FORTH ทุ่มงบกว่า 339 ลบ.ซื้อที่ดินที่นครปฐมเกือบ 50 ไร่ เตรียมขยายธุรกิจ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

FORTH ทุ่มงบกว่า 339 ลบ.ซื้อที่ดินที่นครปฐมเกือบ 50 ไร่ เตรียมขยายธุรกิจ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 9 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 7%
  • Publisher: 68%

FORTH ทุ่มงบกว่า 339 ลบ.ซื้อที่ดินที่นครปฐมเกือบ 50 ไร่ เตรียมขยายธุรกิจ FORTH ฟอร์ทคอร์ปอเรชั่น หุ้นไทย อินโฟเควสท์

บมจ.

โดยจะทำรายการภายในไตรมาส 4 ปี 2565 ซึ่งแหล่งเงินมาจากกงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ ทั้งนี้ การซื้อที่ดินดังกล่าวเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัท

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

จุรินทร์ เล็งชงปรับสูตรไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 พยุงราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ : อินโฟเควสท์จุรินทร์ เล็งชงปรับสูตรไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 พยุงราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวในระหว่างเป็นประธานมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรและใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.พังงา ว่า ในช่วง 3 ปีที่ตนมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้ดำเนินนโยบายที่ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์มากที่สุด ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว โดยสมัยก่อนปาล์มน้ำมันราคาตกตลอด เพราะมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงห้ามนำเข้าปาล์มทางบก และส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์ม การปรับการใช้น้ำมัน B5 เป็น B7 และ B10 แต่ตอนหลังราคาปาล์มสูงมาก 12 บาท/กก.จึงต้องยกเลิก และอินโดนีเซียส่งเสริมการส่งออก แต่ขณะนี้ราคาปาล์มเฉลี่ยลงมาอยู่ที่ 6-8 บาท/กก. ตนเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 เพื่อให้ราคาปาล์มขยับขึ้น แต่ถ้าวันไหนราคาปาล์มต่ำก็จะมีการประกันรายได้ ส่วนยางพาราราคาดีขึ้นจากสมัยก่อน ขี้ยางเคยขึ้นไปถึง 23-30 บาท/กก. ตอนนี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 20 บาท ดีกว่าสมัยก่อนมาก น้ำยางข้น 57 บาท/กก. ยางแผ่นดิบ 60 บาท/กก. ซึ่งอยากให้ขึ้นมากกว่านี้ เอาไปทำยางรถยนต์และถุงมือยาง ก่อนหน้านี้เกิดโควิด-19 ทำให้ความต้องการถุงมือยางมากขึ้น ราคาน้ำยางขึ้น …
อ่านเพิ่มเติม »

'เอธิโอเปีย-ทิเกรย์' ตกลงเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ปชช.ในพื้นที่ขัดแย้ง : อินโฟเควสท์'เอธิโอเปีย-ทิเกรย์' ตกลงเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ปชช.ในพื้นที่ขัดแย้ง : อินโฟเควสท์สหภาพแอฟริกา (AU) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) ว่า กลุ่มผู้บัญชาการระดับสูงของรัฐบาลเอธิโอเปียและกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยประชาชนทิเกรย์ (TPLF) ตกลงที่จะอำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรมในการเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางตอนเหนือของประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริมให้ทุกคนในทิเกรย์และภูมิภาคใกล้เคียงสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้โดยไม่มีอุปสรรค ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะให้การรับประกันความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและองค์กรด้านมนุษยธรรม รวมถึงจะให้ความคุ้มครองพลเรือนตามบทบัญญัติของข้อตกลง “ยุติความเป็นปรปักษ์อย่างถาวร” ที่ลงนามโดยทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 2 พ.ย.อีกด้วย ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อดำเนินโครงการปลดอาวุธ ปลดประจำการ และการกลับคืนสู่สังคม (DDR) AU สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าดำเนินการตามข้อตกลงยุติความเป็นปรปักษ์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยุติความขัดแย้งและฟื้นฟูสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในเอธิโอเปีย ทั้งนี้ ประเทศเอธิโอเปียเผชิญความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกองกำลังพันธมิตรของรัฐบาลกับกองกำลังที่ภักดีต่อกลุ่ม TPLF มาตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยด่วน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

ตร.แนะ 16-19 พ.ย.เลี่ยงเส้นทางประชุมเอเปค/ปิดบริการ MRT ศูนย์ประชุมฯ/ห้ามชุมนุมป่วน : อินโฟเควสท์ตร.แนะ 16-19 พ.ย.เลี่ยงเส้นทางประชุมเอเปค/ปิดบริการ MRT ศูนย์ประชุมฯ/ห้ามชุมนุมป่วน : อินโฟเควสท์พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งว่า ในช่วงการประชุมเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.65 ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณโดยรอบศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบด้านการจาจร ได้แก่ 1.ถนนรัชดาภิเษก แยกอโศกมนตรี-แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ตลอดสาย ขอให้งดใช้ตลอด 24 ชม. 2.ถนนเพลินจิต (ขาเข้า), ถนนวิทยุ (ช่องทางหลัก) ตั้งแต่แยกเพลินจิต-แยกสารสิน, ถนนราชดำริ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่แยกราชประสงค์-แยกราชดำริ, ซอยต้นสนตลอดสาย และซอยร่วมฤดีตลอดสาย ขอให้งดใช้ช่วงเวลา ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. 3.จัดเดินรถทางเดียว (one way) ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ถนนราชดำริ (ขาออก) ตั้งแต่แยกราชดำริ-แยกราชประสงค์, ถนนวิทยุ (ขาออกช่องคู่ขนาน) ตั้งแต่แยกสารสิน-แยกเพลินจิต และถนนเพลินจิต (ฝั่งขวา) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต-แยกราชประสงค์ นอกจากนี้จะปิดให้บริการสถานี MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งดจอดรับส่งผู้โดยสารตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.65 …
อ่านเพิ่มเติม »

