CENTEL คาดรายได้ปีนี้โตเกินเป้า 1.8 หมื่นลบ.หลังอัตราการเข้าพัก-ยอดขายต่อสาขาเดิมโตกว่าคาด : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

CENTEL คาดรายได้ปีนี้โตเกินเป้า 1.8 หมื่นลบ.หลังอัตราการเข้าพัก-ยอดขายต่อสาขาเดิมโตกว่าคาด : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 22 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 12%
  • Publisher: 68%

CENTEL คาดรายได้ปีนี้โตเกินเป้า 1.8 หมื่นลบ.หลังอัตราการเข้าพัก-ยอดขายต่อสาขาเดิมโตกว่าคาด CENTEL หุ้นไทย โรงแรม โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา อินโฟเควสท์

นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปี 65 จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่คาดทำได้ 1.8 หมื่นล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 8,221.17 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจโรงแรม ที่ 2,600-2,700 ล้านบาท และธุรกิจอาหาร 5,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามประเมิน OCC โดยภาพรวมทั้งปีจะอยู่ที่ระดับ 45-50% เพิ่มขึ้น 4% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเฉลี่ย จะอยู่ที่ 1,900-2,200 บาท “ภาพรวมยอดขายจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างดี ส่วนเงินเฟ้อ หรือต้นทุนที่สูงขึ้น คาดว่าจะสามารถควบคุมได้ เนื่องจากหลายตัวที่ขึ้นไปค่อนข้างสูง เริ่มมีแนวโนมที่ลดลงแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามในเรื่องของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายเพียง 0.1-0.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ครม.ไฟเขียวกองทุนอนุรักษ์พลังงานนำทุน-กำไรส่วนเกิน 1.4 หมื่นลบ. ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน : อินโฟเควสท์ครม.ไฟเขียวกองทุนอนุรักษ์พลังงานนำทุน-กำไรส่วนเกิน 1.4 หมื่นลบ. ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการเรียกให้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนปีบัญชี 2565 จำนวนเงินทั้งสิ้น 14,377 ล้านบาท ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินโดยเร็วหลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบ ซึ่งหลังจากนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินแล้ว กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานยังมีกระแสเงินสดที่สามารถดำเนินงานได้ปกติโดยไม่ขาดสภาพคล่องประมาณ 11,734 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 22 มี.ค.65 เห็นชอบการเรียกให้ทุนหมุนเวียนจำนวน 7 ทุน นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนปีบัญชี 2564 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,100 ล้านบาท ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินภายใน 60 วัน หลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบ และรับทราบรายงานผลการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูที่ได้นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินปีบัญชี 2562 จำนวน 350 ล้านบาท และกองทุนสิ่งแวดล้อมที่ได้นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินปีบัญชี 2563 จำนวน 81 ล้านบาท และที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ครั้งที่ 1/2565 ได้มีมติเห็นชอบให้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวนเงิน 14,377 ล้านบาท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ …
อ่านเพิ่มเติม »

กอนช. เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ จับตา 5 จ.เสี่ยงท่วมหลังฝนตกหนัก-พายุจ่อเข้าไทยเพิ่ม : อินโฟเควสท์กอนช. เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ จับตา 5 จ.เสี่ยงท่วมหลังฝนตกหนัก-พายุจ่อเข้าไทยเพิ่ม : อินโฟเควสท์นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ โฆษกสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน ปี 65 ของคณะประเมินสถานการณ์น้ำ ภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ว่า กอนช. ได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักสะสมในช่วง 3 วันนี้ (16-18 ส.ค. 65) จำนวน 5 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ ได้แก่ จ.ตาก (อ.แม่สอด) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย และ อ.ขุนยวม), ภาคตะวันตก ได้แก่ จ.กาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ), ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.จันทบุรี (อ.มะขาม) และภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สำหรับพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน …
อ่านเพิ่มเติม »

รายงานชี้รัฐบาลสหรัฐเพิกเฉย 'ฝีดาษลิง' ก่อวิกฤตสาธารณสุขโลกซ้ำสอง : อินโฟเควสท์รายงานชี้รัฐบาลสหรัฐเพิกเฉย 'ฝีดาษลิง' ก่อวิกฤตสาธารณสุขโลกซ้ำสอง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บทความคิดเห็นที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ทรูธเอาท์ (Truthout) ซึ่งเป็นองค์กรข่าวไม่แสวงหากำไรของสหรัฐ ระบุว่า โรคฝีดาษลิงถือเป็นอีกหนึ่งวิกฤตสาธารณสุขระดับโลกที่เป็นผลพวงจากการเพิกเฉยของรัฐบาลสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหลังเผชิญการระบาดในประเทศนานถึง 3 เดือน โรคนี้อาจไม่กลายเป็นวิกฤตหากรัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงสูงอย่างทันท่วงที ขณะเดียวกัน สหรัฐกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง “จินนีออส” (Jynneos) ขั้นรุนแรง และมีความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคมากที่สุด โดยบางกรณีประชาชนต้องต่อแถวรอฉีดวัคซีนนานหลายชั่วโมง แต่กลับถูกปฏิเสธเนื่องจากไม่มีวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการ รายงานดังกล่าวเสริมว่า สหรัฐมีเครื่องมือรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงที่จำเป็นอยู่แล้ว ทว่ารัฐบาลกลับละทิ้งประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงแทนที่จะดูแล ดังเช่นที่พบในการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ตอนนี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

KTB ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ พร้อมคงมาตรการช่วยเหลือพิเศษ ชะลอผลกระทบลูกค้า : อินโฟเควสท์KTB ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ พร้อมคงมาตรการช่วยเหลือพิเศษ ชะลอผลกระทบลูกค้า : อินโฟเควสท์นายเอกชัย เตชะวิริยะกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ พร้อมคงมาตรการช่วยเหลือพิเศษ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า ผ่านมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคาร ครอบคลุมทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการชำระหนี้แบบขั้นบันได พักชำระเงินต้นและชำระเฉพาะดอกเบี้ย เปลี่ยนประเภทหนี้จากวงเงินกู้หมุนเวียน เป็นวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา เพื่อให้ผ่อนสบายขึ้นหรือ มาตรการอื่นๆ เช่น การขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยการโอนทรัพย์ชำระหนี้ การแปลงหนี้เป็นทุน การเพิ่มสภาพคล่อง หรือ การขยายระยะเวลาผ่อนชำระ เป็นต้น ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาและเสนอแนวทาง การช่วยเหลือการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด ธนาคารกรุงไทยตระหนักถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึงในรูปแบบ The New K-Shaped Economy รวมทั้งผลกระทบจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น จากราคาน้ำมันแพงและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น โดยพร้อมเดินหน้าดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ที่ให้แนวทางการปรับนโยบายการเงินของไทยเข้าสู่ภาวะปกติในรูปแบบ Smooth Takeoff จึงให้ความสำคัญกับการปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อชะลอผลกระทบต่อลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่รายได้ยังกลับมาไม่เต็มที่ และผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SME ที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สามารถประคองตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปได้ ทั้งนี้ ธนาคารยืนหยัดดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด …
อ่านเพิ่มเติม »

ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 75,133 ล้านบาท : อินโฟเควสท์ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 75,133 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 75,133 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 40,849 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 1,336 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 3,507 ล้านบาท  Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 1.91%   ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.03% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าเล็กน้อยประมาณ 1-3 bps. สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET INFLOW 3,507 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET BUY 3,507 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired)  ด้านปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ …
อ่านเพิ่มเติม »

ศาลสั่งทวิตเตอร์มอบเอกสารในมืออดีตผู้บริหารให้แก่ 'อีลอน มัสก์' : อินโฟเควสท์ศาลสั่งทวิตเตอร์มอบเอกสารในมืออดีตผู้บริหารให้แก่ 'อีลอน มัสก์' : อินโฟเควสท์ศาลสั่งเมื่อวันจันทร์ (15 ส.ค.) ให้บริษัททวิตเตอร์ อิงค์มอบเอกสารของนายเคย์วอน เบย์กพัวร์ อดีตผู้บริหารบริษัทให้แก่นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลา อิงค์ เนื่องจากนายมัสก์มองว่าเป็นบุคคลสำคัญในการคำนวณจำนวนบัญชีปลอมบนแพลตฟอร์ม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บัญชีบอตและสแปมบนทวิตเตอร์กลายเป็นประเด็นหลักในการต่อสู้คดีทางกฎหมายว่า นายมัสก์ต้องดำเนินการซื้อกิจการทวิตเตอร์ในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่เคยตกลงเอาไว้หรือไม่ นางแคทลีน เซนต์ เจ แมคคอร์มิกค์ ผู้พิพากษาประจำศาลรัฐเดลาแวร์ได้สั่งให้ ทวิตเตอร์รวบรวม ตรวจสอบ และสร้างเอกสารจากนายเบย์กพัวร์ อดีตผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคของบริษัททวิตเตอร์ ปัจจุบัน ทวิตเตอร์และทนายความของนายมัสก์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาลวันที่ 17 ต.ค. นี้ หลังจากที่นายมัสก์พยายามหาทางล้มเลิกข้อตกลงซื้อกิจการ ด้วยเหตุผลที่ว่า ทวิตเตอร์ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอมได้ ด้านทวิตเตอร์พยายามกดดันให้นายมัสก์ปฏิบัติตามข้อตกลง และกล่าวว่าการตัดสินใจคว่ำข้อตกลงดังกล่าวน่าจะมาจากการทรุดตัวของตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-26 09:08:28