ETDA รุกหนักปี 66 ลุยเพิ่มความสามารถแข่งขันทาง ดิจิทัล ขับเคลื่อนศก.ไทย อินโฟเควสท์
ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA มีเป้าหมายในการทำงานในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยโจทย์ 30:30 คือ การเพิ่มสัดส่วนมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP เป็น 30% และวางเป้าให้ไทยเป็น 30 อันดับแรกของโลกที่มีความสามารถการแข่งขันทางดิจิทัล โดยมียุทธศาสตร์ในการเติมเต็มอนาคตธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของไทย คือต้องเกิดการประยุกต์ใช้กลไกการกำกับดูแล Digital Platform ภายใต้มาตรฐาน แนวทางปฏิบัติ เกณฑ์การกำกับที่จำเป็น...
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพชีวิตดิจิทัลของคนไทยให้ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน ETDA จึงเดินหน้าจัดงานใหญ่ ครั้งแรกกับงาน Digital Governance Thailand หรือ DGT 2023 ภายใต้คอนเซปต์ Happiness Creation ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ สามย่านมิตรทาวน์ นับเป็นมหกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะรวมพลพาร์ทเนอร์ด้านดิจิทัลจากทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อมาร่วมขับเคลื่อนและร่วมสร้างสรรค์ให้ชีวิตดิจิทัลของคนไทย….
การผลักดัน National Strategic plan เร่งเครื่องธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ผ่าน ร่างแผนยุทธศาสตร์ธุรกรรมฯชาติปี 66-70, การคาดการณ์อนาคตระยะ 10 ปี โดยศูนย์ Foresight Center by ETDA เพื่อหาแนวทางหรือข้อเสนอแนะเพื่อเตรียมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นการส่งเสริมให้เกิด Digital ID Ecosystem รองรับการใช้งาน Digital ID ในวงกว้าง ผ่านการเตรียมทั้งร่างกฎหมายมาตรฐาน ตลอดจนแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับ Digital ID และการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเห็นตัวอย่างการใช้งาน Digital ID ในปัจจุบัน ด้วยแคมเปญ MEiD...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
B เล็งออกหุ้นกู้ 1 พันลบ.รองรับขยายธุรกิจปี 66 ชงแผนเข้าบอร์ดเร็วๆนี้ : อินโฟเควสท์นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บี จิสติกส์ (B) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้วงเงิน 1 พันล้านบาทในปี 66 รองรับแผนขยายธุรกิจหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2565 มีมติอนุมัติ ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อกำหนดแผนธุรกิจในปีหน้าเพื่อผลักดันผลประกอบการให้เติบโตก้าวกระโดด สำหรับทิศทางธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 65 ผลประกอบการน่าจะมีกำไรสุทธิเกิดขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/65 ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่ม B มีแนวโน้มสดใส หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลง โดยปัจจุบันรถหัวลากที่เป็นของบริษัท 66 คัน รวมทั้งรถหัวลากจากซับคอนแทรคที่เป็นพันธมิตรเข้ามาเสริมกองรถอีกประมาณ 100 คน ได้ให้บริการขนส่งลูกค้าเต็มกำลัง 100% ปัจจุบันบริษัทได้ขยายฐานลูกค้าขนส่งไปในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเหล็ก กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก กลุ่มเครื่องดื่มรายใหญ่ที่ขนส่งทั้งในประเทศและส่งออก รวมทั้งขนส่งข้าวสาร ล่าสุดบริษัทได้จับมือกับกลุ่มคลังสินค้าหรือ Wearhouse เพื่อให้บริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น “กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งจะโดดเด่นมากในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ รถหัวลากที่เรามีอยู่และซับคอนแทรค มีการใช้งานเต็มกำลัง100% ขณะที่มาร์จินยังอยู่ในระดับสูงประมาณ 15% เนื่องจากเรามีระบบบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ได้มีการนำยานยนต์ขนส่งพลังงานไฟฟ้า หรือ CYBER TRUCK มาใช้ขนส่งวัตถุดิบและสินค้าภายในโรงงาน …
อ่านเพิ่มเติม »
วงเสวนา มองส่งออกไทยปี 66 อ่อนแรงท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง แต่ยังเห็นโอกาส : อินโฟเควสท์นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก กล่าวในการสัมมนาหัวข้อ “ส่องส่งออก 2566 ทรง หรือ ทรุด” โดยมองว่า ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกในปีนี้ ที่อาจยังดำเนินต่อเนื่องไปในปี 66 ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ, ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ค่าเงิน นโยบายการเงิน, ปัญหาทางสังคม เช่น การระบาดของโควิด-19, ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และปัญหากฎระเบียบ-มาตรการกีดกันทางการค้านั้น แต่ สรท. ประเมินว่าการส่งออกของไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้ 2-3% ที่มูลค่าประมาณ 3.03 – 3.04 แสนล้านดอลลาร์ โดยสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารจะเป็นพระเอกหลัก และเชื่อว่าการส่งออกจะยังเป็นกลไกสำคัญหนึ่งที่ช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีหน้า พร้อมมองว่า ปัจจัยภายนอกที่มีความผันผวน ควบคุมได้ยาก และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ผู้ส่งออกจะต้องวางกลยุทธ์ในรูปแบบใหม่ เพราะการทำงานในรูปแบบเดิมจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ การจำหน่ายสินค้าต้องปรับรูปแบบจาก Offline มาเป็นแบบ Online มากขึ้น รวมทั้งการทำ Online Business Matching ด้วย ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยน ถือว่ายังประเมินได้ยากว่าจะไปในทิศทางใด …
อ่านเพิ่มเติม »
KBANK คาดเงินบาทปี 66 แข็งค่าในกรอบ 33.50-34.00 หลังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย-ท่องเที่ยวหนุน : อินโฟเควสท์นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวในงานสัมมนา “Economic Outlook Thailand Forecast” ได้ปรับเป้าหมายเงินบาทปี 65 เป็น 35.25 บาท/ดอลลาร์ จากเดิมที่คาด 37.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดการเงิน มีความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยช้าลง และมีลุ้นว่าอาจจะต้องปรับดอกเบี้ยลงภายในปีหน้า ซึ่งการคาดการณ์นี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง ทำให้คาดว่าเงินบาทปี 66 มีทิศทางแข็งค่าขึ้น โดยให้กรอบที่ 33.50-34.00 บาท/ดอลลาร์ “ช่วง 2-3 เดือนหลังจากนี้เงินบาทอาจแกว่งตัว และหลังเดือนมี.ค. จะได้เห็นเงินบาทแข็งค่าชัดเจนมากขึ้น จากการท่องเที่ยวที่เข้ามา แต่อย่างไรก็ตามเงินบาทคงไม่ได้แข็งค่าแบบก้าวกระโดด” นายกอบสิทธิ์ กล่าว ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทปี 66 คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 66 สูงขึ้น แม้ว่าทั่วโลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยคาดว่าปีหน้านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาไทยถึง 20 ล้านคน โดยเฉพาะความหวังจากนักท่องเที่ยวจีน ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยก็จะดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและแรงกดดันที่ลดลงจากราคาพลังงาน …
อ่านเพิ่มเติม »
ETDA ลุยปิดช่องโหว่ ความท้าทาย ดันคนไทยสู่ชีวิตดิจิทัลETDA เปิดผลงานเด่นรอบปี 2565 ผ่าน 5 งานไฮไลท์ ประกาศปี 66 เดินหน้าก้าวผ่านทุกช่องโหว่ ความท้าทาย ตั้งเป้า “ประเทศ ผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐ ประชาชน ชีวิตต้องดีกว่าที่เคย…เมื่อมีดิจิทัล”
อ่านเพิ่มเติม »
'บิ๊กตู่' ปลื้ม มิชลินไกด์ ยกไทย “ดินแดนสวรรค์ด้าน Street Food”นายกฯ สุดปลื้ม “มิชลินไกด์” ประเทศไทย ประจำปี 66 เลือกร้านอาหาร-Street Food ไทย กว่า 189 ร้าน ยกไทยเป็น “ดินแดนสวรรค์ด้าน Street Food” ฐานเศรษฐกิจ
อ่านเพิ่มเติม »
กพช. เคาะ 3 แนวนโยบายบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ มุ่งลดภาระค่าไฟช่วงม.ค.-เม.ย.66 : อินโฟเควสท์นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน โดยมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวนโยบายการบริหารจัดการก๊าซฯ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน (ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 66) ดังนี้ 1.การบริหารก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้า โดยจัดสรรก๊าซฯ จากอ่าวไทยหลังโรงแยกก๊าซฯ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยก่อน ในปริมาณที่ไม่เพิ่มภาระอัตราค่าไฟฟ้าจากปัจจุบัน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่า Ft สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และมอบหมายให้ กกพ. เร่งศึกษาการจัดทำอัตราค่าไฟฟ้ากลุ่มประเภทบ้านอยู่อาศัยที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงาน 2. กพช.ได้ขอความร่วมมือจาก บมจ. ปตท. (PTT) ให้พิจารณาจัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 66) มาช่วยสนับสนุนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยแบ่งการจัดสรร ดังนี้ …
อ่านเพิ่มเติม »