นายกฯ ย้ำให้อาเซียนร่วมกันกำหนดอนาคตของภูมิภาคที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน : อินโฟเควสท์นายกฯ ย้ำให้อาเซียนร่วมกันกำหนดอนาคตของภูมิภาคที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit: EAS) ครั้งที่ 17 โดยมีผู้นำหรือผู้แทนจากประเทศที่เข้าร่วมประชุม 17 ประเทศ พร้อมด้วย เลขาธิการอาเซียน, นายชาร์ล มีแชล ประธานคณะมนตรียุโรป (President of the European Council) และนายจาง หมิง เลขาธิการองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation-SCO) เพื่อทบทวนความร่วมมือในรอบปีที่ผ่านมา กำหนดทิศทางความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยสนับสนุนให้จัดการกับความท้าทายร่วมกันตามแนวคิดหลักของการเป็นประธานอาเซียนของกัมพูชา เพื่อกำหนดอนาคตของภูมิภาคที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดย EAS ถือเป็นส่วนสำคัญของสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง ในฐานะเวทีหารือเชิงยุทธศาสตร์ระดับผู้นำที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์ ซึ่งทุกประเทศล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพของภูมิภาค และโลกโดยรวม ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้ำแนวทาง 3 ประการ เพื่อกำหนดอนาคตของภูมิภาคที่มั่นคง …
อ่านเพิ่มเติม »

โมซัมบิกประกาศส่งออกก๊าซ LNG เป็นครั้งแรก คาดช่วยบรรเทาวิกฤตฤดูหนาวในยุโรป : อินโฟเควสท์โมซัมบิกประกาศส่งออกก๊าซ LNG เป็นครั้งแรก คาดช่วยบรรเทาวิกฤตฤดูหนาวในยุโรป : อินโฟเควสท์นายฟิลิเป นิวซี ประธานาธิบดีของโมซัมบิกแถลงในวันนี้ (13 พ.ย.) ว่า โมซัมบิกเริ่มการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจช่วยบรรเทาวิกฤตพลังงานของยุโรปในขณะที่รัสเซียยุติการจัดส่งพลังงาน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เรือบริติชสปอนเซอร์เดินทางมาถึงน่านน้ำทางเหนือของโมซัมบิกเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ซึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากที่เรือคอรัล-ซูลโฟลตติงแอลเอ็นจี (Coral-Sul Floating LNG) ของบริษัทเอนีเริ่มผลิตก๊าซ LNG ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทบีพี ซึ่งมีสิทธิ์ซื้อผลผลิตทั้งหมดของคอรัล-ซูลนั้น จอดเรือครั้งแรกอยู่ที่แท่นผลิตเมื่อวันที่ 23 ต.ค. แท่นผลิตดังกล่าวมีกำลังการผลิต LNG 3.4 ล้านตันต่อปี ซึ่งเท่ากับประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณนำเข้า LNG ของสหราชอาณาจักรในปีที่แล้ว โดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านน้ำมันและก๊าซของโมซัมบิกกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า LNG คาร์โกแรกจะถูกส่งไปยังยุโรป สำหรับหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกอย่างโมซัมบิก การส่งออกครั้งนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการรอคอยมานานนับทศวรรษที่จะได้สร้างรายได้จากแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา โดยครั้งหนึ่งเคยเป็นที่คาดการณ์ว่าจะดึงดูดการลงทุนได้ถึง 1.2 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะใช้พลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้ โรงผลิตก๊าซบนฝั่งมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์แต่ละแห่งที่บริษัทโททาลเอนเนอร์ยี่ส์และเอ็กซอนโมบิลวางแปลนไว้มีมูลค่ามากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของโมซัมบิก อย่างไรก็ดี ทั้งสองแห่งต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราวเพราะเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ อนึ่ง สงครามที่เริ่มต้นในปี 2560 …
อ่านเพิ่มเติม »

สธ.เผยคนติดเชื้อโควิดเพิ่มจากสัปดาห์ก่อน 12.8% คาด 2-4 สัปดาห์ผู้ป่วยหนักพุ่งตาม : อินโฟเควสท์สธ.เผยคนติดเชื้อโควิดเพิ่มจากสัปดาห์ก่อน 12.8% คาด 2-4 สัปดาห์ผู้ป่วยหนักพุ่งตาม : อินโฟเควสท์นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยในสัปดาห์ที่ 45 มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 12.8% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตยังมีแนวโน้มคงตัว ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ในช่วงเริ่มต้นการระบาดครั้งใหม่ที่มีลักษณะเป็น Small wave หลังจากการปรับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 โดยคาดว่าในอีก 2-4 สัปดาห์ข้างหน้าจำนวนผู้ป่วยอาการหนักจะเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยที่เริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ติดตามข้อมูลเฝ้าระวังโรคจากทั้งผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล รวมทั้งผู้ป่วย หรือผู้ติดเชื้อที่ดูแลอาการตนเองที่บ้านผ่านทางระบบการรายงานโดย สปสช. และดำเนินการเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงใน 8 จังหวัด เริ่มพบผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งจังหวัดส่วนใหญ่รับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติเพิ่มขึ้น และมีการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมากขึ้นด้วย แม้ว่าผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ที่ 45 (วันที่ 6-12 พ.ย.65) มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่ไม่รับวัคซีนโควิด-19 และไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค หากติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสป่วยหนักได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย และผู้ที่มีโรคประจำตัว …
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-17 04:01:25