CIMBT ชิงส่วนแบ่งงาน FA รับตลาดหุ้นกู้-หุ้นทุนปีหน้าคึกคักต่อเนื่องช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น CIMBT ตราสารหนี้ ตลาดตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย หุ้นกู้ อินโฟเควสท์
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มองตลาดตราสารหนี้ปีหน้ายังระดมทุนต่อเนื่อง ประกอบกับมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและจะมีการออกหุ้นกู้ใหม่มาแทนที่อย่างต่อเนื่อง คาดจะช่วยผู้ประกอบการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
ในปี 66 ธนาคารยังคงตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งตลาดงานที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายในตลาดตราสารหนี้ในอันดับที่ 5 และรักษามูลค่าการออกหุ้นกู้ใกล้เคียงกับปี 65 ที่ 1.2 แสนล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าการออกหุ้นกู้ในตลาดแรกในปี 66 จะอยู่ที่ 1.3-1.4 ล้านล้านบาทใกล้เคียงกับปี 65 เช่นเดียวกัน ส่วนงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินให้กับผู้ประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะดีล M&A มีผู้ประกอบการรายหลายให้ความสนใจการออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอาเซียน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน เป็นต้น ซึ่งธนาคารมีเครือข่ายอยู่ในอาเซียนที่แข็งแกร่ง คาดว่าในปี 66 จะเห็นความชัดเจนราว 4-5 ดีล มูลค่าระดมทุนรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกอาจจะมีราว 2-3...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
MOSHI ยอดจอง IPO ล้นดีเดย์เข้าเทรด 22 ธ.ค.ตรึงตำแหน่งผู้นำสินค้าไลฟ์สไตล์ : อินโฟเควสท์บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) ร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของไทย เตรียมพร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก 22 ธ.ค.นี้ กระแสตอบรับนักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจขาย IPO ครบทั้ง 75 ล้านหุ้น เดินหน้าขยายร้านสาขาเพิ่มเป็น 165 สาขาภายในปี 68 นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวว่า จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 21.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E ที่ 28.66 เท่า ในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.65 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองเข้าล้นจนำวนที่จัดวสรรไว้ สะท้อนพื้นฐานธุรกิจและศักยภาพการเติบโตธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย หลังจากเข้าจดทะเบียนใน SET บริษัทวางแผนขยายการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ในปี 65-68 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,260 ล้านบาท แบ่งเป็น (1) ขยายสาขาและลงทุนโครงการในอนาคต …
อ่านเพิ่มเติม »
ชาวญี่ปุ่น 35% ตัดสินใจเลิกท่องเที่ยว ผลพวงจากโควิด : อินโฟเควสท์ข้อมูลจากบริษัทมอร์นิง คอนซัลต์ (Morning Consult) แสดงให้เห็นว่า ผู้คนเดินทางบ่อยขึ้นและในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โดยจำนวนมากวางแผนใช้จ่ายเงินก้อนโตไปกับการเดินทางในปีนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่วางแผนออกเดินทางท่องเที่ยว การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนกลุ่มหนึ่งปรากฎตัวขึ้นแบบเงียบ ๆ โดยคนเหล่านี้แทบไม่มีความสนใจที่จะออกเดินทางอีกต่อไป ผลสำรวจผู้ใหญ่ 16,000 คนใน 15 ประเทศในรายงานสภาวะการเดินทางและการบริการ (The State of Travel & Hospitality ) ที่เผยแพร่โดยบริษัทมอร์นิง คอนซัลต์ในเดือนส.ค.พบว่า เอเชียนั้นมีสัดส่วนของผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางอีกต่อไปมากที่สุด โดยมีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 15% และชาวจีนประมาณ 14% ที่ตอบแบบสอบถามครั้งนี้ระบุว่า พวกเขาจะไม่เดินทางอีกแล้ว ส่วนตัวเลขในอเมริกาเหนือไม่ทิ้งห่างกันมากนัก โดยชาวอเมริกันคิดเป็น 14% และชาวเม็กซิโกคิดเป็น 11% อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีอัตราของบุคคลที่ไม่ต้องการเดินทางอีกต่อไปสูงสุดคือญี่ปุ่น โดยอยู่ที่ 35% นางลินซีย์ รอช นักวิเคราะห์การเดินทางและบริการของมอร์นิง คอนซัลต์ระบุว่า ผลสำรวจดังกล่าวสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และไม่ได้แบ่งแยกระหว่างการเดินทางภายในประเทศหรือต่างประเทศ ทั้งนี้ นางรอชกล่าวว่า มอร์นิ่ง คอนซัลต์ได้ทำการสำรวจ 2 ครั้งในปีนี้ คือในเดือนเม.ย.และก.ค. …
อ่านเพิ่มเติม »
