BBIK สยายปีกเข้าเวียดนามปั๊มรายได้ต่างประเทศรับดีมานด์เทคฯ ทะลัก BBIK บลูบิคกรุ๊ป หุ้นไทย อินโฟเควสท์
บมจ.
เวียดนามเป็นประเทศที่กำลังถูกจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก สะท้อนผ่านจำนวนเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ที่อยู่ระดับสูง อีกทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดย GDP ของประเทศเวียดนามในปี 65 เติบโตถึง 8.02% “บริษัทได้ทำศึกษาโอกาสทางธุรกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านการรับงานในโครงการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบให้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จึงพบว่าประเทศเวียดนามยังมีความต้องการในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอีกมากจากปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐและภาคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสของบริษัทฯในการเข้าไปจับตลาดในประเทศเวียดนาม
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ม็อบหนุนอดีตปธน.บราซิลบุกทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง : อินโฟเควสท์กลุ่มผู้สนับสนุนนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีบราซิล ได้บุกรุกเข้าไปในสภาคองเกรส, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลสูงของบราซิลในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี นายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลในเดือนต.ค. 2565 ด้วยคะแนนโหวต 59.8 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 50.86% แซงหน้านายโบลโซนารู ปธน.บราซิลในเวลานั้นซึ่งได้รับคะแนนโหวต 57.8 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 49.14% อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตปธน.โบลโซนารูซึ่งเป็นอดีตผู้นำขวาจัดของบราซิล ได้แสดงความไม่พอใจต่อผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แถลงว่าทางรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล และจะทำการควบคุมสถานการณ์ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. หลังจากเบื้องต้นกองกำลังความมั่นคงของเมืองหลวงแห่งนี้ไม่สามารถรับมือกับพวกผู้บุกรุกได้ ในระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ ปธน.ลูลาได้กล่าวโทษนายโบลโซนารู ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์จลาจล และยังตำหนิเกี่ยวกับมาตรการความมั่นคงที่ไม่เพียงพอในเมืองหลวง โดยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยให้กลุ่มคนที่ฝักใฝ่ฝ่ายซ้ายและและกลุ่มคนหัวรุนแรงสร้างความเสียหายร้ายแรง รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้สร้างกระแสความตึงเครียดมาเป็นเวลานานนับเดือนหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565 ซึ่งแม้ว่าผลการเลือกตั้งปรากฎว่านายลูลาได้รับชัยชนะ แต่นายโบลโซนารูยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และยังอ้างว่าระบบการเลือกตั้งด้วยเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของบราซิลเต็มไปด้วยการฉ้อโกง […]
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 33.64 แข็งค่าตามภูมิภาค จับตานทท.จีนเที่ยวไทยหลังเปิดประเทศ : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.64 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้แข็งค่า เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งตัวเลขการจ้างงาน และดัชนี ISM ภาคบริการออกมาต่ำเกินคาดทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ลงแรง โดยตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามช่วงนี้ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาในประเทศไทย หลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ขณะเดียวกันยังต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วย นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50 – 33.80 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (6 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.26074% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.61382% ปัจจัยสำคัญ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »
จีนจัดซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน อ้างตอบโต้กองกำลังแบ่งแยกดินแดน : อินโฟเควสท์กองทัพจีนเปิดเผยว่า กองทัพจีนได้ดำเนินการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) โดยมุ่งเน้นไปที่การโจมตีทางบกและทางทะเล ซึ่งเป็นการซ้อมรบครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึงเดือน กองบัญชาการตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) เปิดเผยในแถลงการณ์เมื่อช่วงสายวานนี้ว่า ทางกองทัพได้จัดการลาดตระเวนและทำการซ้อมรบเหนือน่านน้ำและน่านฟ้ารอบไต้หวัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความสามารถในการซ้อมรบร่วมและ “ตอบโต้การกระทำเชิงยั่วยุจากกองกำลังภายนอกและกองกำลังแบ่งแยกดินแดนของไต้หวันอย่างเด็ดขาด” สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนเคยดำเนินการในลักษณะเช่นนี้มาแล้วในช่วงปลายเดือนธ.ค.ผ่านมา โดยไต้หวันระบุว่า เครื่องบินรบ 43 ลำของจีนได้รุกล้ำข้ามเส้นแบ่งกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นแนวเขตกันชนอย่างไม่เป็นทางการของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ จีนซึ่งไม่เคยละวางจากการใช้กำลังเพื่อยึดครองดินแดนแห่งนี้ ได้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเป็นประจำในน่านน้ำและน่านฟ้าใกล้กับไต้หวันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว จีนเดินเกมสงครามใกล้กับเกาะไต้หวันหลังการเดินทางเยือนกรุงไทเปของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรในขณะนั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ไบเดนประณาม 'การทำร้ายประชาธิปไตย' ในบราซิล กรณีม็อบหนุนโบลโซนารูบุกทำเนียบ : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประณาม “การทำร้ายประชาธิปไตย” ในบราซิล หลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตปธน.บราซิลฝ่ายขวาจัด บุกเข้าไปในรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาของประเทศ ปธน.ไบเดนกล่าวว่า เขาหวังว่าจะได้เดินหน้าร่วมงานกับปธน.ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำฝ่ายซ้ายที่คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลในเดือนต.ค. 2565 “ผมขอประณามการทำร้ายต่อประชาธิปไตยและต่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติในบราซิล ผมสนับสนุนสถาบันประชาธิปไตยของบราซิลอย่างเต็มที่ และเจตจำนงของประชาชนชาวบราซิลจะต้องไม่ถูกลิดรอน” ปธน.ไบเดนระบุในทวิตเตอร์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนเรียกสถานการณ์ในบราซิลว่าเป็นเรื่อง “อุกอาจ” ซึ่งคล้ายคลึงกับกรณีการบุกรุกรัฐสภาสหรัฐโดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้ ภาพของกลุ่มผู้ประท้วงสวมชุดสีเหลืองและสีเขียวที่ก่อจลาจลไปทั่วเมืองหลวงนั้น เป็นผลพวงของความตึงเครียดตลอดหลายเดือนหลังจากวันเลือกตั้ง โดยนายโบลโซนารู พันธมิตรของนายทรัมป์ที่ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ กล่าวอ้างว่าระบบการลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของบราซิลมีแนวโน้มที่จะเกิดการฉ้อโกง และจุดประกายให้เกิดความเคลื่อนไหวรุนแรงของกลุ่มผู้ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง นายบ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกสหรัฐ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ทวีตข้อความว่า “ผมขอประณามการโจมตีสถานที่ราชการของบราซิลอย่างอุกอาจครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นจากการที่โบลโซนารูบุ่มบ่ามปลุกระดมคนแบบไม่สนใจหลักการประชาธิปไตย” “2 ปีนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. มรดกที่ทรัมป์ทิ้งไว้ยังคงทำพิษต่อซีกโลกของเรา เราต้องปกป้องประชาธิปไตยและนำตัวผู้ไม่หวังดีมารับผิดชอบให้ได้” ด้านนายโบลโซนารูขึ้นเครื่องบินไปรัฐฟลอริดา 48 […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิเคราะห์ชี้เศรษฐกิจฮ่องกงส่อเค้าโตแซงหน้าสิงคโปร์ หลังเปิดเมือง : อินโฟเควสท์เศรษฐกิจฮ่องกงมีแนวโน้มพลิกกลับมาเติบโตในปีนี้ หลังจากเผชิญภาวะหดตัวในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2562 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงอาจขยายตัวแข็งแกร่งกว่าสิงคโปร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งทศวรรษ โดยสิงคโปร์นับได้ว่าเป็นคู่แข่งของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงิน ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจฮ่องกงในปีนี้ เนื่องจากฮ่องกงเปิดพรมแดนเชื่อมโยงกับจีนแผ่นดินใหญ่และทั่วโลกเร็วขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์ 12 รายในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณการว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัว 3.3% ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 25 รายที่จัดทำในเดือนพ.ย.ที่การขยายตัว 2.7% นักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ฮ่องกงยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เหลือ พร้อมทั้งประกาศแผนการที่จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถข้ามพรมแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างเสรีมากมากขึ้นอีกครั้ง ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ได้ยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางขาเข้าในวันอาทิตย์ที่ 8 ม.ค. ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อีกครั้ง การหวนคืนมาของนักเดินทางขาเข้าถือเป็นข่าวดีสำหรับฮ่องกง โดยจะช่วยฟื้นฟูธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง ตั้งแต่ธุรกิจโรงแรมและบริษัทให้บริการจัดทำอาหาร ไปจนถึงบริษัทการลงทุนและบริหารความมั่งคั่ง เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงในปีนี้ เนื่องจากสิงคโปร์พึ่งพาการค้า แต่สหรัฐและยุโรปมีแนวโน้มเผชิญภาวะถดถอย โดยผลสำรวจล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัว 2% ซึ่งหากเศรษฐกิจฮ่องกงขยายตัวเร็วกว่าระดับดังกล่าวก็จะแซงหน้าสิงคโปร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ผลสำรวจชี้สหราชอาณาจักรมีความสามารถแข่งขันน้อยลง เหตุต้นทุนพลังงานสูง : อินโฟเควสท์ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเมคยูเค (Make UK) ซึ่งเป็นองค์กรการค้าหลักสำหรับผู้ผลิตในอังกฤษ และบริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) พบว่า กลุ่มผู้ผลิตมองว่าสหราชอาณาจักรมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลงและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้น้อยลงเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นและความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า จำนวนผู้ผลิตที่คิดว่าสหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ยังสามารถแข่งขันได้นั้น ลดลงเหลือ 31% จากระดับ 63% ในปีที่แล้ว และ 43% กล่าวว่าสหราชอาณาจักรดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้น้อยลง ข้อมูลดังกล่าวได้จากการสำรวจธุรกิจต่าง ๆ จำนวน 235 แห่งในระหว่างวันที่ 1 – 22 พ.ย. 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดความวุ่นวายในรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัส และบริษัทจำนวณ 53% กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างต่อเนื่องได้บั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ในสัปดาห์นี้ นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษมีกำหนดเปิดเผยร่างแผนการที่จะลดเงินอุดหนุนพลังงานสำหรับภาคธุรกิจ ขณะที่เมคยูเคคาดการณ์ว่า แผนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การลดจ้างงานและการผลิต ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการแล้ว ทางด้านสตีเฟน ฟิปสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมคยูเค กล่าวว่า “ในปีนี้จะมีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่ท้าทายการแก้ปัญหาของผู้ผลิต การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง ปัญหาการเข้าถึงแรงงาน และต้นทุนการขนส่งที่สูงและไม่มีวี่แววว่าจะลดลงนั้น จะส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในตลาดต่าง […]
อ่านเพิ่มเติม »