FORTH ส่งตู้ 'เต่าบิน' ทดลองตลาดอินโดฯ-มาเลย์-สิงคโปร์ปลายปี 65 ก่อนลุยไปอังกฤษ FORTH ตู้เต่าบิน ผลประกอบการ ฟอร์ทคอร์ปอเรชั่น หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บมจ.
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/65 จะสามารถเติบโตได้จากข่วงเดียวกันของปีก่อน และ เติบโตจากไตรมาส 2/65 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,250 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 147 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทั้ง 3 ธุรกิจที่ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ จากทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานใหม่กว่า 17 โครงการ ในปี 65-66 จากหน่วยงานการไฟฟ้า 5, หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงอุดมศึกษา 2, หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม 2 และหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม มูลค่ารวมมากกว่า 9,700 ล้านบาท ซึ่งกว่า 60-70%...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
KBANK ชี้อนาคต GDP ปี 65 ฝากไว้กับท่องเที่ยวหลัง Q2/65 ชะลอ มองการเมืองไม่กระทบ : อินโฟเควสท์นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ธนาคารจะทบทวนประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ไทย หลังจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2/65 ออกมาที่ 2.5% ถือต่ำกว่าตลาดคาดไว้ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังยังต้องลุ้นว่าภาคท่องเที่ยวที่จะเป็นปัจจัยหลักทำให้กับเศรษฐกิจไทยฟื้นกลับมาเติบโตได้ดีต่อเนื่องหรือไม่ ปัจจัยหลักที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ คือ ปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ทำให้เศรษฐกิจโลกเกิดความผันผวน โดยเฉพาะความเสี่ยงของการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายยังคงเป็นสายเหยี่ยวที่มีความเห็นสนับสนุนการปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น และสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.50-0.75% ทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนยังคงผันผวนจากความเสี่ยงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เป็นแรงกดดันค่าเงินบาทยังอิงไปทางอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเดือนก.ย. 65 คาดว่าค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าแตะ 37 บาท/ดออลาร์สหรัฐฯ แต่ก็ยังคงต้องติดตามว่าในช่วงเดือน พ.ย.นี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยมากน้อยเพียงใด เพราะหากเข้ามามากจะมีผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปีนี้ได้ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ไว้ที่ 7 ล้านคน โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยแล้ว 3 ล้านคน และมีจำนวนเที่ยวบิน 160,000 เที่ยว/วัน นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรปมากขึ้นกว่าสหรัฐฯ โดยที่ยังต้องติดตามความทนทานของเศรษฐกิจยุโรปในช่วงฤดูหนาวนี้ว่าจะเป็นอย่างไร หลังจากสงครามรัสเซียและยูเครนยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้ยุโรปต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงอยางต่อเนื่อง และทำให้เศรษฐกิจโลกเกิดความเสี่ยง …
อ่านเพิ่มเติม »
AHC คาดผลงาน H2/65 ต่ำกว่า H1/65 ตามการให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ลดลง : อินโฟเควสท์นายสิทธิพจน์ มาโนช รองผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.โรงพยาบาลเอกชล (AHC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวลง เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ที่อาจจะเกิดขึ้นในต้นเดือนก.ย.นี้ ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงตามไปด้วย จากในครึ่งปีแรกมีสัดส่วนรายได้ดังกล่าวราว 20% ของรายได้รวม แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ก็ได้ตระหนักถึงปัจจัยดังกล่าวแล้ว โดยได้ดำเนินการขยายศักยภาพ จากการมุ่งเน้นการรักษาแบบกลุ่มโรคป่วยเล็กน้อยทั่วไป (simple diseases) ไปสู่การรักษาแบบซับซ้อนมากขึ้นแทน ทั้งนี้ บริษัทฯยังได้ค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ และบริการในรูปแบบ Health Tech มากขึ้น รวมถึงยังมีแผนขยายหอผู้ป่วยหนัก (ICU) เพิ่ม เพื่อรองรับผู้ป่วย ICU ที่เพิ่มขึ้น และหอผู้ป่วยหนักไอซียูทารกแรกเกิด (NICU) เพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ก็จะรีโนเวทอาคารใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น และปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ โดยปัจจุบันก็มีการจัดทำจุด One Stop Service เพิ่มขึ้นหลายจุด พร้อมกันนี้คาดว่ายอดผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ในครึ่งปีหลังนี้น่าจะยังเติบโตได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ก็จะทำให้สามารถกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ …
อ่านเพิ่มเติม »
SMK เผยนักลงทุนเอเชีย-ยุโรป 3 รายรอเจรจาร่วมทุน,คาดศาลสั่งฟื้นฟู ต.ค.65 : อินโฟเควสท์บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) เปิดเผยว่า จากที่บริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯจะร่างแผนเสนอแนวทางการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งจากการศึกษาในเบื้องต้นเป็นไปได้หลายแนวทางดังนี้ โดยแนวทางในการชำระหนี้จะได้มีการหารือในระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป การหาแหล่งเงินทุนใหม่และปรับโครงสร้างทุน โดยการเพิ่มทุนจากผู้ร่วมทุนใหม่เพื่อนำมาใช้ในการชำระหนี้ และ/หรือ เพื่อปรับโครงสร้างทุนให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเป็นไปตามกฎหมายกำหนด โดยปัจจุบันมีนักลงทุนรายใหม่ 3 ราย ได้แก่ นักลงทุนสัญชาติเอเชีย 1 ราย และนักลงทุนสัญชาติยุโรป 2 ราย ที่รอการเจรจากับบริษัทฯ ภายหลังที่มีความชัดเจนในการปรับโครงสร้างหนี้สินไหมโควิด-19 และยังมีนักลงทุนที่ให้ความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ การชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน ศึกษาและจัดเตรียมแผนและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ แนวทางการชำระหนี้จะได้มีการหารือและหาข้อตกลงร่วมกับเจ้าหนี้สินไหมโควิดในระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางการแก้ไขในส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว บริษัทคาดว่า ศาลล้มละลายพิจารณามีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนประมาณเดือนต.ค.65 โดยเจ้าหนี้ต้องดำเนินการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลา 1 เดือนนับจากวันโฆษณาคำสังตั้งผู้ทำแผน ประมาณเดือนธ.ค.65 และผู้ทำแผนจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและส่งแผนฟื้นฟูกิจการภายใน 3 เดือน หรือประมาณเดือนมี.ค.66 และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้าหนี้ประมาณเดือนเม.ย.66 จากนั้นประมาณเดือนพ.ค.66 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาลงมติออกเสียงในแผนฟื้นฟูกิจการ และคาดว่าเดือนมิ.ย.66 ศาลล้มละลายพิจารณาคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ และ ผู้บริหารแผนดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการในเดือน ก.ค. 66 เป็นต้นไป …
อ่านเพิ่มเติม »
ZIGA ลุ้น Q3/65 พลิกกำไร,พักขุดบิทคอยน์ชั่วคราวหันจับจังหวะราคาลงเข้าซื้อลงทุน : อินโฟเควสท์นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการไตรมาส 3/65 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ แม้ว่าครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุนสุทธิ 15.72 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทปรับสัดส่วนการขายเหล็กจากภาคเกษตร มาเป็นการขายให้กับงานโครงการมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของอุตสาหกรรมดังกล่าว เพื่อรักษาอัตรากำไร ขณะที่ภาคเกษตรชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งบริษัทยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ท่อประปา ซึ่งคาดว่าจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทจึงเน้นขยายช่องทางจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ มากกว่าการขยายช่องทางขายในรูปแบบเฟรนไชส์ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 500-600 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในครึ่งปีหลังนี้ ดังนั้น บริษัทจึงคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่จะเติบโตราว 15-30% จากการมุ่งมั่นพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าในรูปแบบทั้ง Steel และ Non steel และสร้างแบรนด์ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับตลาด Niche Market ส่วนธุรกิจด้านเทคโนโนโลยี หรือการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ ปัจจุบันบริษัทได้หยุดเดินเครื่องขุดบิทคอยน์ชั่วคราว จากความผันผวนของราคาเหรียญบิทคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ไม่คุ้มกับค่าไฟ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์มาเป็นการซื้อเหรียญบิทคอยน์เข้ามาแทนในช่วงที่ราคาเหรียญบิทคอยน์อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งมีการซื้อมาแล้ว 3 BTC ในไตรมาส …
อ่านเพิ่มเติม »
ICHI มั่นใจ H2/65 โตรับลุยหนักตลาดอาเซียน,ออกสินค้าใหม่ตรงใจ-ต้นทุนเริ่มลง : อินโฟเควสท์นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทั้งยอดขายและกำไร โดยที่คาดว่ายอดขายในครึ่งปีหลังของปีนี้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตของยอดขายที่โดดเด่นในช่วงไตรมาส 4/65 เนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทจะมียอดขายที่เติบโตมากจากการที่เป็นช่วงเข้าสู่เทศกาล รวมถึงมีการเริ่มรับรู้รายได้จากเครื่องดื่มใหม่ที่ออกมาจำหน่ายในช่วงปลายไตรมาส 3/65 ประกอบกับในส่วนของรายได้จากการรับจ้างผลิตจะเริ่มเข้ามาในช่วงต้นไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป โดยที่บริษัทยังคงมั่นใจในความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย Traditional Trade และความเป็นแบรนด์ยอดนิยมครองใจคนไทยอันดับ 1 ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน พร้อมกับการขยายตลาดอาเซียนที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อผลักดันยอดขายในกลุ่มประเทศอาเซียนให้เติบโตขึ้นมาได้ตามแผนที่บริษัทวางไว้ โดยช่วงครึ่งปีแรกยอดขายในตลาดกัมพูชาและอินโดนีเซียกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงทั้งกำลังซื้อที่ฟื้นตัวและการทำการตลาดที่ดี รวมถึงการปรับปรุงพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มที่ถูกใจกับกลุ่มผู้บริโภค ภายใต้การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “3N” (New Product, New Market, New Business) เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนยอดขายในกลุ่มประเทศอาเซียน และหนุนยอดขายรวมของบริษัทให้ทำได้ตามเป้าหมายในปี 65 ที่ตั้งเป้าเติบโต 24% จากปีก่อน หรือมาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ขณะที่การขยายตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน ล่าสุดบริษัทได้นำเครื่องดื่มเข้าไปจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ในอาเซียน โดยนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเครือ SM และอยู่ระหว่างการรอดูผลตอบรับของตลาด …
อ่านเพิ่มเติม »