CK งานท่วมปีนี้ลุ้นทะลุ 2 แสนล้านแม้โครงการรัฐชะลอ วางเป้ารายได้งานก่อสร้างโต 10% BEM CK CKP ชการช่าง ซีเคเพาเวอร์ ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล รองประธานกรรมการ บมจ.ช.การช่าง เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปี 66 จะมีงานในมือ เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มี Backlog แล้ว 6 หมื่นล้านบาท แม้จะมองว่าโครงการก่อสร้างของภาครัฐน่าจะชะลอตัว เพราะอยู่ในช่วงเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จึงคาดว่าจะมีจำนวนโครงการภาครัฐออกมาประมูลไม่มาก
ในไตรมาส 2/66 CK คาดว่าจะได้รับงานก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบางที่ สปป.ลาว มูลค่างานประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาท และหากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเซ็นสัญญาได้ก็จะมีงานเข้ามาเพิ่มอีกราว 9 หมื่นล้านบาท จะทำให้ในปีนี้ Backlog ของบริษัทขึ้นไปทะลุ 2 แสนล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 6-7 ปีจากนี้ “งานภาครัฐน่าจะชะลอจากการเลือกตั้ง คิดว่าเปิดประมูลไม่เยอะ แต่เพราะ ช.การช่วงมีโมเดลธุรกิจทำให้เรามีงานในมือต่อเนื่อง ไม่ต้องพึ่งพางานภาครัฐอย่างเดียว”
ทั้งนี้ บมจ.ซีเคเพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CK ถือหุ้น 30%) เป็นเจ้าของงานเขื่อนหลวงพระบาง ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ บริษัทลูก CK ซึ่งถือหุ้น 32.37% เป็นผู้ชนะการประมูล อยู่ระหว่างรอลงนามสัญญากับภาครัฐ นายพงษ์สฤษดิ์ กล่าวว่า สำหรับรายได้จากงานก่อสร้างในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้จากงานก่อสร้าง 1.8 หมื่นล้านบาท โดยงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และรถไฟทางคู่ก็เริ่มรับรู้มากขึ้นตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงรักษาไว้ที่ 7-8% ใกล้เคียงปีก่อน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ดัชนี SET ภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุดตามตปท.ตอบรับถ้อยแถลงปธ.เฟด จับตาแนวรับ 1,600 : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงไปมากกว่า 10 จุดตามตลาดต่างประเทศ ทั้งภูมิภาคเอเชีย และตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลง หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่าเฟดจะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง แต่ยังต้องการให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับเป้าหมาย โดยเช้านี้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา อาทิ SCB BBL KBANK SCC เป็นต้น เมื่อเวลา 9.59 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,605.15 จุด ลดลง 13.36 จุด (-0.83%) นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดมาร่วงลงไปกว่า 10 จุดตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศตอบรับแรงกดดันถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ระบุว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อทำให้เงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นบ้านเรามีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปออกมากดดันอย่างมากมาทำให้ดัชนีกลับมาร่วงลงแรง ซึ่งยังต้องลุ้นว่าดัชนีจะยังสามารถยืนเหนือ 1,600 จุดซึ่งเป็นแนวรับแรกได้หรือไม่ หากหลุดระดับดังกล่าวมีโอกาสไหลลงต่อ โดยให้แนวรับถัดไปที่ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,615 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 […]
อ่านเพิ่มเติม »
