'เมตา' แย้มสร้างชิปคอมพิวเตอร์หนุน AI หลังปรับโครงสร้างองค์กร AI ชิปคอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ เมตา อินโฟเควสท์
บริษัทเมตาของนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กได้สร้างชิปคอมพิวเตอร์แบบกำหนดเอง เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจของปัญญาประดิษฐ์ และการประมวลผลวิดีโอ โดยได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก
บรรดานักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการลงทุนใน AI และฮาร์ดแวร์ของศูนย์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องของเมตา หลังจากที่เมตาได้เริ่มต้นปรับโครงสร้างองค์กร เช่น การปลดพนักงานอย่างน้อย 21,000 ตำแหน่ง และลดต้นทุนธุรกิจขนานใหญ่
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'เชลล์' เตรียมใช้เทคโนโลยี AI สำรวจแหล่งน้ำมันใต้ทะเลลึก : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เชลล์ (Shell) บริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของโลก จะใช้เทคโนโลยีที่ใช้เอไอจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่าง สปาร์กคอกนิชัน (SparkCognition) ในการสำรวจใต้ทะเลและการผลิตน้ำมัน เพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งมากขึ้น รายงานระบุว่า อัลกอริทึมเอไอของสปาร์กคอกนิชัน จะประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากคลื่นไหวสะเทือนจำนวนมากเพื่อตามล่าหาแหล่งกักเก็บน้ำมันแห่งใหม่ของเชลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ นายกาเบรียล เกอร์รา รองประธานฝ่ายนวัตกรรมและประสิทธิภาพของเชลล์ระบุว่า “เรามุ่งมั่นที่จะค้นหาแนวทางใหม่และที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมในการคิดค้นวิธีการสำรวจของเราใหม่” เชลล์ระบุว่า เป้าหมายคือการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและความเร็ว และเพิ่มผลผลิตและความสำเร็จในการสำรวจ โดยกระบวนการใหม่นี้สามารถลดระยะเวลาการสำรวจให้เหลือน้อยกว่า 9 วัน จาก 9 เดือน นายบรูซ พอตเตอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของบริษัท สปาร์กคอกนิชัน จากเมืองออสติน รัฐเท็กซัส กล่าวว่า “เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) สำหรับการถ่ายภาพข้อมูลคลื่นไหวสะเทือน สามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการสำรวจ และมีผลลัพธ์ในวงกว้างด้วย” ทั้งนี้ เชลล์ระบุว่า เทคโนโลยีนี้จะสร้างภาพใต้ผิวดิน โดยใช้การสแกนข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนน้อยกว่าปกติ ซึ่งช่วยในการอนุรักษ์ใต้ทะเลลึก พร้อมเสริมว่า เทคโนโลยีแผ่นดินไหวจะส่งคลื่นเสียงเพื่อสำรวจพื้นที่ใต้ผิวดิน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter […]
อ่านเพิ่มเติม »
อดีตซีอีโอกูเกิลเตือนจีนใช้ AI เสริมแกร่งทางทหาร หวังเจาะแสนยานุภาพสหรัฐ : อินโฟเควสท์นายอีริค ชมิดท์ อดีตซีอีโอของกูเกิล (Google) กล่าวว่า การที่จีนนำปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) มาใช้ในการทำสงคราม นับเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปทุก ๆ ที่ ตั้งแต่ซิลิคอนวัลเลย์ ไปจนถึงกระทรวงกลาโหมสหรัฐ นายชมิดท์ เป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่หยิบยกประเด็นข้อกังวลนี้ขึ้นมา และเขาได้ขึ้นให้การเกี่ยวกับจีนต่อสภาคองเกรสเมื่อเย็นวานนี้ (17 พ.ค.) ในฐานะหัวหน้าโครงการริเริ่มที่มุ่งเน้นการเร่งปรับใช้เอไอในสถาบันของกระทรวงกลาโหม โครงการศึกษาการแข่งขันพิเศษ (Special Competitive Studies Project) ของนายชมิดท์ระบุในรายงานฉบับล่าสุดในเดือนนี้ว่า สหรัฐต้องออกแบบกองทัพใหม่เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามนี้ “จีนได้รวบรวมความสามารถขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งออกแบบมาเพื่อต่อต้านการต่อสู้แบบดั้งเดิมของอเมริกันโดยเฉพาะ” รายงานระบุ โดยรายงานได้อธิบายถึงความมุ่งมั่น 30 ปีของจีนในการศึกษาปฏิบัติการรบของสหรัฐ ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สามารถเจาะทะลวงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐได้ และตอนนี้มีความช่วยเหลือจากเอไอเสริมไปด้วย รายงานชี้อีกว่าการที่กองทัพสามารถใช้เอไอได้เร็วกว่าศัตรูจะเป็นกุญแจสำคัญในความแข็งแกร่งของกองทัพ ระหว่างกล่าวต่อสมาชิกสภาสหรัฐ นายชมิดท์เตือนว่า จีนได้ลงทุนในเอไอด้านกลาโหมมากกว่าสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีการ “หลอมรวมพลเรือนและทหาร” ซึ่งทำให้บริษัทด้านการค้าของจีนสามารถทำงานกับกองทัพได้อย่างใกล้ชิด เขากล่าวว่า สหรัฐนำหน้าไปเพียงเล็กน้อย เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ในด้านที่สำคัญอย่างเช่น เอไอ และคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่เขาเตือนว่ามีเหตุผลมากพอที่จะคิดว่าจีนมีบุคลากรจำนวนมากที่ทำงานเกี่ยวกับเอไอเชิงกลยุทธ์ ทั้งนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐบางราย รวมถึง นายอีลอน มัสก์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
