BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 36.70-37.35 จับตาประชุมเฟด-BOJ-BoE BAY ค่าเงิน ค่าเงินบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อินโฟเควสท์
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.70-37.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.92 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 36.25-37.10 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 15 ปี หลังสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อสูงเกินคาดและเงินหยวนอ่อนค่าผ่าน 7.
อย่างไรก็ดี ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.3% y-o-y ในเดือนสิงหาคม แม้ชะลอลงจาก 8.5% ในเดือนกรกฎาคม แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนสิงหาคม เร่งตัวจาก 5.
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า เหตุการณ์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมเฟดวันที่ 20-21 กันยายน ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 75bp จากระดับ 2.25-2.50% อีกทั้งตลาดจะจับตาประมาณการดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด และการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อซึ่งจะมีผลต่อทิศทางค่าเงินในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะคงนโยบายตามเดิมในวันที่ 22 กันยายน ท่ามกลางการประเมินของบีโอเจตลอดช่วงที่ผ่านมาว่าเงินเฟ้อในญี่ปุ่นเกิดจากด้านต้นทุนและบีโอเจไม่มีทางเลือกมากนักแม้ทั่วโลกจะยกระดับการคุมเข้มนโยบายการเงินก็ตาม ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 50bp ในการประชุมสัปดาห์นี้
สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าเงินบาทผันผวนมากขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศ และติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยมองว่าเงินบาทจะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนโยบายเฟดอีกระยะหนึ่ง ขณะที่การเข้าดูแลตลาดของทางการสะท้อนความพยายามที่จะลดความผันผวนแต่ไม่สามารถสวนกระแสหลักของโลกได้เช่นเดียวกันกับกรณีบีโอเจและธนาคารกลางแห่งอื่นๆ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
จับทิศหุ้นไทยสัปดาห์หน้า 'เฟดขึ้นดอกเบี้ย -โฟลว์' กดดันตลาดบล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (19-23 ก.ย.) คาดดัชนี SET แกว่งกรอบ 1,600-1,655 จุด จับตาประชุมเฟด -โฟลว์-ตัวเลขเศรษฐกิจ
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลแจงเงินสำรองระหว่างปท.ลดเพราะตลาดเงินผันผวน ยันเสถียรภาพยังแข็งแกร่ง : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศของประเทศปรับลดลง เป็นผลมาจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ พร้อมเน้นย้ำไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และระดับเงินสำรองฯ เมื่อเทียบต่อ GDP ยังสูงกว่าหลายประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่ปรับลดลงจาก 2.78 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ระดับ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ เป็นผลมาจากการตีมูลค่าเงินสำรองฯ ที่อยู่ในสินทรัพย์หลายสกุลเงินให้เป็นสกุลดอลลาร์ โดยเงินสกุลดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สินทรัพย์สกุลอื่น ๆ เมื่อตีมูลค่าเป็นรูปดอลลาร์มีมูลค่าลดลง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินผันผวนสูงขึ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และเป็นเหตุการณ์ปกติในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนสูง มูลค่าเงินสำรองฯ ก็จะผันผวนสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังยืนยันว่าไม่พบสัญญาณการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ผิดปกติ และประเทศไทยยังมีฐานะทางการเงินที่ดี จากระดับเงินสำรองฯ ที่อยู่ประมาณ 2.4 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีเงินสำรองฯ มากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และเมื่อเทียบเงินสำรองฯ ต่อ GDP จะคิดเป็น 48% ของ GDP ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 6 ของโลก รวมถึงยังสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของไทยถึงเกือบ …
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้นำอิหร่านปรากฏตัวในศาสนพิธีหลังไม่ออกสื่อกว่า 2 สัปดาห์ สยบข่าวลือป่วยหนัก : อินโฟเควสท์อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกมาต้อนรับแขกในระหว่างพิธีทางศาสนาเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) โดยกล่าวให้ประชาชนมีความอดทนและความวิริยะอุตสาหะ นับเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่านเผยภาพคาเมเนอี วัย 83 ปี ขณะยืนปราศรัยต่อผู้ฟังที่นั่งอยู่บนพื้น โดยกล่าวถึงความสำคัญของอัรบะอีน ซึ่งเป็นศาสนพิธีของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่จัดขึ้นเพื่อสิ้นสุดช่วงไว้ทุกข์ 40 วันเพื่อรำลึกถึงการวายชนม์ของอิหม่าม ฮุสเซน หลานชายของท่านนบี มูฮัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม คาเมเนอีกล่าวต่อผู้ฟังว่า ผู้ศรัทธาควรยึดมั่นในคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งเรียกร้องให้มีความอดทนเมื่อเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก อันเป็นการอ้างถึงปัญหาเศรษฐกิจของอิหร่านในขณะนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากถูกสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตร ทั้งนี้ คาเมเนอีไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะนับตั้งแต่ที่เขาพบกับผู้ติดตามในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 3 ก.ย. จนเกิดข่าวลือในสื่อโซเชียลว่าเขาป่วย โดยแหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สลงข่าวเมื่อวันศุกร์โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า คาเมเนอีได้ยกเลิกการประชุมและกำหนดการปรากฏตัวต่อสาธารณะทั้งหมดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากล้มป่วยหนัก และระบุว่า ปัจจุบันคาเมเนอีกำลังนอนพักรักษาตัวภายใต้การดูแลของแพทย์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ดีอีเอส เห็นสัญญาณบวกคนรู้เท่าทันข่าวปลอมมากขึ้น สอดคล้องคดีลดถึง 80% : อินโฟเควสท์น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึงผลสรุปการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 9-15 ก.ย. 65 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบว่ามีจำนวนข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 11,300,442 ข้อความ โดยหลังจากคัดกรอง พบข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 470 ข้อความ เป็นจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 170 เรื่อง ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ข่าวปลอมของไทย เริ่มเห็นแนวโน้มว่าประชาชนรู้เท่าทันข่าวปลอมมากขึ้น ให้ความสนใจต่อข่าวปลอมที่ถูกแชร์ต่อๆ กันน้อยลง โดยพบว่าข่าวปลอมที่ติดอันดับคนสนใจมากสุด 10 ข่าวประจำสัปดาห์นี้ ไม่มีข่าวใดที่มียอดสนใจถึงหลักร้อย สำหรับข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับ ประกอบด้วย อันดับ 1 เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข เปิดให้กรอกข้อมูลเพื่อรับเงินช่วยเหลือโควิด-19 อันดับ 2 ดื่มเหล้าติดต่อกัน 7 วัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และหากดื่มขณะตั้งครรภ์จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ อันดับ 3 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดลงทุนหุ้น ECF กำไรสูง เริ่มต้นลงทุน 1,000 บาทอันดับ 4 …
อ่านเพิ่มเติม »
ไบเดนวอนปูตินอย่าใช้นิวเคลียร์หรืออาวุธเคมีสู้ยูเครน ขู่ระวังโลกรังเกียจ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เรียกร้องให้ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีหรืออาวุธเคมี หลังจากที่กองทัพรัสเซียโดนยูเครนโต้กลับ ปธน.ไบเดนให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “60 Minutes” ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส นิวส์ โดยตอบคำถามถึงสิ่งที่เขาจะพูดกับปธน.ปูตินหากรัสเซียพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า “อย่า อย่า อย่า นิวเคลียร์จะพลิกโฉมสงครามไปในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2” ปธน.ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐจะเริ่มตอบโต้หากรัสเซียใช้นิวเคลียร์หรืออาวุธเคมี แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยกล่าวว่ารัสเซีย “จะกลายเป็นที่น่ารังเกียจในสายตาชาวโลกมากกว่าที่เคยเป็นมา สิ่งที่พวกเขาทำจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะตอบสนองอย่างไร” การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพยูเครนขับไล่กองกำลังรัสเซียทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปธน.ปูตินถูกกลุ่มชาตินิยมในรัสเซียกดดันให้เริ่มเปิดฉากบุกอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ ปธน.ปูตินเตือนว่ารัสเซียจะจะตอบโต้อย่างรุนแรงมากขึ้นหากกองทัพของตนถูกกดดันเพิ่ม สร้างความวิตกว่าปธน.ปูตินอาจเริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กหรืออาวุธเคมี นอกจากการใช้อาวุธดังกล่าวแล้ว ปธน.ปูตินอาจเลือกที่จะเกณฑ์ทหารกองหนุนของรัสเซียซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 ล้านคน ตลอดจนกดดันยุโรปที่คอยส่งอาวุธให้ยูเครนด้วยการหยุดส่งพลังงานให้ทั้งหมด เพื่อหวังจะ “แช่แข็ง” ยุโรปในฤดูหนาวที่จะถึงนี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »