DV รวมพาร์-ลดพาร์เหลือ 60 สต.ใช้ทุนสำรอง-ส่วนล้ำมูลค่าหุ้นแก้ขาดทุนสะสม DV8 ดีวี8 หุ้นไทย อินโฟเควสท์
บมจ.ดีวี 8 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติแผนการรวมหุ้นและลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม โดยให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นบริษัท โดยการรวมหุ้น จากเดิมหุ้นละ 1.00 บาท เป็น 2.00 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นลดลง 715,208,096 หุ้น จากเดิม 1,430,416,192 หุ้น พาร์ 1.00 บาท เป็นจำนวน 715,208,096 หุ้น พาร์ 2.
และขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น โอนทุนสำรองตามกฎหมาย และส่วนล้ำมูลค่าหุ้น รวม 1,500,411,835.31 บาท เพื่อชดเชยส่วนต่ามูลค่าหุ้น ส่วนลดมูลค่าหุ้นสำหรับหนี้แปลงสภาพเป็นทุน และผลขาดทุนสะสมของบริษัท รวมจำนวน 2,510,895,235.49 บาท ตามงบการเงินเฉพาะกิจการที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.65 ภายหลังจากการโอนทุนสำรองตามกฎหมาย และส่วนล้ำมูลค่าหุ้นแล้วบริษัทจะไม่มีส่วนต่ำมูลค่าหุ้น และส่วนลดมูลค่าหุ้นสำหรับหนี้แปลงสภาพเป็นทุนอีก แต่ยังมีผลขาดทุนสะสมคงเหลือ 1,010,483,400.18 บาท อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นเพียงการหักลบตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น
จากนั้น บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจำนวน 1,001,291,334.40 บาท จากเดิม 1,430,416,192.00 บาท เป็น 429,124,857.60 บาท โดยการลดพาร์จาก 2.00 บาท เป็น 0.60 บาท เพื่อลดทุนจำนวน 1,001,291,334.40 บาท มาชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทที่เหลืออยู่ 1,010,483,400.18 บาท โดยจำนวนหุ้นสามัญยังคงเท่าเดิม 715,208,096 หุ้น ภายหลังการดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะยังมีผลขาดทุนสะสมคงเหลือ 9,192,065.78 บาท
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
อาการน่าเป็นห่วง! นิกร ชี้ยุบสภาอาจไม่ได้อยู่แค่ที่นายกฯ : อินโฟเควสท์นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ห่วงบรรยากาศสภาที่ไม่แน่นอน เกรงจะเกิดเหตุให้ต้องยุบสภา และให้ ส.ส.เร่งทำงาน ว่า เห็นด้วยกับนายชวนว่าเป็นสภาวะที่น่าเป็นห่วง ในขณะที่ส.ส. เองก็ห่วงเรื่องการเมืองด้วย เพราะการเมืองคือการเมือง สภาคือสภา อีกทั้งเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นในสภาจึงจะมีปัญหา ซึ่งจะไปโทษ ส.ส.ไม่ได้ เพราะเขาต้องเตรียมการเพื่อการเลือกตั้ง ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่จึงต้องรักษาสถานะความเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ส่วน ส.ส.ที่กำลังคิดจะย้ายพรรคนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพียงแต่ครั้งนี้จะเกิดขึ้นมากกว่า เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง จึงมีแรงส่งทำให้เกิดการเคลื่อนไหวย้ายพรรคกันอีกมากและมากกว่าปกติ พร้อมมองว่า การที่จะมี ส.ส. ลาออกเป็นจำนวนมากจึงอาจเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งจะทำให้สภามีปัญหาเรื่ององค์ประชุมได้ “เมื่อทราบว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการลาออก เพื่อไปเตรียมการในการเลือกตั้งในนามพรรคใหม่ ซึ่งจำนวนส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในสภาจะลดลง ถ้ากึ่งหนึ่งก็พอประคองได้ แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลลดไปมากจะมีปัญหา เสียงของรัฐบาลจะไม่พอสู้กับฝ่ายค้าน จะลำบาก ปริ่มน้ำ ทำให้มีปัญหามากในสภา สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเองโดยที่คอนโทรลไม่ได้” นายนิกร กล่าว พร้อมระบุว่า ถ้าสภายังล่มอยู่แบบนี้ การพูดถึงการยุบสภามันก็มี เพราะสภาไม่ฟังชั่น ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น แต่จะมีปัญหาที่สาหัสอยู่มาก คือกฎหมายลูก …
อ่านเพิ่มเติม »