บีที กรุ๊ป จ่อโละพนักงาน 55,000 คน ภายในปี 2573 เตรียมปรับใช้ AI : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (18 พ.ค.) ว่า บีที กรุ๊ป (BT Group) ผู้ให้บริการบรอดแบนด์และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ จะเลิกจ้างพนักงานมากถึง 55,000 ตำแหน่ง รวมถึงพนักงานสัญญาจ้าง ภายในปี 2573 ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 40% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ในขณะที่บริษัทดำเนินการเปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI บีที กรุ๊ป ภายใต้การนำของนายฟิลลิป แจนเซ่น ผู้เป็นซีอีโอ ได้ดำเนินแผนการพลิกโฉมบริษัทเพื่อสร้างเครือข่ายไฟเบอร์ระดับประเทศ ตลอดจนการเปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือความเร็วสูง 5G บีที รายงานการคาดการณ์ว่ารายได้และกำไรมีการเติบโตขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี อย่างไรก็ดี ต้นทุนในการพลิกโฉมธุรกิจและผลกระทบที่มีต่อกระแสเงินสดอิสระได้ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงมากกว่า 8% ในการซื้อขายช่วงต้น นายแจนเซ่นกล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการเปิดตัวเครือข่ายไฟเบอร์ การเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานให้เป็นดิจิทัล การปรับใช้ AI และการปรับโครงสร้างให้ง่ายขึ้นแล้วนั้น บีทีจะพึ่งพาพนักงานในจำนวนที่น้อยลงกว่าเดิมมากและลดต้นทุนลงได้มากก่อนปี 2573 ทั้งนี้ บีทีระบุว่า จำนวนพนักงานของบริษัทจะลดลงจาก 130,000 คน สู่ระหว่าง 75,000-90,000 คน ภายในปีงบการเงิน […]
อ่านเพิ่มเติม »
'โกลด์แมน แซคส์' ชี้ AI ส่อแววหนุนกำไรบริษัทใน S&P500 ถึง 30% ในทศวรรษหน้า : อินโฟเควสท์โกลด์แมน แซคส์มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเชื่อว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยหนุนกำไรบริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในดัชนี S&P500 ของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้า “ในช่วง 10 ปีข้างหน้า AI สามารถเพิ่มผลิตภาพได้ถึง 1.5% ต่อปี ซึ่งจะช่วยหนุกำไรบริษัทในดัชนี S&P500 ได้ถึง 30% ขึ้นไปในช่วง 10 ปีข้างหน้า” นายเบน สไนเดอร์ นักกลยุทธ์ระดับอาวุโสของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันนี้ (18 พ.ค.) รายงานระบุว่า การอุบัติขึ้นของแชตจีพีที (ChatGPT) ซึ่งเป็นแชตบอตที่โอเพ่นเอไอ (OpenAI) เป็นผู้พัฒนา ได้สร้างกระแสนิยมในตัว AI และเป็นไปได้ที่จะกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งยังสร้างความตื่นเต้นในกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปัจจัยขับเคลื่อนกำไรใหม่ ๆ ในช่วงเวลาที่ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้นและปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานได้บั่นทอนมุมมองเชิงบวก “ปัจจัยบวกมากมายที่นำไปสู่การเพิ่มพูนผลกำไรของบริษัทบนกระดาน S&P 500 ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่มุมมองเชิงบวกที่แท้จริงมาจากผลิตภาพที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นผ่าน AI” นายสไนเดอร์กล่าว “กลุ่มนักลงทุนต่างก็ตระหนักอย่างชัดแจ้งว่า บริษัทที่จะได้ประโยชน์จาก AI แบบทันทีทันใดก็คือภาคเทคโนโลยี แต่กลุ่มนักลงทุนยังไม่แน่ใจว่า บริษัทใดจะได้รับผลประโยชน์จาก AI […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ไมโครซอฟท์' ชี้ AI กระทบตลาดแรงงาน แต่อาจช่วยสร้างงานใหม่ : อินโฟเควสท์นายสัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากสหรัฐให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ “ทุกภาคส่วนในสังคม” ต้องผนึกกำลังกันเพื่อ “เพิ่มโอกาสสูงสุดและลดภัยอันตราย” ของเทคโนโลยีชนิดดังกล่าว “เราต้องการประโยชน์จากเทคโนโลยี AI และเราต้องการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา โดยการผนึกกำลังกันของผู้นำและทุกภาคส่วนนั้นถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่จำเป็นต้องทำให้ได้” นายนาเดลลากล่าว ทั้งนี้ กลุ่มสมาชิกสภา ผู้นำ และนักพัฒนาต่างคิดหาวิธีที่จะกำกับดูแลกฎระเบียบเกี่ยวกับเทคโนโลยี Generative AI นับตั้งแต่อยู่ในกระแสความสนใจของสาธารณชน หลังการเปิดตัวแชตบอต “แชตจีพีที” (ChatGPT) ของโอเพ่นเอไอ (OpenAI) เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นายนาเดลลาระบุว่า การพัฒนา AI นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผู้คนยังคงเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อกระบวนการดังกล่าว พร้อมกล่าวเสริมว่า แม้ทุกครั้งที่เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้น จะส่งผลกระทบต่อตลาดงาน แต่เขาเชื่อว่า AI จะช่วยสร้างงานใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »