'แอนโทนี เฟาชี' จวกการแบ่งขั้วการเมืองขัดขวางภารกิจสกัดโควิดสหรัฐ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

'แอนโทนี เฟาชี' จวกการแบ่งขั้วการเมืองขัดขวางภารกิจสกัดโควิดสหรัฐ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 20 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 11%
  • Publisher: 68%

'แอนโทนี เฟาชี' จวกการแบ่งขั้วการเมืองขัดขวางภารกิจสกัดโควิดสหรัฐ CDC สหรัฐ อินโฟเควสท์

ทั้งนี้ นายแพทย์เฟาชีรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการแพทย์ระดับสูงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ โดยเขาประกาศในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าจะยุติบทบาทการทำงานในช่วงสิ้นปีนี้ หลังจากทำงานรับใช้ประชาชนมานานกว่า 50 ปี

นายแพทย์เฟาชีเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เขาคาดการณ์เอาไว้ว่าสหรัฐจะก้าวผ่านการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในปีแรกที่คณะบริหารของปธน.ไบเดนเข้ามาดูแลประเทศ แต่สถานการณ์กลับยืดเยื้อยาวนานกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนี้ นายแพทย์เฟาชีระบุด้วยว่า สหรัฐต้องเรียนรู้บทเรียนจากโควิด-19 เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ระบาดในอนาคต พร้อมระบุว่า ธรรมเนียมปฏิบัติในศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ นั้น

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

'แอนโทนี' รับข้อเสนอ 'ผีแดง' รอต้นสังกัดเคลียร์ค่าตัว'แอนโทนี' รับข้อเสนอ 'ผีแดง' รอต้นสังกัดเคลียร์ค่าตัวแอนโทนี ปีกจอมเทคนิคชาวบราซิเลียนของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยักษ์ใหญ่แห่งศึกเอเรดิวีซีลีก เนเธอร์แลนด์ ยอมรับข้อเสนอของทีม 'ปีศาจแดง' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมเมืองผู้ดีได้แล้ว โดยรอเพียง 2 สโมสรเคลียร์เรื่องค่าตัวกันเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม »

ADB ชี้วิกฤตโควิดทำภูมิภาคเอเชียล่าช้าในการบรรลุเป้าหมายลดความยากจน : อินโฟเควสท์ADB ชี้วิกฤตโควิดทำภูมิภาคเอเชียล่าช้าในการบรรลุเป้าหมายลดความยากจน : อินโฟเควสท์ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานในวันนี้ระบุว่า วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การต่อสู้กับความยากจนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องหยุดชะงักเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี และอาจทำให้ภูมิภาคแห่งนี้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าเดิมในการที่จะหลุดพ้นจากปัญหาความยากจน รายงาน “The Key Indicators for Asia and the Pacific 2022” ของ ADB ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยลดปัญหาความยากจนขั้นรุนแรงลงสู่ระดับที่น่าจะบรรลุได้ในปี 2563 หากไม่เกิดโรคโควิด-19 แพร่ระบาด โดยนิยามของความยากจนขั้นรุนแรงในที่นี้หมายถึงกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยกว่า 1.90 ดอลลาร์/วัน ADB ยังระบุด้วยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอุปสรรคขัดขวางแนวโน้มการลดความยากจนในเอเชียแปซิฟิก โดยส่วนใหญ่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียตำแหน่งงานอย่างมีนัยสำคัญ และจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม ทั้งนี้ ADB เตือนว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอาจเผชิญกับความล่าช้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ซึ่งหมายความว่าภูมิภาคแห่งนี้อาจประสบกับความล่าช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการบรรลุเป้าหมายการลดความยากจน, ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการปรับปรุงแรงขับเคลื่อนทางสังคม ADB คาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 ความยากจนขั้นรุนแรงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 1% ในขณะเดียวกัน ประชากรประมาณ 25% มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายการก้าวขึ้นสู่ชนชั้นกลางเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ดี …
อ่านเพิ่มเติม »

SCB EIC เผยผู้บริโภคปรับพฤติกรรมซื้อสินค้ารับค่าครองชีพแพง หันรัดเข็มขัดลดฟุ่มเฟือย : อินโฟเควสท์SCB EIC เผยผู้บริโภคปรับพฤติกรรมซื้อสินค้ารับค่าครองชีพแพง หันรัดเข็มขัดลดฟุ่มเฟือย : อินโฟเควสท์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ระบุว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคไทยจำนวน 2,676 คน ในช่วงระหว่างวันที่ 8-22 ก.ค. 65 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมในช่วงที่ราคาสินค้าและบริการมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากผลสำรวจ ได้บ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ทรงตัว โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น ด้วยการปรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มีแนวโน้มต่อเนื่องไปในระยะข้างหน้า จากการที่ผู้บริโภคยังมองว่า รายจ่ายของตนจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่ารายได้ ประกอบกับปัญหาทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญอยู่ ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องรัดเข็มขัดต่อไป สำหรับผลการสำรวจผู้บริโภค สามารถแบ่งเป็น 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. ประเด็น “รายได้ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สวนทางกับสถานการณ์ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากกว่า” พบว่า แม้ว่าแนวโน้มรายได้ผู้บริโภคในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาดีขึ้นกว่าการสำรวจในช่วงปีก่อนหน้า แต่รายได้ของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังทรงตัว โดย 73% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อพิจารณาตามรายได้ พบว่า …
อ่านเพิ่มเติม »

ชาวอเมริกันเตรียมฉีดวัคซีนโควิดชนิดใหม่หลังวันแรงงาน 5 ก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์ชาวอเมริกันเตรียมฉีดวัคซีนโควิดชนิดใหม่หลังวันแรงงาน 5 ก.ย.นี้ : อินโฟเควสท์หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า ประชาชนชาวสหรัฐที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป สามารถเริ่มเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้หลังวันแรงงานของสหรัฐซึ่งตรงกับวันที่ 5 ก.ย.นี้ หนังสือพิมพ์ระบุว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความต้องการที่จะอนุมัติวัคซีนเข็มกระตุ้นดังกล่าวโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ว่า ทางบริษัทได้ยื่นขออนุมัติต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดไบวาเลนต์ (bivalent vaccine) กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในกรณีฉุกเฉิน ส่วนเมื่อวันจันทร์ (22 ส.ค.) บริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทคเปิดเผยว่า ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการทดลองใช้วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดไบวาเลนต์กับกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปแล้ว ทั้งนี้ วัคซีนชนิดใหม่นี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในปี 2563 เท่านั้น แต่ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐได้อีกด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางสหรัฐคาดหวังว่า การเปิดตัววัคซีนใหม่อย่างรวดเร็วจะสามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้ แม้จะยังมีความกังวลว่า ประชาชนจะให้ความร่วมมือในการฉีดวัคซีนครั้งนี้มากน้อยเพียงใด โดยข้อมูลจากนิวยอร์ก ไทมส์ระบุว่า ขณะนี้ มีชาวสหรัฐ 67% ที่ได้รับวัคซีนดั้งเดิมครบถ้วน และมีเพียง 33% …
อ่านเพิ่มเติม »

เพื่อไทย-ก้าวไกล พร้อมใจแต่งดำเข้าประชุมสภาฯ ไว้ทุกข์บิ๊กตู่เป็นนายกฯครบ 8 ปี : อินโฟเควสท์เพื่อไทย-ก้าวไกล พร้อมใจแต่งดำเข้าประชุมสภาฯ ไว้ทุกข์บิ๊กตู่เป็นนายกฯครบ 8 ปี : อินโฟเควสท์รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ซึ่งมีวาระการประชุม ได้แก่ รับทราบเรื่องที่วุฒิสภาได้ลงมติให้ขยายเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ออกไปเป็นกรณีพิเศษอีก 30 วัน และรับทราบเรื่องที่วุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว จากนั้นจะเป็นการพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. …. และเรื่องด่วน จำนวน 10 เรื่อง อาทิ ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …., ร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …., ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เป็นต้น ขณะเดียวกัน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชบุรี, นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน, …
อ่านเพิ่มเติม »

ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวเดือนส.ค. หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด : อินโฟเควสท์ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวเดือนส.ค. หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเกาหลีใต้ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นในเดือนส.ค. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเกาหลีใต้ (BSI) เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 81 จากระดับ 80 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน การฟื้นตัวของดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมด ยกเว้นคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยในอาคารซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจยังได้ปัจจัยบวกจากภาคบริการที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ข้อมูลของ BOK ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทในภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 80 ในเดือนส.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค. ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทในภาคบริการ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 82 ในเดือนส.ค. จากระดับ 80 ในเดือนก.ค. ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวได้จากการสำรวจบริษัทในภาคการผลิตจำนวน 1,662 แห่ง และบริษัทในภาคบริการ 1,159 แห่งในระหว่างวันที่ 9-17 ส.ค. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-07 06:19:23