'ไบเดน' เล็งจัดการความเสี่ยงของ AI ที่มีต่อความมั่นคง-เศรษฐกิจสหรัฐ AI ปัญญาประดิษฐ์ สหรัฐ โจไบเดน อินโฟเควสท์
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ ว่า จำเป็นต้องจัดการกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ปัญญาประดิษฐ์ มีต่อความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจ พร้อมเสริมว่า เขาจะขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
ในงานดังกล่าว ปธน.
ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อร่างกฎหมายควบคุมการใช้งานเจเนอเรทีฟเอไอ ซึ่งสามารถสร้างข้อความและรูปภาพได้ และสร้างผลกระทบได้เทียบเท่ากับผลกระทบของอินเทอร์เน็ต
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
จับตา 'พาวเวล' แถลงคองเกรส ส่งสัญญาณดอกเบี้ย,เศรษฐกิจสหรัฐ : อินโฟเควสท์นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 21 มิ.ย. ก่อนที่จะกล่าวต่อ คณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิ.ย. ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ก่อนที่จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) ในการประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 25.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% นอกจากนี้ FedWatch Tool ยังบ่งชี้ว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ไบเดน' ปลื้มสัมพันธ์สหรัฐ-จีนส่งสัญญาณคืบหน้าหลัง 'บลิงเกน' พบ 'สี จิ้นผิง' : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้แสดงความพอใจต่อผลการเดินทางเยือนประเทศจีนของนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โดยกล่าวว่าการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า หลังจากนายบลิงเกนพบปะพูดคุยกับผู้นำจีนในระหว่างการเดินทางเยือน 2 วัน ซึ่งรวมถึงการพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน “บลิงเกนทำผลงานได้ดีเยี่ยม ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐกำลังอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง” ปธน.ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐมีความคืบหน้าหรือไม่ ปธน.ไบเดนตอบว่า “ผมไม่ได้ใช้ความรู้สึก คุณก็ทราบดีว่าที่ผ่านมาเรามีความคืบหน้าในเรื่องนี้อยู่แล้ว คุณไม่ควรถามเช่นนั้น คุณควรจะถามว่าเรามีความคืบหน้าไปมากเพียงใด” นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามปธน.ไบเดนว่า เขาได้พูดคุยกับนายบลิงเกนซึ่งขณะนี้กำลังเดินทางไปยังกรุงลอนดอนเพื่อเข้าร่วมประชุมการฟื้นฟูยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์นี้หรือไม่ ปธน.ไบเดนกล่าวว่า เขาสื่อสารกับนายบลิงเกนผ่านทางนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ทั้งนี้ นายบลิงเกนได้เข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่กรุงปักกิ่งในวันจันทร์ (19 มิ.ย.) โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพระหว่างจีนและสหรัฐ โดยตระหนักว่าความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐซึ่งต่างก็เป็นสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกนั้น จะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ในระหว่างการพูดคุยกันเป็นเวลาประมาณ 35 นาทีนั้น ปธน.สีกล่าวกับนายบลิงเกนผ่านล่ามของกระทรวงการต่างประเทศจีนว่า “โลกต้องการความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพระหว่างจีนและสหรัฐ ทั้งสองประเทศสามารถแสวงหาแนวทางที่ถูกต้องเพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีให้กับมนุษยชาติ ผมคาดหวังว่าการเดินทางเยือนประเทศจีนของรัฐมนตรีบลิงเกนในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการสร้างเสถียรภาพด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ” หลังเสร็จสิ้นการพบปะกับปธน.สีแล้ว นายบลิงเกนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐบรรลุวัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้ในระดับหนึ่ง ซึ่งรวมถึงการหยิบยกข้อกังวลต่าง ๆ ขึ้นมาพูดคุยโดยตรง รวมทั้งพยายามสร้างช่องทางการเจรจาและความร่วมมือในด้านต่าง ๆ […]
อ่านเพิ่มเติม »
'อีลอน มัสก์' ชี้แผน 'ไบเดน' เก็บภาษีคนรวยเพิ่มเป็นแค่ลมปาก ไม่เกิดขึ้นจริง : อินโฟเควสท์อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐและเจ้าของบริษัทเทสลา อิงค์กล่าวว่า แผนการของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากเหล่ามหาเศรษฐีนั้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง นายมัสก์ระบุในทวิตเตอร์ว่า “ผมเห็นด้วยว่า เราควรทำให้แผนการเลี่ยงภาษีอันแยบยลกลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้บรรดาผู้บริจาคจำนวนมากไม่พอใจ ดังนั้นผมจึงมองว่า เราจะได้ยินเพียงแค่คำพูด แต่จะไม่เห็นการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น” และระบุเสริมว่า “ผู้ที่จะต้องแบกรับผลกระทบจากการใช้จ่ายเกินดุลของรัฐบาลคือ กลุ่มผู้ที่มีรายได้ต่ำจนถึงปานกลาง เนื่องจากพวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงการเสียภาษีได้” ทั้งนี้ ทวีตข้อความของนายมัสก์มีขึ้นเพื่อตอบโต้คำกล่าวของปธน.ไบเดนที่ระบุว่า “มันถึงเวลาแล้วที่บรรดามหาเศรษฐีจะเริ่มจ่ายภาษีในสัดส่วนที่เหมาะสม” ระหว่างการหาเสียงของปธน.ไบเดนในฟิลาเดลเฟียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ปธน.ไบเดนได้ขอเสียงสนับสนุนการร่วมศึกเลือกตั้งครั้งใหม่จากพนักงานของสหภาพแรงงาน พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดเก็บภาษีในอัตราใหม่จากบรรดาคนร่ำรวยและบริษัทต่าง ๆ ปธน.ไบเดนระบุว่า ในขณะที่จำนวนมหาเศรษฐีในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1,000 คน พวกเขาเสียภาษีเพียงประมาณ 8% ของรายได้เท่านั้น โดยกล่าวว่า “พวกเขาเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าครูในโรงเรียน ต่ำกว่าพนักงานดับเพลิง และอาจจะต่ำกว่าใครหลายคนในห้องนี้เสียอีก มันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องเสียภาษีขั้นต่ำ ผมไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นมหาเศรษฐีหรืออะไรก็ตาม แต่ได้เวลาจ่ายภาษีอย่างยุติธรรมแล้วพวก” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'ไบเดน' ยันคำขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีของ 'ปูติน' เป็นเรื่องจริง : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐกล่าวเมื่อวันจันทร์ (19 มิ.ย.) ว่า คำขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย นั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากปธน.ไบเดนประณามการที่รัสเซียติดตั้งอาวุธดังกล่าวในเบลารุส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ปธน.ไบเดนกล่าวถึงคำประกาศของปธน.ปูตินที่ว่า รัสเซียได้ส่งอาวุธนิวเคลียร์ชุดแรกไปยังเบลารุสว่า “ไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่ง” ในระหว่างพบปะกับกลุ่มผู้บริจาครายใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ปธน.ไบเดนระบุว่า “ตอนที่ผมมาที่นี่เมื่อ 2 ปีก่อน และกล่าวว่าผมกังวลว่าแม่น้ำโคโลราโดจะเหือดแห้ง ทุกคนมองเหมือนผมเป็นคนบ้า” “พวกเขามองผมแบบเดียวกันเหมือนตอนที่ผมกล่าวว่า ผมกังวลว่าปูตินจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง” ปธน.ไบเดนกล่าว ขณะเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเบลารุสกล่าวว่า เบลารุสเริ่มรับมอบอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีของรัสเซีย ซึ่งบางลูกมีแสนยานุภาพร้ายแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่สหรัฐใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิเมื่อปี 2488 ถึง 3 เท่า รายงานระบุว่า การติดตั้งอาวุธดังกล่าวนับเป็นการเคลื่อนย้ายหัวรบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกนอกรัสเซีย นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต โดยเป็นอาวุธนิวเคลียร์ที่มีพิสัยสั้นกว่าและมีอานุภาพน้อยกว่าซึ่งสามารถใช้ในสนามรบได้ อย่างไรก็ดี สหรัฐแถลงว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนจุดยืนต่ออาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์เพื่อตอบโต้การติดตั้งดังกล่าว และไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า รัสเซียกำลังเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพ.ค. รัสเซียเพิกเฉยต่อคำวิจารณ์ของปธน.ไบเดนเกี่ยวกับแผนการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในเบลารุส โดยกล่าวว่า สหรัฐได้ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าวในยุโรปมานานหลายทศวรรษแล้ว […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ไบเดน' คาดหวังพบ 'สี จิ้นผิง' ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แสดงความหวังว่าจะได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมกับแสดงความเห็นว่า รัฐบาลจีนภายใต้การนำของปธน.สี ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับบอลลูนสอดแนมของจีนที่สหรัฐยิงตกไปเมื่อเดือนก.พ. “กฎหมายของจีนและสหรัฐมีความแตกต่างกัน ผมไม่คิดว่าปธน.สีจะทราบถึงตำแหน่งที่ตั้งของบอลลูน และวัตถุประสงค์ของบอลลูนลูกนั้น ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกิดจากความตั้งใจของจีน และผมคาดหวังว่าจะได้พบปะกับปธน.สีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ” ปธน.ไบเดนกล่าวก่อนขึ้นเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ไปยังฟิลาเดลเฟีย เพื่อกล่าวสุนทรพจน์เพื่อเริ่มต้นการหาเสียงเลือกตั้งใหม่ในปี 2567 การแสดงความคิดเห็นของปธน.ไบเดนมีขึ้นในขณะที่นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เดินทางเยือนประเทศจีน และเข้าพบปะกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ที่กรุงปักกิ่งในวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.) โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐ ก่อนหน้านี้ นายบลิงเกนมีกำหนดเดินทางเยือนจีนในเดือนก.พ. แต่แผนการถูกระงับไป ด้วยประเด็นเรื่องบอลลูนสอดแนมของจีนที่ล่วงล้ำเข้ามายังน่านฟ้าของสหรัฐ จนทำให้กองทัพสหรัฐตัดสินใจยิงบอลลูนทิ้ง ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐตึงเครียดเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้ การเยือนจีนของนายบลิงเกน เป็นการปูทางถึงความเป็นไปได้ที่ปธน.ไบเดนจะได้พบปะกับปธน.สี หลังจากที่ผู้นำทั้งสองพบปะกันครั้งแรกที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพ.ย. 2565 นอกรอบการประชุม G20 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. […]
อ่านเพิ่มเติม »
โพลชัดชาวอเมริกัน 71% ไม่เอาแล้วไบเดนสื่ออังกฤษทำโพลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดี และพบว่าผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่เกิน 71% และแม้กระทั่งฝั่งพรรคเดโมแครตก็มองว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แก่เกินกว่าจะเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2
อ่านเพิ่มเติม »