2 แบงก์สหรัฐฯ เสนอซื้อกิจการ 'ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB)' TNN TNNThailand TNNช่อง16 TNNONLINE
โดยธนาคารท้องถิ่นทั้ง 2 แห่ง ได้ยื่นเสนอซื้อ SVB ต่อสถาบันคุ้มครองเงินฝากแห่งสหรัฐฯ ก่อนกำหนดเส้นตายเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจาก FDIC เข้าควบคุมและดำเนินการขายธุรกิจของ SVB มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
นับถึงเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 “วัลเลย์ แบงก์” มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วน “เฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์” มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 8.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย และ FDIC สามารถเลือกที่จะควบคุม SVB ต่อไป หรือขายธุรกิจให้กับแบงก์รายอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม
ทั้งนี้ SVB กลายเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐฯ ที่ล้มในรอบกว่าทศวรรษ ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังจากล้มเลิกแผนการเพิ่มทุน โดย SVB เผชิญการขาดทุนอย่างหนักจากการขายหลักทรัพย์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนและผู้ฝากเงินเกิดความกังวลและแห่ถอนเงินอย่างรวดเร็ว
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
วัลเลย์ เนชันแนล เสนอซื้อกิจการซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ อีกราย : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า วัลเลย์ เนชันแนล แบนคอร์ป (Valley National Bancorp) ซึ่งเป็นเจ้าของธนาคารวัลเลย์ (Valley Bank) ได้เสนอซื้อกิจการของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) อีกราย รายงานข่าวระบุว่า ธนาคารวัลเลย์ได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) แล้ว อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันรายงานข่าวนี้จากฝ่ายใด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส (First Citizens BancShares) เจ้าของธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ (First Citizens Bank) ก็ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อกิจการของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ ด้วยเช่นกัน อนึ่ง FDIC พยายามขายธุรกิจธนบดีธนกิจ (private banking) ของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ คู่กับตัวธนาคาร SVB เองตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง SVB ถูก FDIC เข้าควบคุมกิจการเมื่อวันศุกร์ที่ 10 […]
อ่านเพิ่มเติม »
สื่อตีข่าว 'เฟิร์สต์ ซิติเซนส์' คืบหน้าเจรจาซื้อกิจการ SVB : อินโฟเควสท์สื่อหลายสำนักซึ่งรวมถึงรอยเตอร์และบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ (First Citizens BancShares) มีความคืบหน้าในการเจรจาซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) จากบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ และเจ้าหน้าที่ของ FDIC ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับข่าวดังกล่าว รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการ SVB เมื่อวันที่ 10 มี.ค. พร้อมกับมอบหมายให้ FDIC เข้าควบคุมกิจการและเป็นผู้ดูแลเงินฝากของ SVB หลังจาก SVB ประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการที่ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตาร์ตอัปในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนั้นแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
สหรัฐเล็งช่วยเหลือภาคธนาคารเพิ่มเติม หวังต่อเวลาให้เฟิร์สท์ รีพับลิค : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการสหรัฐเล็งขยายโครงการให้กู้ฉุกเฉิน (emergency lending facility) ซึ่งจะทำให้ภาคธนาคารได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้น และยังเป็นการต่อเวลาให้ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB พยุงงบดุลได้ด้วย รายงานข่าวระบุว่า ทางการสหรัฐยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนให้ความช่วยเหลือดังกล่าว และการขยายโครงการให้กู้ฉุกเฉินก็เป็นหนทางหนึ่งในการช่วยธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค ซึ่งแม้ธนาคารหลายแห่งจะได้รับประโยชน์ แต่มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค จะได้รับประโยชน์ด้วย ก่อนหน้านี้ ธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีท 11 แห่ง ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศอัดฉีดเงินรวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวต่อ FRB มีขึ้น หลังจากการล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank – SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank – SB) ได้ส่งผลกระทบลุกลามไปยังธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ปธ.เฟดมินเนอาโพลิสเผยวิกฤตแบงก์ทำให้สหรัฐเข้าใกล้ภาวะศก.ถดถอย : อินโฟเควสท์นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิสเปิดเผยว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารของสหรัฐและความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะสินเชื่อตึงตัวตามมานั้น อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย “วิกฤตการณ์นี้จะทำให้สหรัฐเข้าใกล้ภาวะถดถอยมากขึ้น เรากำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าวิกฤการณ์ในระบบธนาคารจะลุกลามจนทำให้เกิดภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อหรือไม่ และภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากเพียงใด” นายแคชคารีกล่าวในรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส นายแคชแครี ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสามารถประเมินขนาดของผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารครั้งนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงเร็วเกินไปที่จะรู้ว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) หรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อจนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการผลกระทบที่เกิดจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เม็ดเงินฝากในระบบธนาคารของสหรัฐยังคงมีเสถียรภาพในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดวิกฤตการณ์แห่ถอนเงินจากธนาคาร SVB จนเป็นเหตุให้ธนาคารแห่งนี้ล้มละลาย และทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูระบบธนาคาร โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิเคราะห์ชี้ธุรกิจร่วมทุนอาจขาดทุนราว 5 แสนล้านดอลล์หลัง SVB ล้ม : อินโฟเควสท์บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์เปิดเผยว่า หลังจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นั้น ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture capital – VC) มูลค่าราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ อาจจะเผชิญกับภาวะขาดทุน 25-30% หรือราว 5 แสนล้านดอลลาร์ นายเการาฟ ปาตันการ์ นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์เปิดเผยในวันศุกร์ (24 มี.ค.) ว่า “หลังจากการล่มสลายของ SVB เราคาดว่าจะมีการพิจารณามูลค่าการลงทุนและการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนบำเหน็จบำนาญที่มีการลงทุนอย่างมากในธุรกิจเหล่านี้” นายปาตันการ์กล่าวว่า บริษัท VC บางแห่งพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุนด้วยการถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงต่อไปหรือทำการเพิ่มทุน แต่วิธีการเหล่านั้นเป็นเพียงการชะลอการประเมินมูลค่าการลงทุนที่ไม่เป็นจริงเท่านั้น ทั้งนี้ มีบริษัท VC หลายแห่งที่มีหนี้สินสูงที่จำเป็นต้องทำการปรับโครงสร้างและรูปแบบธุรกิจใหม่เพื่อให้อยู่รอดได้ ท่ามกลางภาวะสินเชื่อที่ตึงตัว, รายได้ที่ลดลง และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »