BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.90-35.70 ลุ้นข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.90-35.70 ลุ้นข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 56 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 26%
  • Publisher: 68%

BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.90-35.70 ลุ้นข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ BAY ค่าเงินบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เงินบาท อินโฟเควสท์

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.70 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.43 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.15-35.72 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 7 เดือน

ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ย้ำว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้ง และไม่ได้ตัดโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 25-26 ก.ค.

ด้านนักลงทุนจับตาดูว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น จะเข้าแทรกแซงตลาด เพื่อจำกัดการอ่อนค่าของเงินเยนหรือไม่ หลังจากบีโอเจ เคยเข้าแทรกแซงที่ USD/JPY เหนือระดับ 145 ในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 1,214 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 3,199 ล้านบาท ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกเงินบาทอ่อนค่าลง 2.6% สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ ระบุว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับการเปิดเผยรายงานประชุมเฟดเมื่อวันที่ 13-14 มิ.ย.66 และข้อมูลจ้างงานเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบต่อการประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดต่อไป โดยในขณะนี้นักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้ 84% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.66 นอกจากนี้ นักลงทุนยังเลื่อนการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ยออกไปเป็นปี 67 แม้ตัวเลขการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค.

สำหรับปัจจัยในประเทศ ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 2.8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนมิ.ย.

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ระบบโอนเงินต่างธนาคารขัดข้อง แนะลูกค้าใช้บริการช่องทางอื่น : อินโฟเควสท์ระบบโอนเงินต่างธนาคารขัดข้อง แนะลูกค้าใช้บริการช่องทางอื่น : อินโฟเควสท์สมาคมธนาคารไทย ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้พบปัญหาข้อขัดข้องในระบบบริการโอนเงินไปต่างธนาคาร ซึ่งส่งผลให้ต่อการทำธุรกรรมโอนเงินไปต่างธนาคารผ่านช่องทาง Mobile Banking, Internet Banking ให้ทำธุรกรรมไม่ได้ โดยขอแนะนำให้ลูกค้าเว้นระยะการทำรายการ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการโอนเงินผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น ATM และสาขาของธนาคารได้ตามปกติ ลูกค้าสามารถสอบถามหรือแจ้งปัญหาไปที่สาขา หรือที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่ท่านมีบัญชีอยู่ สำหรับลูกค้าที่ทำการโอนเงินไปยังต่างธนาคาร วันนี้ (1 ก.ค.) ตั้งแต่ 14.00 น. และเงินยังไม่เข้าปลายทาง ธนาคารปลายทางจะนำเงินเข้าบัญชีภายใน 19.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ทั้งนี้หากระบบดังกล่าวสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว ทางสมาคมฯ จะรีบแจ้งให้ทราบต่อไป โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

ญี่ปุ่นสั่งเฝ้าระวัง หลังพบเรือรบรัสเซียอยู่ในน่านน้ำใกล้เกาะโอกินาวา : อินโฟเควสท์ญี่ปุ่นสั่งเฝ้าระวัง หลังพบเรือรบรัสเซียอยู่ในน่านน้ำใกล้เกาะโอกินาวา : อินโฟเควสท์กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันศุกร์ (30 มิ.ย.) ว่า พบเรือรบของรัสเซีย 2 ลำอยู่ในน่านน้ำใกล้เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นในช่วง 4 วันก่อน และญี่ปุ่นได้ส่งเรือ 2 ลำไปเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเรือรบรัสเซียดังกล่าว หลังจากที่ทางการไต้หวันก็ประกาศเช่นเดียวกับว่าพบเรือรบรัสเซียในสัปดาห์นี้ กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.) ว่า พบเรือรบรัสเซีย 2 ลำอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออกของไต้หวัน และได้ทำการส่งเครื่องบินและเรือของไต้หวันออกไปเฝ้าจับตา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า กิจกรรมทางทหารของรัสเซียที่เกิดขึ้นใกล้ดินแดนญี่ปุ่น รวมถึงการซ้อมรบร่วมกับกองทัพจีนนั้น ได้สร้างความวิตกอย่างมากให้กับความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและไต้หวันได้ร่วมกับสหรัฐและพันธมิตรในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากที่บุกโจมตียูเครนในปีที่ผ่านมา ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานเมื่อวันอังคารว่า เรือจากกองเรือแปซิฟิกของรัสเซียได้แล่นเข้าสู่น่านน้ำทางใต้ของทะเลฟิลิปปินส์เพื่อปฏิบัติภารกิจอันเป็นส่วนหนึ่งของการเดินเรือทะเลระยะไกล โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

'พิธา'รับข้อเสนอแนะ สทท.พร้อมชี้ช่องฟื้นท่องเที่ยวหลังโควิด : อินโฟเควสท์'พิธา'รับข้อเสนอแนะ สทท.พร้อมชี้ช่องฟื้นท่องเที่ยวหลังโควิด : อินโฟเควสท์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และคณะ ไปประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะด้านนโยบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจากตัวแทนผู้ประกอบการจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในตัวแทนผู้ประกอบการได้มีข้อเสนอแนะในหลายประเด็น เช่น การเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกของภาครัฐในการเข้าออกประเทศของนักท่องเที่ยว การปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรค การออกกฎหมายด้านความปลอดภัย การมีส่วนร่วมในการกำหนดราคากลางสินค้าและบริการการท่องเที่ยว การมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ การปรับเกณฑ์วีซ่า การจัดแอลกอฮอล์โซนนิ่ง การส่งเสริมธุรกิจบันเทิง เป็นต้น นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวมีประสบการณ์ร่วมกับภาคท่องเที่ยวมาตั้งแต่เป็นภาคเอกชน และในฐานะ ส.ส.ก็ได้เห็นทั้งงบประมาณของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แผนบูรณาการท่องเที่ยว รวมทั้งงบประมาณท่องเที่ยวของผู้ว่าราชการจังหวัด สิ่งที่เราต้องการคือจินตนาการการท่องเที่ยวไทยแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ทั้งในระดับมหภาค ที่จะเห็นได้ว่าภาพของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยก่อนและหลังโควิดไม่เหมือนเดิม มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงปริมาณและประเทศต้นทาง ภาพรวมการท่องเที่ยวหลังโควิดวันนี้เมื่อเทียบกับทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยยังคงหายไปถึง 38% แม้การท่องเที่ยวของชาวจีนฟื้นกลับมาเท่าก่อนโควิดแล้ว แต่กลายเป็นการเน้นเที่ยวในประเทศ ขณะที่การท่องเที่ยวขาออกไปต่างประเทศยังไม่ฟื้น “หากเรายังอยากที่จะพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเหมือนเดิมก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่าเป็นปัญหาที่การทำวีซ่าในฝั่งไทยหรือเป็นปัญหาอื่นใดทางฝั่งจีนหรือไม่ นี่เป็นโจทย์ที่ท้าทายที่ทำให้เราต้องกลับมาคิดถึงการจัดพอร์ตโฟลิโอในระดับมหภาคใหม่” นายพิธา กล่าว ประการต่อมา คือโจทย์ในระดับจุลภาค การท่องเที่ยวไทยคิดเป็นกว่า 20% ของจีดีพีก็จริง แต่ส่วนใหญ่ตกกับรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งนโยบายเมืองรองที่ผ่านมาก็ยังทำให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้ ปัจจุบัน 75% ของนักท่องเที่ยวยังคงกระจุกใน 5 เมืองใหญ่ […]
อ่านเพิ่มเติม »

พรุ่งนี้น้ำมันลง! เฉพาะดีเซล B7 ลดราคา 2.12 บาท : อินโฟเควสท์พรุ่งนี้น้ำมันลง! เฉพาะดีเซล B7 ลดราคา 2.12 บาท : อินโฟเควสท์บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปรับราคาขายปลีกเฉพาะน้ำมันพรีเมี่ยมดีเซล B7 ลง 2.12 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซลยังคงเดิม มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 42.64 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 35.15 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 34.88 บาท E20 ลิตรละ 32.84 บาท E85 ลิตรละ 33.29 บาท ดีเซล B20 ลิตรละ 31.94 บาท ดีเซล B7 […]
อ่านเพิ่มเติม »

สถานการณ์น่าเป็นห่วง ฝรั่งเศสสั่งตำรวจ 4.5 หมื่นนายเตรียมรับมือเหตุการณ์ไม่สงบ : อินโฟเควสท์สถานการณ์น่าเป็นห่วง ฝรั่งเศสสั่งตำรวจ 4.5 หมื่นนายเตรียมรับมือเหตุการณ์ไม่สงบ : อินโฟเควสท์ฝรั่งเศสส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 45,000 นายและรถหุ้มเกราะบางส่วนออกไปประจำการตามถนนสายต่าง ๆ ในวันนี้ (1 ก.ค.) ขณะที่เหตุจลาจลได้สร้างความปั่นป่วนในเมืองต่าง ๆ ของฝรั่งเศสเป็นคืนที่ 4 จากเหตุวัยรุ่นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตระหว่างที่ถูกสั่งให้หยุดรถ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อาคารและยานพาหนะถูกเผาและมีการบุกปล้นร้านค้า และสถานการณ์รุนแรงดังกล่าวได้ทำให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงเผชิญภาวะวิกฤติร้ายแรงที่สุดในการเป็นผู้นำของเขา นับตั้งแต่เกิดการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2561 ทั้งนี้ เหตุการณ์ไม่สงบได้ลุกลามไปทั่วประเทศ รวมถึงในเมืองต่างๆ เช่น มาร์กเซย ลียง ตูลูส สตราสบูร์ก และลีล รวมถึงในกรุงปารีสซึ่งนายนาเฮล เอ็ม วัย 17 ปีเชื้อสายแอลจีเรียและโมร็อกโก ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.) ที่ชานเมืองนองแตร์ การเสียชีวิตของเขาที่ปรากฏให้เห็นในวิดีโอได้จุดปะทุการร้องเรียนที่มีมาอย่างยาวนานของชุมชนเมืองที่ยากจนและหลากหลายเชื้อชาติเกี่ยวกับความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการเหยียดเชื้อชาติ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

ศุกร์สิ้นเดือน คนใช้รถไฟฟ้าทำสถิติสูงสุดนับแต่เกิดโควิด-19 : อินโฟเควสท์ศุกร์สิ้นเดือน คนใช้รถไฟฟ้าทำสถิติสูงสุดนับแต่เกิดโควิด-19 : อินโฟเควสท์นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจำนวน 92,038 คน-เที่ยว ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมเป็น 1,663,008 คน/เที่ยว ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ประกอบด้วย รถไฟระหว่างเมืองจำนวน 74,992 คน/เที่ยว (ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 27,357 คน/เที่ยว และผู้โดยสารเชิงสังคม 47,635 คน/เที่ยว) และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 1,588,016 คน/เที่ยว ประกอบด้วย 1) รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 72,447 คน/เที่ยว 2) รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จำนวน 26,329 คน/เที่ยว (รวมจำนวนผู้โดยสารรถไฟทางไกลมาต่อสายสีแดงฟรีจำนวน 197 คน/เที่ยว) 3) รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 439,196 คน/เที่ยว 4) รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) จำนวน […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-28 21:58:35