IPOInsight: MOSHI จากสำเพ็งสู่ SET ร้านเบ็ดเตล็ด Top Of Mind : อินโฟเควสท์บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 21 บาท โดยมีระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค. 65 และพร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 22 ธ.ค.65 MOSHI คือใคร ? MOSHI ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าที่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค (สินค้า Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย เน้นคุณภาพ ในราคาที่ย่อมเยาเป็นหลัก ภายใต้ชื่อทางการค้า “Moshi Moshi” โดยเปิดสาขาแรกที่สำเพ็งในปี 59 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันจำหน่ายสินค้าผ่านหลายช่องทาง คือ 1) สาขาของบริษัท ปัจจุบันมีสาขา 101 สาขา ครอบคลุม 41 จังหวัดทั่วประเทศไทย 2) แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นที่นิยม เช่น Shopee ,Lazada และ …
อ่านเพิ่มเติม »
D เข้าไฮซีซั่นดันทั้งปีทุบสถิติ All time high หลังผ่านวิกฤติโควิดฟื้นกว่า 100% : อินโฟเควสท์ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร D เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจการให้บริการด้านทันตกรรมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ประเมินว่ารายได้รวมน่าจะมีการเติบโตโดดเด่น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีลูกค้าต่างชาติเข้าใช้บริการเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าไตรมาสอื่น เนื่องจากเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จากสภาพอากาศหนาว รวมทั้งในปีนี้เกิดวิกฤติพลังงานในยุโรป ดังนั้นจึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ในปีนี้ยังคาดการณ์ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและทุบสถิติสร้าง All time high หลังจากฟื้นตัวได้มากกว่า 100% จากสถานการณ์โควิดในกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการเปิดประเทศ และการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้รายได้จากลูกค้าต่างชาติในช่วง 9 เดือนของปีนี้ เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 196% อีกทั้งในการปรับกลยุทธ์เน้นทำการตลาดลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ ทำให้รายได้จากลูกค้าชาวไทยเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 64 กว่า 42% “ปีนี้นักท่องเที่ยวน่าจะเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักงานบริการด้านทันตกรรมของบริษัทอยู่แล้ว มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ของปีนี้โตต่อเนื่อง ส่วนรายได้ทั้งปีมีโอกาสทุบสถิติ น่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและทุบสถิติสร้าง All time high จากปัจจัยนักท่องเที่ยว และการสนับสนุนให้คนไข้ต่างชาติเดินทางเข้ามาทำทันตกรรมในประเทศไทย ในส่วนของลูกค้าคนไทยก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ทพ.พรศักดิ์ กล่าว ทพ.พรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเข้าใช้บริการด้านทันตกรรมของลูกค้าต่างชาติ ส่วนใหญ่เข้าใช้บริการสาขาในใจกลางเมือง …
อ่านเพิ่มเติม »
กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติออสซี่ซื้อทอง-โภคภัณฑ์เพิ่ม หวั่นศก.ซ้ำรอยยุค 70 : อินโฟเควสท์กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของออสเตรเลียมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.3428 แสนล้านดอลลาร์) เริ่มกระจายการลงทุนในทองคำ, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้นนอกตลาด และโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น พร้อมเตือนว่าอนาคตเศรษฐกิจอาจต้องเผชิญกับภาวะการเติบโตตกต่ำและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงแบบเดียวกับช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1970 กองทุนดังกล่าวที่รู้จักกันในชื่อว่า “Future Fund” มีแผนจะขยายตะกร้าเงินสกุลเงิน โดยในบันทึกที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ธ.ค.) ทางกองทุนฯ โต้ว่าการจัดพอร์ตกองทุนแบบดั้งเดิมซึ่งแบ่งสัดส่วนในหุ้น 60% และตราสารหนี้ 40% นั้นอาจไม่เพียงพออีกต่อไป และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแผนการลงทุนเพื่อรับมือกับโลกที่กำลังเผชิญกับสงคราม เงินเฟ้อ และภาวะโลกรวน บันทึกระบุว่า “สภาวะเช่นนี้มีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเจอทั้งภาวะการเติบโตชะลอตัว อัตราการว่างงานสูง และราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น คล้ายกับช่วงที่เกิดภาวะ Stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) ซึ่งฉุดรั้งตลาดที่พัฒนาแล้วในคริสต์ทศวรรษที่ 1970” นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยต่างต้องดิ้นรนเพื่อปรับพอร์ตและแนวทางการลงทุน หลังจากที่ตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ต่างปรับตัวร่วงลงในเวลาเดียวกัน บันทึกทั้ง 8 หน้ากล่าวว่า ปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นแรงหนุนให้การลงทุนมาตลอด 4 ทศวรรษ เช่น อัตราดอกเบี้ยและภาษีที่ลดลง พลังงานที่มีมากมาย และโลกาภิวัตน์ที่เติบโตขึ้นจากการผงาดของจีนนั้น ปัจจัยเหล่านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว และนักลงทุนในตอนนี้ต้องเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ในโลกที่บั่นทอนราคาสินทรัพย์ ทั้งสงครามที่รุนแรงขึ้น …
อ่านเพิ่มเติม »