ออสซี่ส่งสัญญาณใกล้ระงับวงจรขึ้นดอกเบี้ย หลังปรับขึ้นต่อเนื่อง 10 ครั้ง : อินโฟเควสท์นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยในวันนี้ว่า RBA ใกล้จะระงับวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก เนื่องจากปัจจุบันนโยบายการเงินของ RBA อยู่ในระดับที่คุมเข้มมากพอแล้ว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า RBA อาจจะระงับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุดในการประชุมเดือนเม.ย.นี้ นายโลว์ย้ำว่า มีความเป็นไปได้ที่ RBA จะยังคงใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากเพิ่งประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี นายโลว์ระบุว่า คณะกรรมการ RBA ได้หารือกันเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 10 ครั้ง และผลกระทบของต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นของภาคครัวเรือน “เรายังได้หารือกันว่า ด้วยนโยบายการเงินที่อยู่ในระดับคุมเข้มแล้วในขณะนี้ ทำให้เรามองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ชั่วคราว เพื่อให้คณะกรรมการ RBA มีเวลามากขึ้นในการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ ส่วนการจะระงับการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่จุดใดนั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลและการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจของเรา” นายโลว์กล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในระหว่างการตอบคำถามหลังการแถลงดังกล่าว นายโลว์กล่าวว่า คณะกรรมการ RBA พร้อมที่จะตอบสนองต่อปัจจัยต่าง ๆ แบบเดือนต่อเดือน และหากข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุนการระงับวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย RBA ก็จะทำเช่นนั้นในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 เม.ย. […]
อ่านเพิ่มเติม »
จีนร้อนทะลุปรอท อุณหภูมิสูงกว่าปกติเกิน 10 องศาฯ : อินโฟเควสท์เมืองใหญ่ต่างๆ ของจีนมากกว่า 10 เมืองเผชิญอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ โดยเมืองอู่ฮั่นและเมืองเจิ้งโจว ทางตอนกลางของประเทศ มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติมากกว่า 10 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย อู่ฮั่น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของแม่น้ำแยงซี มีอุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียสเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มี.ค. ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในระยะยาวของช่วงต้นเดือนมี.ค.ถึง 12 องศาเซลเซียส ในขณะที่กรุงปักกิ่งและเมืองบริเวณรอบ ๆ มีอุณหภูมิแตะที่ 22 – 25 องศาเซลเซียสในช่วงต้นสัปดาห์นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (8 มี.ค.) ว่า จีนประสบปัญหาอากาศร้อนจัดเป็นระยะเวลาหลายเดือนเมื่อปีที่แล้ว โดยสถานีตรวจอากาศ 267 แห่ง วัดอุณหภูมิได้เกิน 40 องศาเซลเซียสในช่วงหน้าแล้ง 70 วัน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงทำลายสถิติ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มแม่น้ำแยงซีทั้งหมด โดยก่อให้เกิดไฟป่าและสร้างความเสียหายแก่พืชไร่ ทางด้านมณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งสำคัญ กำลังตกอยู่ท่ามกลางภาวะภัยแล้งที่อาจยืดเยื้อไปจนถึงเดือนเม.ย. โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่าปริมาณปกติถึงกว่า 60% นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนได้ประกาศเตือนแล้วว่า ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่รุนแรงอีกปีในปี 2566 อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก […]
อ่านเพิ่มเติม »
MAKRO เป้ารายได้ปี 66 โตกว่า 10% ตาม SSSG ค้าส่ง-ค้าปลีกฟื้น ทุ่มลงทุน 2.5-2.7 หมื่นลบ. : อินโฟเควสท์นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตกว่า 10% ทะลุ 5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 4.69 แสนล้านบาท เป็นไปตามยอดขายต่อสาขา (SSSG) ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ตอบรับผลดีจีนเปิดประเทศหนุนการท่องเที่ยวฟื้นส่งผลดีต่อกำลังซื้อเร่งตัวขึ้น บริษัทเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่ต้นปี เนื่องจาก SSSG ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.66 ในส่วนของธุรกิจค้าส่ง (Wholesale) เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือมากกว่า 10% เชื่อว่าเป็นผลจากในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มความสามารถให้บริการจัดส่งสินค้าแก่ร้านของลูกค้าสูงขึ้นถึง 3 เท่า ขณะที่ ธุรกิจค้าปลีก (Retail) การเติบโตยังเป็นตัวเลขหลักเดียว แต่ในช่วงปลายเดือนก.พ.ถึงต้นเดือนมี.ค. ยอดขายเริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีก เชื่อว่าการเติบโตน่าจะสอดคล้องไปกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย บวกกับอัตราเงินเฟ้อรวมกันไม่น่าเกิน 6% กลยุทธ์หลักของบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาการใช้พื้นที่ร้านค้าปลีกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่คาดว่าพื้นที่เช่าจะเติบโต 6% โดยบริษัทตั้งเป้าอัตราการใช้พื้นที่กลับมาให้เท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่ทำได้ราว 95% ซึ่งร้านค้าปลีกในไทยมีเป้าหมาย […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: 'เศรษฐา' แจ้งเว้นวรรคตำแหน่งนายใหญ่ SIRI ชั่วคราว มุ่งหน้าลุยการเมืองเต็มสูบ : อินโฟเควสท์นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่อนจดหมายถึงพนักงานเครือ บมจ.แสนสิริ (SIRI) แจ้งการตัดสินใจลางานชั่วคราวโดยไม่รับค่าตอบแทน เพื่อทุ่มเทให้กับหน้าที่ใหม่ คือ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ระบุว่า การทำหน้าในหน้าที่ใหม่จะเป็นโอกาสที่จะช่วยผลักดันประเทศไทยให้ดีขึ้นในเชิงโครงสร้างและนโยบาย และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งใจนำประสบการณ์ความรู้ความสามารถมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มุ่งไปข้างหน้า เร่งพัฒนาให้ประเทศไทยกลับมายิ่งใหญ่ในสายตาประชาคมโลก และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสังคมและโอกาส ซึ่งปรากฏมากขึ้นเหลือเกินในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับคนไทยทุกคนรวมถึงแขกที่จะมาเยือนจากทั่วโลก “ผมขอฝากแสนสิริ ไว้ในมือของผู้บริหารและเพื่อพนักงาน ผมเชื่อมั่นในความสามารถและประสบการณ์ของพวกเราทุกคนที่จะขับเคลื่อนให้แสนสิริก้าวตอ่ไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง…ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าผู้บริหาร และ เพื่อนพนักงานจะให้การสับสนุนความตั้งใจของผมในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าประเทศไทยคืออนาคตของพวกเราทุกคน” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: เพื่อไทย ประกาศชัดขอเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ปักธงแลนด์สไลด์ 310 ที่นั่ง : อินโฟเควสท์นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ว่า ประเทศไทย ณ วันนี้ถือเป็นจุดต่ำสุด อยู่ในภาวะวิกฤต ไร้ทิศทาง ประชาชนไร้อนาคต มืดมน หมดหวัง มีแต่ความทุกข์ยาก ความยากจน เป็นหนี้ ทุกข์ เศร้า ทั้งหมดคือภาพสะท้อนของประเทศไทย ดังนั้น ต้องมีจุดเปลี่ยนจากวิกฤติเหล่านี้ ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ พร้อมประกาศ 2 หมุดหมายสำคัญของพรรคเพื่อไทย ได้แก่ หมุดหมายแรก จากที่เคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายชนะเลือกตั้งถล่มทลายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พรรคเพื่อไทยต้องได้ ส.ส. มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อวางแนวทางชนะ ส.ว. 250 คน แต่ถึงเวลานี้ เราไม่กังวลกับหน้าที่และอำนาจของ ส.ว.อีกต่อไป เพราะเรามั่นใจว่าผ่านจุด 250 เสียงขึ้นมาแล้ว หมุดหมายที่สอง พรรคเพื่อไทยต้องได้อำนาจจากประชาชน ได้ ส.ส. 310 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อกำจัดระบอบประยุทธ์ให้สิ้นซาก จัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย วันนี้จึงไม่มีคำว่ารักพี่เสียดายน้อง ไม่มีแบ่งคะแนน […]
อ่านเพิ่มเติม »