ADB หั่นคาดการณ์ เศรษฐกิจไทย ปีหน้าเหลือ 6.3% จาก 6.7% ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย อินโฟเควสท์
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขึ้นสู่ระดับ 3.2% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนก.ย.ที่ระดับ 2.9% และคงคาดการณ์เงินเฟ้อของไทยทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยเงินเฟ้อปีนี้มีแนวโน้มอยู่ที่ 6.3% และ 2.
นอกจากนี้ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยลดลงมาอยู่ที่ 4.2% ในปี 2565 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.3% และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.6% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 4.9% จากผลพวงของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งนโยบายควบคุมโควิด-19 ของจีน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ADB ยังมองว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียมีแนวโน้มที่จะเผชิญสถานการณ์ที่ดีกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ADB หั่นคาดการณ์ศก.เวียดนามปีหน้าเหลือ 6.3% จาก 6.7% เหตุดีมานด์ชะลอตัว : อินโฟเควสท์ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2565 ขึ้นสู่ระดับ 7.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.5% และปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่ระดับ 3.8% อย่างไรก็ดี ADB ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในปี 2566 ลงสู่ระดับ 6.3% จากระดับ 6.7% ADB เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียประจำปี 2565 (Asian Development Outlook 2022) โดยระบุว่า โดยระบุว่า แม้ว่าการค้าจะยังคงขยายตัว แต่สัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าส่งออกจากเวียดนามมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะความต้องการจากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเวียดนาม นอกจากนี้ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้จะยังคงได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งนโยบายควบคุมโควิด-19 ของจีน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ ADB โดยระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะลดลงมาอยู่ที่ 4.2% ในปี 2565 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.3% และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.6% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ …
อ่านเพิ่มเติม »
ADB ชี้จีนเปิดประเทศสร้างทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์นายอัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การเปิดประเทศของจีนจะนำมาทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของจีนเอง โดยแม้ว่าการยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและประเทศอื่น ๆ แต่ก็อาจส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นด้วย “ในด้านหนึ่งนั้น การเปิดประเทศของจีนก็อาจจะทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย และแน่นอนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดประเทศนั้น จะส่งผลให้จีนเผชิญทั้งภาวะขาขึ้นและขาลงไปพร้อม ๆ กัน เพราะเราต่างก็รู้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีการเปิดประเทศ” นายพาร์ค กล่าว “แต่นั่นเป็นราคาที่รัฐบาลจีนจะต้องจ่าย หากรัฐบาลต้องการที่จะเปิดประเทศและอนุญาตให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่มีนโยบายโควิดเป็นศูนย์” เขากล่าว ในรายงานล่าสุดที่มีการเผยแพร่สัปดาห์นี้ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 3.3% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 4.3% ในปี 2566 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 4.5% นอกจากนี้ ADB ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกในปี 2565 ลงเหลือ 4.2% จากระดับ 4.3% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2566 ลงเหลือ 4.6% จากระดับ 4.9% ทั้งนี้ ADB ระบุว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
ADB ชี้จีนเปิดประเทศสร้างทั้งโอกาสและความเสี่ยง : อินโฟเควสท์นายอัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ว่า การเปิดประเทศของจีนนั้นจะนำมาซึ่งทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้ นายพาร์คระบุว่า แม้การยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะช่วยส่งเสริมแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับทั้งจีนและประเทศอื่น ๆ แต่ก็ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน “การที่จีนกลับมาเปิดประเทศจะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว โดยอาจเกิดการแพร่ระบาดหลายระลอกในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ อันเป็นปัจจัยกระตุ้นให้รัฐบาลจีนหวนกลับมาดำเนินมาตรการควบคุมอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก” นายพาร์คกล่าว อย่างไรก็ตาม นายพาร์คกล่าวเสริมว่า ทั้งหมดนี้คือราคาที่รัฐบาลต้องจ่าย หากต้องการเปิดประเทศและหวนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยปราศจากนโยบายคุมเข้มโควิด ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2565 ลงมาสู่ระดับ 3% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3.3% พร้อมปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.3% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.5% เมื่อเดือนก.ย. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
เจพีมอร์แกนเพิ่มคาดการณ์ดอกเบี้ยสูงสุดของ ECB สู่ระดับ 3.25% จาก 2.50% : อินโฟเควสท์เจพีมอร์แกนปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขึ้นสู่ระดับ 3.25% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.50% หลังจาก ECB ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ “การประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมล่าสุดบ่งชี้ว่า ECB ปรับเปลี่ยนจุดยืนด้านนโยบายการเงินไปเป็นสายเหยี่ยว แม้มีความรู้สึกกังวลในบางเรื่องก็ตาม ด้วยเหตุนี้ เราจึงปรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของ ECB โดยปรับขึ้น 0.75% เป็น 3.25%” นายเกร็ก ฟูเซซี นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน กล่าว คณะกรรมการ ECB ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ “คณะกรรมการ ECB ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าจะปรับขึ้นต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับสูงเกินไป และคาดว่าจะอยู่เหนือระดับเป้าหมายนานเกินไป” แถลงการณ์ระบุ ทั้งนี้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค. และ 0.75% ทั้งในเดือนก.ย.และต.ค. โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 …
อ่านเพิ่มเติม »
น้ำมัน WTI ปิดลบ $1.17 วิตกดอกเบี้ยขาขึ้น-ดอลล์แข็งฉุดตลาด : อินโฟเควสท์สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 76.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 81.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.76% แตะที่ระดับ 104.5570 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า การที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ …
อ่านเพิ่มเติม »