5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับอาหารทะเลและน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากญี่ปุ่น

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับอาหารทะเลและน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากญี่ปุ่น
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 Thansettakij
  • ⏱ Reading Time:
  • 15 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 9%
  • Publisher: 63%

ธุรกิจประมงและส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นกำลังเผชิญกระแสต่อต้านจากจีนและฮ่องกงซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุด เป็นการตอบโต้การที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติให้ปล่อยน้ำบำบัดจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ลงสู่ทะเล ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.

ข้อมูลจากสำนักงานการประมงแห่งประเทศญี่ปุ่น พบว่า ในปี 2565 ญี่ปุ่นส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลมูลค่าทั้งสิ้น 387,000 ล้านเยน หรือราว 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในตลาดซีฟู้ดของเอเชีย โดยมีสินค้าหลักๆ คือปลาทูน่า ปลาโบนิโต และหอยเชลล์

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

Thansettakij /  🏆 23. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ฝนทิ้งช่วง ผู้เลี้ยงปลากระชังแห่เลิกเลี้ยง หวั่นขาดทุนปลาน้ำตายฝนทิ้งช่วง ผู้เลี้ยงปลากระชังแห่เลิกเลี้ยง หวั่นขาดทุนปลาน้ำตายฝนทิ้งช่วงทำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ตื้นเขิน กระทบผู้เลี้ยงปลาในกระชัง โดยตอนนี้ชาวประมงเลิกเลี้ยงปลากระชังแล้วนับสิบราย เหลือแค่ 2 รายที่ยังสู้ เพราะกลัวปลาน็อกน้ำตายทำขาดทุน และอีกปัจจัย คือ สู้ต้นทุนอาหารปลาไม่ไหว ไทยรัฐออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »

ก.ล.ต. ชี้ช่องผู้ลงทุนเรียกร้องสิทธิ หากบริษัทเผยแพร่ข้อมูลเท็จ : อินโฟเควสท์ก.ล.ต. ชี้ช่องผู้ลงทุนเรียกร้องสิทธิ หากบริษัทเผยแพร่ข้อมูลเท็จ : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยแพร่บทความ การใช้สิทธิเรียกร้องของผู้ลงทุน กรณีบริษัทเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรแจ้งในสาระสำคัญ โดยกระบวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อผู้ลงทุนทั่วไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) กำหนดให้บริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์มีหน้าที่ในการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยหลักการสำคัญคือ ต้องเปิดเผยที่ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่เป็นเท็จ และไม่ปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ลงทุนของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วง คือ 1. การเปิดเผยข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อให้ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ โดยบริษัทที่ออกหลักทรัพย์มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยบริษัทจะสามารถเสนอขายหลักทรัพย์ได้ต่อเมื่อแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว (มาตรา 65) โดยแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนจะมีข้อมูลสำคัญ เช่น วัตถุประสงค์การเสนอขาย ลักษณะการประกอบธุรกิจ ฐานะทางการเงิน ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เป็นต้น 2. การเปิดเผยข้อมูลภายหลังจากการเสนอขายหลักทรัพย์ บริษัทก็ยังคงมีหน้าที่การเปิดเผยข้อมูลอย่างต่อเนื่องให้กับผู้ลงทุน (มาตรา 56) เช่น งบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงิน หรือ รายงานประจำปี เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบรายละเอียดข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ลงทุนประกอบการตัดสินใจลงทุน การเปิดเผยข้อมูลของบริษัททั้ง 2 ช่วง บริษัทจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลที่เปิดเผย เนื่องจากหากปรากฎข้อเท็จจริงว่าข้อมูลที่มีการเปิดเผยเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรต้องแจ้งในสาระสำคัญ บริษัทอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. […]
อ่านเพิ่มเติม »

หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ไร้ปัจจัยใหม่-รอเงินเฟ้อไทย จับตาโหวตนายกฯ : อินโฟเควสท์หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ไร้ปัจจัยใหม่-รอเงินเฟ้อไทย จับตาโหวตนายกฯ : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทย และยังไร้ปัจจัยใหม่ภายนอก ส่วนปัจจัยการเมืองหลังผ่านการโหวตประธานสภาฯไปแล้วยังรอติดตามโหวตนายกฯต่อ อีกทั้งอาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่างบฯออกมาดีเข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวต้าน 1,525-1,530 จุด แนวรับ 1,500-1,505 จุด นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์เพื่อรอดูรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยในวันนี้ อีกทั้งยังไร้ปัจจัยใหม่จากภายนอก ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศหลังผ่านการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ยังต้องติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต่อ แต่อาจจะมีแรงหนุนเข้ามาในการเก็งกำไรหุ้นคาดว่ามีผลการดำเนินงานดีเข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยให้แนวต้าน 1,525-1,530 จุด แนวรับ 1,500-1,505 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

10 หุ้น SET 100 ฟรีโฟลทสูงสุด-ต่ำสุด10 หุ้น SET 100 ฟรีโฟลทสูงสุด-ต่ำสุดการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือ Free Float ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจและมีประโยชน์ไม่น้อยสำหรับผู้ลงทุนในตลาดหุ้น เพราะการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ...
อ่านเพิ่มเติม »

เฟดไฟเขียวแบงก์ใหญ่สหรัฐผ่านทดสอบ Stress Test มั่นใจรับมือศก.ถดถอยรุนแรงได้ : อินโฟเควสท์เฟดไฟเขียวแบงก์ใหญ่สหรัฐผ่านทดสอบ Stress Test มั่นใจรับมือศก.ถดถอยรุนแรงได้ : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ประจำปีของภาคธนาคารในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย (29 มิ.ย.) โดยระบุว่า ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐทั้ง 23 แห่งสามารถผ่านการทดสอบดังกล่าว เฟดระบุว่า ธนาคารรายใหญ่ทั้ง 23 แห่งมีสถานะแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ขณะเดียวกันก็ยังสามารถปล่อยกู้ให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจได้ แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรง การทดสอบ Stress Test ในปีนี้ครอบคลุมถึงการทดสอบว่าธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐจะสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอย่างรุนแรงได้หรือไม่ รวมทั้งกรณีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และราคาบ้านทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ, พื้นที่เช่าสำนักงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 10% ภายใต้การทดสอบสถานการณ์เหล่านี้ เฟดพบว่าธนาคารรายใหญ่มีอัตราส่วนโครงสร้างเงินทุนในส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity to capital ratio : EQ) ซึ่งเป็นเงินทุนกันชนเพื่อรองรับการขาดทุนนั้น จะปรับตัวลง 2.3% สู่ระดับ 10.1% อย่างไรก็ดี ธนาคารทั้ง 23 แห่งยังคงมีเงินทุนขั้นต่ำสูงกว่าข้อกำหนดในช่วงที่เศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรง แม้คาดว่าธนาคารเหล่านี้อาจขาดทุนรวมกันมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ก็ตาม การทดสอบ Stress Test มีขึ้น หลังจากเกิดภาวะปั่นป่วนในภาคธนาคารเป็นวงกว้างทั้งในสหรัฐและยุโรปในช่วงต้นปีนี้ โดยมีสาเหตุมาจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) […]
อ่านเพิ่มเติม »

ยอด ส.ส.ใหม่ รับหนังสือรับรองแล้ว 499 คน เหลือ “อนุชา” ติดภารกิจดูงานญี่ปุ่นยอด ส.ส.ใหม่ รับหนังสือรับรองแล้ว 499 คน เหลือ “อนุชา” ติดภารกิจดูงานญี่ปุ่นยอด ส.ส.ที่มารับหนังสือรับรองส.ส.จาก กกต.รวม 5 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 499 คนเหลือเพียง นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังไม่ได้มารับหนังสือเนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น สสใหม่ กกต รับรองสสใหม่ รัฐสภา
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-02-08 13:11:27