ถอดบทเรียน! โควิด-19 ไม่มีวัคซีนเทพ เป็นแล้วเป็นอีกได้ ความรุนแรงลดลง : อินโฟเควสท์นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า บทเรียนโควิด-19 ที่ได้จากระยะเวลาที่ผ่านมา 3 ปี ดังนี้ 1. โรคโควิด-19 เป็นแล้วเป็นอีกได้ การติดเชื้อซ้ำ หรือมีอาการของโรคซ้ำ เกิดขึ้นได้ เหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ RSV ไม่เหมือนกับโรคหัด ตับอักเสบ เอ สุกใส ที่เมื่อติดเชื้อแล้วจะมีภูมิต้านทานป้องกันโรคตลอดชีวิต 2. ภูมิคุ้มกันหมู่ที่มีการพูดกันมาก ในระยะแรก เพื่อหวังจะยุติการระบาดของโรค ไม่สามารถใช้ได้กับโควิด-19 ถึงแม้ว่าประชาชนเกือบทั้งหมดมีภูมิต้านทาน โรคก็ยังเกิดอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้หายไปไหน 3. โรคโควิด-19 จะเป็นโรคตามฤดูกาล สำหรับประเทศไทยจะมีจุดสูงสุดของการระบาดในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน และช่วงที่ 2 ในกลางเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ แต่จะน้อยกว่าในช่วงแรก 4. ความหวังที่จะใช้วัคซีนในการยุติการระบาดของโรค หรือควบคุมการระบาด อย่างในปีแรกที่คาดหวัง จึงไม่สามารถใช้ได้ 5. วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่มีวัคซีนตัวไหนเป็นวัคซีนเทพ อย่างที่ตอนแรกทุกคนเรียกร้อง วัคซีนทุกตัวไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ลดความรุนแรงของโรคลง ลดอัตราการเสียชีวิต 6. …
อ่านเพิ่มเติม »
น้ำมัน WTI พุ่งกว่า 1% รับข่าวท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนยังปิดทำการ-จีนผ่อนคลายโควิด : อินโฟเควสท์ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 1% ในช่วงเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน (Keystone) ในอเมริกาเหนือยังคงปิดทำการ รวมทั้งการที่จีนเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ณ เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.15% แตะที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล บริษัททีซี เอนเนอร์จี (TC Energy) ของแคนาดาแถลงว่า ทางบริษัทกำลังพยายามซ่อมแซมรอยรั่วของท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนซึ่งยังคงปิดทำการอยู่ในขณะนี้ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกลับมาดำเนินการได้เมื่อใด โดยคีย์สโตนเป็นท่อส่งน้ำมันจากรัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดาไปยังแถบกัลฟ์โคสต์และมิดเวสต์ของสหรัฐ ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขู่ว่ารัสเซียอาจจะปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อตอบโต้ต่อการที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย “ในการตอบโต้ชาติตะวันตก เราจะไม่ขายน้ำมันให้แก่ประเทศที่เข้าร่วมมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่เราจะปรับลดกำลังการผลิต หากมีความจำเป็น โดยเรามีข้อตกลงกับโอเปกพลัสเกี่ยวกับเป้าหมายการผลิต และเราอาจจะออกมาตรการตอบโต้เพิ่มเติม หากจำเป็น” ปธน.ปูตินกล่าว ทั้งนี้ ปธน.ปูตินกล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียกำลังเตรียมการสำหรับทางเลือกอื่น ๆ ในการตอบโต้ชาติตะวันตก และจะมีการออกกฤษฎีกาในไม่ช้าสำหรับมาตรการขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง …
อ่านเพิ่มเติม »
พบโควิด-19! เปิดผลสอบชายไทยเสียชีวิตบนเครื่องบินขณะกลับไทย : อินโฟเควสท์นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตบนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมกับฝ่ายแพทย์การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สอบสวนโรคพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 71 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2 เข็ม และไม่ได้รับการฉีดกระตุ้นเข็มที่สาม นอกจากนี้ยังได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น โดยญาติผู้เสียชีวิตปฏิเสธการแพ้ยา และผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางไปแสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียพร้อมสมาชิกครอบครัวรวม 5 คน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ขณะอยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย 3 วันก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ผู้เสียชีวิตมีอาการหอบหืด เหนื่อย ไอ จึงรักษาตามอาการ เมื่อถึงกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ก่อนขึ้นเครื่องบินผู้เสียชีวิตมีอาการอ่อนแรง ต้องนั่งรถเข็นมาส่งหน้าประตูเครื่องบิน หลังจากนั้นขณะอยู่บนเครื่อง …
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแววฟื้นตัวปีหน้า รับอานิสงส์เงินเฟ้อผ่านจุดพีก-เฟดผ่อนคันเร่งขึ้นดบ. : อินโฟเควสท์ผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก ซึ่งรวมถึงแบล็คร็อค อิงค์, โกลด์แมน แซคส์ แอสเซท แมเนจเมนท์ และอมุนดิ เอสเอ (Amundi SA) ต่างก็คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2566 เมื่อพิจารณาจากมุมมองที่ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การสำรวจดังกล่าวจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก โดยพบว่า 71% ของผู้จัดการกองทุนที่ได้รับการสำรวจครั้งนี้เชื่อมั่นว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวในปี 2566 และมีเพียง 19% เท่านั้นที่คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะอ่อนแรงลงในปีดังกล่าว ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 10% ในปี 2566 ซึ่งสอดคล้องกับสถิติการฟื้นตัวโดยเฉลี่ยของดัชนี MSCI All-Country World Index อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าในปี 2552 และปี 2562 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 30% และ 20% ตามลำดับ ผู้จัดการกองทุนที่เข้าร่วมการสำรวจต่างก็มองว่า ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกนั้น คือการที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน ขณะเดียวกันคาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจต่อเหตุการณ์สำคัญหลายเหตุการณ์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐ …
อ่านเพิ่มเติม »
'เยลเลน' คาดเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวชัดเจนปีหน้า มั่นใจศก.เลี่ยงภาวะถดถอยได้ : อินโฟเควสท์นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 Minutes” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสในวันอาทิตย์ (11 ธ.ค.) ว่า เธอยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างมากภายในสิ้นปี 2566 “หากเศรษฐกิจโลกไม่เผชิญวิกฤตการณ์รุนแรง ดิฉันก็เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะลดลงอย่างมากภายในสิ้นปี 2566” นางเยลเลนกล่าว นอรา โอดอนเนลล์ ผู้ดำเนินรายการ 60 Minutes กล่าวกับนางเยลเลนว่า “ผู้นำในภาคธุรกิจต่างก็เตือนให้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่านทราบเรื่องนี้หรือไม่ และท่านมีความเห็นอย่างไร” ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า “มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอย แต่ในมุมมองของดิฉันแล้ว ดิฉันเชื่อว่าสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ได้ จริงอยู่ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด และภาคธุรกิจก็เห็นสิ่งนี้ด้วย แต่เมื่อมองในอีกด้านหนึ่งนั้น เศรษฐกิจของเราฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การเติบโตทางเศรษฐกิจของเราอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยเรามีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทำให้ประชาชนมีงานทำอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ในการฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงนั้น การทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในทางใดทางหนึ่ง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน” นางเยลเลนเคยดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปี 2557-2561 โดยที่ผ่านมานั้น เธอมั่นใจว่าคณะกรรมการเฟดภายใต้การนำของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคนปัจจุบัน จะสามารถใช้นโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอย การแสดงความเห็นของนางเยลเลน มีขึ้นก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ในวันพรุ่งนี้ (13 …
อ่านเพิ่มเติม »