EM ยังสำคัญอยู่ไหม? นักกิจกรรมยื่นศาลขอถอดกำไล EM ตามรอย 'พิ้งกี้' อ่านเพิ่มเติมได้ที่ TNN TNNThailand TNNช่อง16 TNNONLINE
ภายหลัง ‘น.ส.สาวิกา ไชยเดช’ หรือ ‘พิ้งกี้’ ดารานักแสดงชื่อดัง และเป็นจำเลยที่ 7 คดีมหากาพย์ FOREX-3D แชร์ลูกโซ่พันล้าน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้มีคำสั่งอนุญาตปลดกำไล EM เนื่องจากความสะดวกในการรับงานแสดงและการเดินทาง ต่อมาศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปลดกำไล EM ตามคำขอกรณีดังกล่าวส่งผลให้ผู้ต้องหารายอื่น ประสงค์ยื่นศาลเพื่อขอถอดกำไล EM ตามรอยนักแสดงสาว โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ตั้งแต่เดือน มี.ค. ปี 2561 เป็นต้นมา กระทรวงยุติธรรมและศาลยุติธรรม เริ่มนำกำไล “EM” มาใช้เป็นเครื่องติดตามตัว และใช้แทนการวางหลักทรัพย์จำนวนมากสำหรับประกันตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาและคดียาเสพติด เพื่อให้คนที่ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจสามารถเข้าถึงสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการต่อสู้คดีต่างๆ ได้
การถอดกำไล EM อาจทำให้เกิดกระแสความกังวลในการติดตามผู้ต้องหาในอนาคต แต่อีกด้านก็มีความเห็นแย้งว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 29 วรรค 2 ที่ระบุว่า"ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” หรือเรียกว่า หลักการ presumption of innocence นั่นเอง ซึ่งเป็นการย้ำว่า ผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ต้องปฏิบัติต่อผู้นั้นเหมือนเป็นผู้บริสุทธิ์ตลอดกระบวนการ...