BIZ ส่งซิกแนวโน้ม Q2/66 โตต่อเนื่องลุ้นคว้างานอุปกรณ์การแพทย์และเครื่องฉายรังสีกว่า 800 ลบ. BIZ บิสซิเนสอะไลเม้นท์ หุ้นไทย อินโฟเควสท์
นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 จะเห็นได้ว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร จากการทยอยส่งมอบเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ให้กับโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาได้ตามแผน และในช่วงไตรมาส 2/66 การส่งมอบงานยังเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้สามารถรักษาผลงานการเติบโตไว้ในระดับที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานเครื่องฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งและอุปกรณ์การแพทย์ ของโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้ เพื่อเข้ามาเติมเสริม Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 997 ล้านบาท ส่วนใหญ่ทยอยรับรู้รายได้ใน 1-2 ปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต
ในส่วนของโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 73.
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 มีรายได้รวม 410.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.28 ล้านบาท หรือ 25.06% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 43.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1 ล้านบาท หรือ 26.38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.49 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BIZ กล่าวอีกว่า แผนธุรกิจปีนี้จะเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่อีกครั้ง จากงานด้านอุปกรณ์การแพทย์ที่จะมีการส่งมอบที่มากขึ้น และแนวโน้มโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมถึงการชนะงานประมูลขนาดใหญ่จากทางภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
CONSENSUS: M ยืนหนึ่งสมรภูมิ 'ร้านสุกี้' ฉายแววโตเด่น Q2/66 วันหยุดยาวหนุนยอดขาย-ขึ้นราคาตามวัตถุดิบ : อินโฟเควสท์ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของธุรกิจสุกี้หม้อไฟ ทุกวันนี้เดินไปไหนก็พบเจอแต่ร้านสุกี้ทั้งเจ้าเล็กและเจ้าใหญ่ แข่งกันลวกแข่งกันต้มสร้างปรากฏการณ์เขย่าตลาด ทำให้ตลาดร้านสุกี้ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงกว่า 1.5-2 หมื่นล้านบาทในปี 65 และยีงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่แบรนด์ที่เป็นผู้นำในตลาดสุกี้ในไทยอย่างแข็งแกร่งทั้งสาขาและรายได้ทิ้งห่างคู่แข่ง และยืนหนึ่งในใจคนไทยมากว่า 37 ปี คือ สุกี้ MK หรือ บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) ผลการดำนเนินงานของ M ในไตรมาส 1/66 เริ่มเห็นการฟื้นตัวด้วยอัตราเติบโต 20% YoY และ 2% QoQ จากกำไรราว 325 ล้านบาท ท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและคู่แข่งในตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่ยังสามารถรักษาความสามารถทำกำไรในระดับที่ดีได้ ซึ่งนักวิเคราะห์ บล.พาย ประเมินว่าผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบของ M ยังสามารถควบคุมได้จากการเจรจากับคู่ค้าและการปรับราคาขาย โดยในเดือน ก.พ.66 ปรับขึ้นราคาราว 6% และยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต หากพิจารณายอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังเห็นแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/66 หลังจากไตรมาส 1/66 เติบโตราว 16% โดยเฉพาะสาขาสุกี้ MK […]
อ่านเพิ่มเติม »
TOP รับ Q2/66 ส่อถูก Stock loss กดดันก่อนพลิกฟื้นในครึ่งปีหลังตามตลาดเข้าสู่สมดุล : อินโฟเควสท์นายณัฐพล นพรัตน์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการพาณิชย์ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 ย่อตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 จากมีโอกาสเกิดผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (Stock loss) ต่อเนื่อง หลังค่าการกลั่นสิงคโปร์ (GRM) ย่อตัวลงมาอยู่ที่ 3.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 8.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงหลังจากซัพพลายเพิ่มขึ้นมาในตลาด ทั้งจีนส่งออกเพิ่มเติม และโรงกลั่นในฝั่งยุโรปสามารถกลับมาเดินเครื่องผลิตได้อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีการประท้วงในฝรั่งเศล รวมถึงรัสเซียยังสามารถส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปไปยังประเทศอื่นๆ ได้ ตลาดน้ำมันดิบในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่มีปริมาณส่วนเกินเล็กน้อย (Surplus) แต่คาดว่าในครึ่งปีหลังนี้จะเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น เนื่องจากแม้กำลังการผลิตของกลุ่มนอกโอเปก (Non-OPEC) จะขึ้นมาค่อนข้างมากในปีนี้ประมาณ 2,000 บาร์เรล/วัน และกำลังการผลิตของรัสเซียหายไปจากตลาดเล็กน้อยเท่านั้น แต่กลุ่มโอกเปก (OPEC) ล่าสุดยืนยันนโยบายรักษาสมดุลตลาดด้วยการลดกำลังการผลิตลง ทำให้คาดว่าซัพพลายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาราว 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ดีมานด์ยังเติบโตได้ค่อนข้างดี อิงจากข้อมูลของ EIA, IEA และ OPEC คาดการณ์ว่าดีมานด์ในปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน ประมาณ 2 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากประเทศจีนกลับมาเปิดประเทศ […]
อ่านเพิ่มเติม »
BAM ดิ่งทำจุดต่ำสุด ...แต่งบมีลุ้นฟื้นครึ่งปีหลัง !เช้านี้หุ้น BAM ดิ่งทำจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น หลังยังมีหลายปัจจัยลบรุมเร้า แต่โบรกคาดงบ Q2/66 เป็นจุดเริ่มต้นฟื้นตัว ก่อนทำจุดสูงสุดช่วง H2/66 หล...
อ่านเพิ่มเติม »
TOP คาดงบ Q2/66 ลดลงจาก Q1/66 หลังค่าการกลั่นอ่อนตัวลง-ขาดทุนสต๊อก ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 พ.ค. 66 11:57 น. TOP คาดผลงานไตรมาส 2/66 ลดลง ตามค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลง จากอุปทานล้นตลาด และอาจมีขาดทุนสต๊อก หวังฟื้นตัวในครึ่ง...
อ่านเพิ่มเติม »
บอร์ดรฟม.เคาะลงทุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลแบบ PPP 5 หมื่นลบ.ชงครม.ใหม่ปลายปี 66 : อินโฟเควสท์นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 มีมติเห็นชอบหลักการผลการศึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพ.ศ. 2562 รูปแบบ PPP -Net cost หลังจากนี้จะนำเสนอรายงานผลการศึกษาโครงการฯ ขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการฯจากกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็น ครม.ชุดใหม่ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯเพื่อคัดเลือกเอกชนคาดเริ่มก่อสร้างช่วงปลายปี 68 ที่ผ่านมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลมีความล่าช้าจากแผน เนื่องจากมีแนวคิดในการก่อสร้างฐานรากไปพร้อมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในพื้นที่เดียวกัน โดยจะให้ กทพ.สร้างฐานรากของรถไฟฟ้าด้วยเพื่อลดผลกระทบด้านจราจร แต่ปัจจุบันประเมินว่าระยะเวลาการก่อสร้างทั้งรถไฟฟ้าสีน้ำตาลและทางด่วนตอน N2 จะอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันและจะไม่มีผลกระทบด้านการจราจรซ้ำซ้อนกัน “บอร์ดสอบถามเรื่องการก่อสร้าง ซึ่ง รฟม.คาดการณ์ว่าสายสีน้ำตาลจะก่อสร้างช่วงปลายปี 68 ส่วนทางด่วน N2 อาจจะเริ่มช่วงต้นปี 68 ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ประกอบกับ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ฟิทช์เผย NEV จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาดรถยนต์จีนปี 66 : อินโฟเควสท์ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักสำหรับตลาดรถยนต์ของจีนในปี 2566 นายหยาง จิง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยองค์กรประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า อัตราการเติบโตประจำปีของตลาด NEV ของจีนคาดว่าจะทะลุ 30% ในปีนี้ และผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกอาจเร่งกระบวนการใช้พลังงานไฟฟ้าและปรับกลยุทธ์ในจีน นายหยางเสริมว่า มาตรการของจีนในการส่งเสริม NEV ในพื้นที่ชนบท รวมถึงวัสดุแบตเตอรี่ใหม่ที่ถูกลงอาจช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กกลับมาเติบโตได้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จีนได้ออกแนวทางสนับสนุนให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทซื้อและใช้ NEV โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้า ทั้งนี้ ข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่า การพัฒนา NEV ของจีนดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ผลผลิตและยอดขายของ NEV อยู่ที่ 2.29 ล้านคัน และ 2.22 ล้านคันในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 42.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »