่งกดดันกำไรหด : อินโฟเควสท์นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 65/66 (1 เม.ย.65-31 มี.ค.66) บริษัทมีรายได้จากการขาย 12,084 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 11,740 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 344 ล้านบาท หรือ 3% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 33% และมีกำไรสุทธิ 1,082 ล้านบาท ลดลง 520 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,602 ล้านบาท หรือ ลดลง 32.5% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 3,563 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน มาจากยอดขายในสหรัฐอเมริกายังคงเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าฉนวนยางที่มีคุณภาพสูง อีกทั้ง บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที […]
อ่านเพิ่มเติม »